KAVE playground

โคโลคาเซียน่า: ไม้ประดับใบสวยที่ปลูกง่ายและทำเงินได้ดีจริงหรือ?

โคโลคาเซียน่าคืออะไร? ทำความรู้จักกับไม้ประดับสุดฮิต

โคโลคาเซียน่า (Colocasia) เป็นพืชในวงศ์ Araceae มีถิ่นกำเนิดในเอเชียและพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย พืชชนิดนี้มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น เช่น ตุน บอนจีนดำ หรือบอน โคโลคาเซียเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีหัวใต้ดินขนาดใหญ่แต่ไม่มีลำต้น สามารถเติบโตได้สูงประมาณ 1-3 เมตร ลักษณะเด่นของโคโลคาเซียคือใบรูปหัวใจขนาดใหญ่ที่สามารถแผ่กว้างได้ถึง 1 เมตร มีปลายใบรี โคนใบมน และผิวใบมีไขทำให้น้ำไม่เปียก

โคโลคาเซียแตกต่างจากบอนประเภทอื่นๆ อย่างชัดเจน โดยในกลุ่มบอนยังมีอีก 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่:

  1. Caladium (บอนสี) – มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ ส่วนใหญ่เป็นต้นไม้เพาะเลี้ยง มีขนาดเล็ก ความสูงไม่เกิน 0.5 เมตร
  2. Alocasia (อโลคาเซีย) – มีถิ่นกำเนิดในเอเชียและออสเตรเลีย เป็นต้นไม้ล้มลุกที่มีลำต้น สามารถสูงได้ถึง 2 เมตร ใบมักมีทรงแคบคล้ายหัวลูกศร ปลายแหลมมีติ่ง
  3. Xanthosoma (ซันโตโซมา) – มีถิ่นกำเนิดในอเมริกา ความสูงประมาณ 0.5-1 เมตร ใบทรงแคบรูปลูกศร

วิธีสังเกตความแตกต่างระหว่างโคโลคาเซียและอโลคาเซียที่ง่ายที่สุดคือ ใบของโคโลคาเซียมักชี้ลงด้านล่าง ในขณะที่ใบของอโลคาเซียมักจะตั้งตรงหรือชี้ขึ้นด้านบน นอกจากนี้ ถ้าใบมีความมันวาวและเงา มักจะเป็นอโลคาเซีย และหากต้นสูงเกิน 5-6 ฟุต มักจะเป็นโคโลคาเซีย เนื่องจากอโลคาเซียมักมีขนาดเล็กกว่า

ทำไมโคโลคาเซียน่าจึงเป็นที่นิยม? ข้อดีที่ทำให้นักจัดสวนหลงรัก

โคโลคาเซียน่าได้รับความนิยมอย่างมากในวงการไม้ประดับด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรก ใบขนาดใหญ่และรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์สามารถสร้างจุดเด่นให้กับสวนได้ทันที ความหลากหลายของสีใบตั้งแต่เขียวสด ม่วง ดำ ไปจนถึงลายด่างผสมผสาน ทำให้นักจัดสวนมีตัวเลือกมากมายในการออกแบบ

นอกจากนี้ โคโลคาเซียยังเป็นพืชที่ปรับตัวได้ดี สามารถเติบโตได้ทั้งในที่แดดเต็มและในร่มบางส่วน ความสามารถในการเติบโตใกล้แหล่งน้ำหรือในพื้นที่ชื้นทำให้สามารถใช้แก้ปัญหาพื้นที่ชื้นแฉะในสวนได้อย่างสวยงาม และที่สำคัญ โคโลคาเซียสามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและลงดิน ทำให้เหมาะกับทั้งผู้ที่มีพื้นที่จำกัดและผู้ที่มีพื้นที่กว้าง

ประโยชน์ของโคโลคาเซียในการจัดสวนมีหลากหลาย:

