The Palm (copy)

การติดตั้งระบบน้ำสปริงเกลอร์สวนหย่อมทำเองได้จริงหรือ?

การติดตั้งระบบน้ำสปริงเกลอร์สำหรับสวนหย่อมเป็นโครงการที่หลายคนคิดว่าซับซ้อนและต้องอาศัยช่างผู้เชี่ยวชาญ แต่ความจริงแล้วระบบน้ำอัตโนมัติสำหรับสวนบ้านสามารถทำเองได้ด้วยงบประมาณที่ไม่สูงมาก โดยเฉพาะระบบ Pop-up sprinkler ที่นิยมใช้ในสวนหย่อมและสนามหญ้าขนาดเล็กถึงกลาง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการรดน้ำ ทำให้หญ้าและต้นไม้ได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอ และยังเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่ภายนอกบ้านอีกด้วย

ระบบสปริงเกลอร์สวนหย่อมคืออะไรและทำงานอย่างไร

ระบบสปริงเกลอร์สวนหย่อมเป็นระบบรดน้ำอัตโนมัติที่ใช้หลักการของแรงดันน้ำในการทำงาน โดยแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ ระบบที่ใช้ในสวนหย่อมและสนามกอล์ฟซึ่งเน้นความสวยงาม และระบบที่ใช้ในงานเกษตรซึ่งเน้นประสิทธิภาพในการรดน้ำ

ระบบ Pop-up sprinkler ที่นิยมใช้ในสวนหย่อมมีการออกแบบที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เมื่อน้ำไหลผ่านเข้าสู่หัวสปริงเกลอร์ แรงดันของน้ำจะดันก้านหัวฉีดให้ยื่นขึ้นมาจากตัวเครื่อง น้ำจะพ่นออกมาในรูปแบบละอองฝอยกระจายไปยังพื้นที่โดยรอบ และเมื่อปิดน้ำ สปริงภายในจะดึงก้านหัวฉีดกลับลงไปซ่อนอยู่ในตัวเครื่องอีกครั้ง

หัวสปริงเกลอร์มีหลายประเภทให้เลือกใช้ตามความต้องการ ได้แก่ แบบน้ำหยด แบบละอองหมอก แบบพ่นฝอย แบบมินิสปริงเกลอร์กระจายน้ำน้อย และแบบมินิสปริงเกลอร์กระจายน้ำมาก การเลือกประเภทที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

งบประมาณและค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบเป็นเท่าไหร่

ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบสปริงเกลอร์สวนหย่อมอยู่ในระดับที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับครัวเรือนทั่วไป โดยระบบสปริงเกลอร์แบบ Pop-up มีต้นทุนประมาณ 100-120 บาทต่อตารางเมตร สำหรับพื้นที่ขนาด 100 ตารางเมตร จะใช้งบประมาณรวมประมาณ 10,000-12,000 บาท

สำหรับผู้ที่มีพื้นที่เล็กหรือต้องการประหยัดงบประมาณ สามารถเลือกติดตั้งระบบสปริงเกลอร์แบบง่ายสำหรับแปลงผักขนาดเล็กได้ในงบประมาณไม่เกิน 500 บาท ซึ่งรวมค่าท่อ PE ข้อต่อ วาล์ว หัวฉีดสเปรย์ และอุปกรณ์ที่จำเป็น

ราคาหัวสปริงเกลอร์แต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน โดยหัวสปริงเกลอร์มินิราคาเริ่มต้น 18 บาท หัวสปริงเกลอร์ Pop-up ราคาเริ่มต้น 95 บาท และหัวสปริงเกลอร์รัศมี 20 เมตรราคาเริ่มต้น 169 บาท การเลือกซื้อหัวสปริงเกลอร์ควรพิจารณาจากขนาดพื้นที่และงบประมาณที่มี

ขั้นตอนการติดตั้งระบบสปริงเกลอร์ทำเองแบบง่ายๆ

การติดตั้งระบบสปริงเกลอร์เริ่มต้นจากการวางแผนและออกแบบระบบ ขั้นแรกต้องคิดแบบในอากาศเพื่อประมาณจำนวนหัว Pop-up และท่อข้อต่อต่างๆ จากนั้นวางแนวท่อคร่าวๆ และเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วจึงลงมือขุดดิน

การขุดดินสำหรับระบบสปริงเกลอร์สวนหย่อมไม่จำเป็นต้องขุดลึกมาก เพียงแค่ระดับ 10-20 เซนติเมตรก็เพียงพอแล้ว สำหรับสวนขนาดเล็กสามารถขุดเองได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องจักร การขุดควรทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบท่อที่จะติดตั้ง