  1. สร้างบรรยากาศเขตร้อน – ใบขนาดใหญ่ช่วยสร้างความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่าเขตร้อน
  2. ใช้เป็นฉากหลัง – ความสูงและขนาดใบทำให้เป็นฉากหลังที่ดีสำหรับพืชเตี้ยกว่า
  3. จัดกรอบแนวทางเดิน – ปลูกเป็นแนวตามทางเดินเพื่อสร้างความโดดเด่น
  4. เพิ่มความเป็นส่วนตัว – เมื่อปลูกในกระถางบนระเบียงหรือพื้นที่พักผ่อน จะช่วยสร้างความเป็นส่วนตัว
  5. ลดความเครียด – การดูแลต้นไม้ เช่น การรดน้ำและตัดแต่ง ช่วยลดความดันโลหิตและทำให้จิตใจสงบ

10 สายพันธุ์โคโลคาเซียน่าที่น่าปลูก สวยแปลกและมีเอกลักษณ์

โคโลคาเซียมีมากกว่า 200 สายพันธุ์ แต่มีสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมและมีความโดดเด่นเฉพาะตัวที่น่าสนใจ ดังนี้:

1. โคโลคาเซีย หน้ากากฟาโรห์ (Colocasia Pharaoh’s Mask)

สายพันธุ์ผสมที่มีความสูงประมาณ 1-1.5 เมตร โดดเด่นด้วยเส้นกลางใบสีเขียวเข้มเกือบดำที่เห็นได้ชัดเจนและนูนขึ้นจากผิวใบสีเขียว ใบมีขนาดใหญ่และเมื่อโตเต็มที่ขอบใบจะโค้งลง สร้างรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์

2. โคโลคาเซีย แบล็กเมจิก (Colocasia Black Magic)

หรือที่รู้จักกันในชื่อบอนดำ หรือบอนดำจีน เป็นบอนขนาดกลางที่มีใบสีดำเด่นสะดุดตา ก้านใบมีสีแดงอมม่วงเกือบดำ และมีดอกออกเป็นช่อสีแดง-ส้มตัดกันอย่างสวยงาม เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่นิยมนำไปจัดสวนมากที่สุด

3. บอนก้านดำ (Colocasia Black Stem)

บอนสายพันธุ์นี้มีใบรูปหัวใจสีเขียวที่สามารถแผ่กว้างได้ถึง 3 ฟุต ความโดดเด่นอยู่ที่ก้านใบสีม่วง-ดำอวบน้ำขนาดใหญ่ที่ตัดกับสีเขียวของใบได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีดอกที่มีกลิ่นหอมอีกด้วย

4. โคโลคาเซีย โมจิโต้ (Colocasia Mojito)

บอนใบด่างที่มีใบสีเขียวแต้มจุดสีน้ำเงิน-ดำกระจายทั่วใบ ลำต้นมีขนาดไม่ใหญ่มาก ความสูงประมาณ 0.5-1 เมตร ทำให้เหมาะสำหรับปลูกในกระถางวางประดับบ้านหรือตกแต่งระเบียง เป็นที่ต้องการของนักสะสมไม้ประดับ

5. โคโลคาเซีย แนนซี่ (Colocasia Nancy’s Revenge)

บอนขนาดเล็กที่มีลักษณะพิเศษคือ ในช่วงแรกใบจะเป็นสีเขียวเข้ม แต่เมื่อโตเต็มที่ใบจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อน มีเส้นกลางใบสีขาวอมเหลืองที่เห็นได้ชัดเจนแตกแขนงไปทั่วทั้งใบ สร้างลวดลายคล้ายรูปตัว “Y”

6. โคโลคาเซีย ไวท์ลาวา (Colocasia White Lava)

มีลักษณะคล้ายโคโลคาเซีย แนนซี่ แต่มีความแตกต่างที่ผิวใบเป็นมันและขรุขระ โคนใบเว้าไม่ลึก และเส้นกลางใบมีสีขาวอมเหลืองขนาดใหญ่กว่า โดยเฉพาะบริเวณสะดือใบ แต่จะจางลงบริเวณขอบใบ

7. โคโลคาเซีย บลูฮาวาย (Colocasia Blue Hawaii)

บอนพันธุ์ผสมที่มีผิวใบสีเขียวตัดด้วยเส้นกลางใบและขอบใบสีม่วง-ดำ ขนาดเส้นสีม่วงเท่ากันทั่วทั้งใบ ลำต้นมีขนาดกลาง สามารถปลูกในกระถางหรือพื้นที่ขนาดเล็กได้ เจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีความชื้นสูง

8. โคโลคาเซีย คอฟฟี่คัพ (Colocasia Coffee Cups)

สายพันธุ์ที่ค้นพบในอินโดนีเซีย มีความน่าสนใจที่ใบสีเขียวผิวมันงุ้มขึ้นและตั้งตรงคล้ายถ้วยชา ผิวใบตัดด้วยเส้นกลางใบสีม่วงอมแดงเข้ม สามารถเก็บน้ำได้ และเมื่อน้ำเต็มใบก็จะคว่ำลงให้น้ำไหลออก

9. โคโลคาเซีย แบล็ก บิวตี้ (Colocasia Black Beauty)

สายพันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่และได้รับความนิยมไม่น้อย โดดเด่นด้วยใบสีเขียวผสมลายสีม่วงอมดำ ตัดด้วยเส้นกลางใบและขอบใบสีเขียวอ่อน ให้ความรู้สึกหรูหราและมีเสน่ห์

10. โคโลคาเซีย เลมอนไลม์ เก็กโค (Colocasia Lemon Lime Gecko)

เอกลักษณ์ของสายพันธุ์นี้คือ จุดสีแดงหรือชมพูบริเวณสะดือใบ ก้านใบสีดำ ส่วนใบมีลายด่างสีเขียวเข้มและเขียวอ่อนสลับกันไป เป็นสายพันธุ์ที่ดูแลง่าย แข็งแรง และโตไว เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นปลูก

วิธีปลูกและดูแลโคโลคาเซียน่าให้เติบโตสวยงาม

การปลูกและดูแลโคโลคาเซียน่าไม่ยากหากเข้าใจความต้องการพื้นฐานของพืชชนิดนี้ ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำในการปลูกและดูแล:

การเลือกสถานที่ปลูก

โคโลคาเซียสามารถเติบโตได้ทั้งในที่แดดเต็มและในร่มบางส่วน อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนจัด ควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดรำไร หากปลูกในที่แดดจัด ใบอาจจะไหม้ได้ ในสภาพแวดล้อมที่แดดเต็มวัน โคโลคาเซียมักจะเติบโตในลักษณะกระชับและมีสีสันสดใส ส่วนในที่ร่ม มักจะมีขนาดใหญ่กว่า

ดินและการเตรียมพื้นที่ปลูก

โคโลคาเซียชอบดินที่อุดมสมบูรณ์ เก็บความชื้นได้ดีแต่ไม่แฉะ และระบายน้ำได้ดี ดินร่วนผสมอินทรียวัตถุเป็นตัวเลือกที่ดี ค่า pH ที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 5.5 ถึง 7.0 หากปลูกในกระถาง ควรใช้กระถางที่มีรูระบายน้ำและใช้ดินผสมที่มีส่วนผสมของโคโคเพียท เพอร์ไลท์ และปุ๋ยหมัก

การปลูก

โคโลคาเซียสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี ทั้งการแยกหน่อ การปักชำหัว และการเพาะเมล็ด วิธีที่นิยมที่สุดคือการปลูกด้วยหัว โดยควรปลูกหัวให้ลึกประมาณ 6-8 นิ้ว และห่างกัน 18-24 นิ้ว ควรปลูกโดยให้ส่วนแคบของหัวชี้ขึ้นและส่วนรากชี้ลง หลังจากปลูกควรรดน้ำให้ชุ่มเพื่อให้ดินเกาะรอบหัว

การรดน้ำ

โคโลคาเซียชอบน้ำมาก ควรรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอแต่ไม่แฉะ ควรรดน้ำวันละครั้งในช่วงเช้า และหากเป็นไปได้ควรรดให้ห่างจากโคนต้นและใบ การรดน้ำในช่วงเย็นจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดรอยไหม้บนใบ และยังให้พืชมีเวลาทั้งคืนในการดูดซึมความชื้น

การใส่ปุ๋ย

โคโลคาเซียเป็นพืชที่ต้องการสารอาหารมาก ควรใช้ปุ๋ยอินทรีย์และดินที่อุดมด้วยสารอาหาร สามารถใช้ปุ๋ยสูตร 20-10-20 หรือปุ๋ยน้ำสาหร่ายทะเลเดือนละครั้งในช่วงที่พืชกำลังเติบโต หยุดใส่ปุ๋ยหลายสัปดาห์ก่อนฤดูหนาวหรือก่อนที่จะมีน้ำค้างแข็ง18

การขยายพันธุ์

วิธีการขยายพันธุ์โคโลคาเซียที่นิยมมี 3 วิธีหลัก:

  1. การแบ่งหัว – ทำในฤดูใบไม้ผลิเมื่อเริ่มมีการเจริญเติบโตใหม่ โดยขุดต้นขึ้นมาทั้งหมด แล้วแยกระบบรากออกเป็นส่วนเล็กๆ แต่ละส่วนควรมีลำต้นและใบของตัวเอง19
  2. การขยายพันธุ์ผ่านไหล – ตัดไหลที่เติบโตออกมาทางด้านข้าง นำไปแช่น้ำให้ออกรากก่อนย้ายลงดิน20
  3. การแยกต้นอ่อนจากต้นแม่ – ต้นอ่อนมักเติบโตที่ด้านข้างของต้นแม่ ตัดให้ชิดกับส่วนที่พองออกและให้มีรากติดมาด้วย แล้วนำไปแช่น้ำให้รากเติบโตก่อนย้ายลงดิน20

การดูแลในฤดูหนาว

การดูแลโคโลคาเซียในฤดูหนาวขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศและชนิดของโคโลคาเซีย ในเขตที่มีอากาศหนาวเย็น (โซน 6-8) โคโลคาเซียจะเป็นไม้ล้มลุกประจำปี แต่ในเขตร้อน (โซน 9-11) จะเป็นไม้ยืนต้น

สำหรับพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น มีวิธีการดูแลดังนี้18:

  • หยุดใส่ปุ๋ยหลายสัปดาห์ก่อนน้ำค้างแข็งตัวครั้งแรก
  • ไม่ควรตัดแต่งหากไม่จำเป็น เพื่อให้พืชดึงสารอาหารกลับ
  • เมื่อน้ำค้างแข็งทำลายใบ ให้ตัดชิดดินและคลุมดินหนาๆ อย่างน้อย 4-6 นิ้วในเขตอากาศอบอุ่น
  • อีกทางเลือกคือขุดหัวขึ้นมา ล้างให้สะอาด ปล่อยให้แห้ง แล้วเก็บในพีทหรือเวอร์มิคูไลท์

โคโลคาเซียน่ากับการสร้างรายได้: โอกาสทางธุรกิจ

โคโลคาเซียไม่เพียงแต่เป็นไม้ประดับสวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างรายได้ได้ดีอีกด้วย ความนิยมที่เพิ่มขึ้นในไม้ใบสวยและไม้ประดับเขตร้อนทำให้ตลาดสำหรับโคโลคาเซียขยายตัว สายพันธุ์ที่หายากและมีลักษณะพิเศษ เช่น Royal Hawaiian collection ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์ Aloha, Hawaiian Punch, Tropical Storm และ Waikiki มีมูลค่าสูงในตลาด

นอกจากนี้ โคโลคาเซียบางสายพันธุ์ เช่น Colocasia esculenta ยังสามารถนำหัวไปประกอบอาหารได้ โดยเป็นที่รู้จักในชื่อ “เผือก” หรือ “taro” อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังเนื่องจากทุกส่วนของพืชมีพิษหากรับประทานดิบ และต้องผ่านการเตรียมอย่างถูกต้อง

โอกาสทางธุรกิจสำหรับโคโลคาเซียมีหลายรูปแบบ:

  1. การขายต้นพันธุ์ – สายพันธุ์หายากและสวยงามมีราคาสูงในตลาด
  2. การขายหัวพันธุ์ – การขยายพันธุ์โคโลคาเซียทำได้ง่าย ทำให้สามารถผลิตหัวพันธุ์เพื่อจำหน่ายได้
  3. การจัดสวน – ให้บริการออกแบบและจัดสวนโดยใช้โคโลคาเซียเป็นจุดเด่น
  4. การขายในกระถาง – โคโลคาเซียในกระถางสวยงามเป็นที่ต้องการสำหรับตกแต่งบ้านและสำนักงาน

สรุป

โคโลคาเซียน่าเป็นไม้ประดับที่มีความสวยงามโดดเด่นด้วยใบขนาดใหญ่รูปหัวใจและสีสันหลากหลาย ด้วยความหลากหลายของสายพันธุ์กว่า 200 สายพันธุ์ ทำให้มีตัวเลือกมากมายสำหรับการจัดสวนและตกแต่งบ้าน การปลูกและดูแลไม่ยากหากเข้าใจความต้องการพื้นฐาน โดยต้องการดินที่ชุ่มชื้นแต่ระบายน้ำดี แสงแดดรำไรถึงปานกลาง และการใส่ปุ๋ยสม่ำเสมอ

นอกจากความสวยงามแล้ว โคโลคาเซียยังมีประโยชน์ในการสร้างบรรยากาศเขตร้อน เพิ่มความเป็นส่วนตัว และช่วยลดความเครียด ที่สำคัญ โคโลคาเซียยังสามารถสร้างรายได้ได้ดีจากการขายต้นพันธุ์ หัวพันธุ์ และการให้บริการจัดสวน

หากคุณกำลังมองหาไม้ประดับที่สวยงาม ดูแลง่าย และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โคโลคาเซียน่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่จะเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่สีเขียวของคุณ


#สาระ #โคโลคาเซีย #บอน #ไม้ประดับ #จัดสวน #ต้นไม้ใบสวย #ไม้เขตร้อน #ปลูกง่าย #ธุรกิจต้นไม้ #ตกแต่งบ้าน #สวนสวย

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
Atmoz Canvas Rayong พร้อมเข้าอยู่แล้ว! จัดกิจกรรม “Paint your Livin” ชวนพาร์ทเนอร์ร่วมแต่งแต้มสีสัน จองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้
ข่าวสาร
แฟชั่นเจเนอเรชันใหม่ : เจาะลึกกลยุทธ์ 6 แบรนด์แฟชั่นไทย สู่โอกาสทองในโลกอีคอมเมิร์ซ
ข่าวสาร
มอบแล้ว! พฤกษา ส่งมอบทองคำ และรางวัลใหญ่ แก่ผู้โชคดี จากแคมเปญ “บิงโกลด์” ลุ้นบิง ชิงทอง รวมมูลค่ากว่า 3 ล้าน
ข่าวสาร
เซ็นทรัลพัฒนาชวนลูกๆ มาเป็น เพื่อนคู่ซี้คนสำคัญของแม่ ในแคมเปญ “MY MOM, MY MATE” เปลี่ยนวันธรรมดาให้เป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่สุด
ข่าวสาร
Gramour Sathorn บ้านที่ออกแบบเพื่อความยั่งยืน…และชีวิตที่เหนือกว่า “เพราะเราเชื่อว่า… บ้านที่ดี ควรดูแลได้ทั้งคุณ และโลกใบนี้”
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..