เมื่อขุดเสร็จจึงเริ่มต่อท่อ การต่อท่อต้องใช้ความละเอียดเพราะระบบท่อทั้งหมดจะอยู่ใต้ดิน ควรใช้กล่องใส่วาล์วอย่างง่ายเพื่อป้องกันและควบคุมระบบ หลังจากต่อท่อเสร็จแล้วต้องทดลองติดตั้งหัวจ่ายน้ำ Pop-up เพื่อตรวจสอบการทำงาน

การทดสอบและปรับตั้งระบบให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนสำคัญหลังการติดตั้งคือการล้างท่อเพื่อป้องกันเศษผงของท่อหรือเศษสิ่งสกปรกต่างๆ อุดตันที่หัว ควรทิ้งเวลาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากต่อท่อเสร็จก่อนการทดลองน้ำ หรือสำหรับงานละเอียดควรทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง

การทดสอบแรงดันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำ เกจวัดแรงดันเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่สำคัญซึ่งคนมักมองข้าม เกจตัวเดียวสามารถบอกได้หมดว่าท่อแตก ท่อรั่ว หรือปั๊มสูบไม่ขึ้น หากระบบไม่รั่วไม่ซึม การเปิดปั๊มแล้วแรงดันต้องได้ตามสเปกปั๊ม

หลังจากทดสอบระบบแล้วต้องทดลองหัวจ่ายน้ำและปรับตั้งองศาการฉีดให้เหมาะสม เมื่อได้ตำแหน่งที่แน่นอนและทุกอย่างพร้อมจึงทำการกลบดิน บริเวณหัวจ่ายน้ำเป็นจุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ต้องตั้งหัวให้ตรงให้ได้ระดับที่ต้องการแล้วอัดดินให้แน่น

การปูหญ้าและการดูแลรักษาหลังติดตั้งระบบ

หลังจากติดตั้งระบบสปริงเกลอร์เสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมพื้นที่สำหรับปูหญ้า การกลบดินระบบท่อทั้งหมดต้องทำอย่างระมัดระวัง จากนั้นโรยทรายรองพื้นก่อนปูหญ้าโดยใช้ทรายก่อสร้างธรรมดา การใช้ลูกกลิ้งเพื่อปรับระดับดินจะช่วยให้พื้นผิวเรียบและเหมาะสำหรับการปูหญ้า

ก่อนปูหญ้าควรฉีดพรมน้ำให้ดินชื้นก่อน เทคนิคในการเลือกซื้อหญ้าคือเลือกหญ้าที่พับเป็นผืนใหญ่ไม่ฉีกขาด ผืนหญ้าควรมีดินติดที่รากให้เยอะ เพราะเวลาปูเสร็จหญ้าจะตายน้อยและฟื้นตัวเร็ว การเลือกใช้หญ้ามาเลย์เป็นทางเลือกที่ดีเพราะเป็นหญ้าใบใหญ่ นุ่มและดูแลง่าย เวลาตัดสั้นจะเหมือนพรมสีเขียวสวย

หลังจากปูหญ้าเสร็จต้องใช้ลูกกลิ้งบดทับอีกครั้ง1 จากนั้นทดลองระบบน้ำอีกรอบเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้ดี1 การรดน้ำหลังปูหญ้าใหม่ต้องทำบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนและแห้งที่ต้องรดน้ำทุก 2 ชั่วโมง

ข้อดีของการมีระบบสปริงเกลอร์ในสวนหย่อม

ระบบสปริงเกลอร์สวนหย่อมมีข้อดีหลายประการที่ทำให้การลงทุนคุ้มค่า ข้อดีแรกคือช่วยประหยัดเวลาในการรดน้ำต้นไม้และสนามหญ้า เพราะระบบทำงานอัตโนมัติไม่ต้องคอยดูแล ข้อดีที่สองคือทำให้หญ้าเขียวสวยงามตลอดทั้งปีเนื่องจากได้รับน้ำสม่ำเสมอ

การประหยัดน้ำและประหยัดแรงงานเป็นอีกหนึ่งข้อดีสำคัญ ระบบสปริงเกลอร์ช่วยให้งานรดน้ำต้นไม้เป็นงานง่าย และยังสามารถต่อยอดติดตั้งระบบอัตโนมัติได้เพียงแค่เพิ่มวาล์วไฟฟ้าและชุดคอนโทรลเลอร์ ระบบนี้มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี ทำให้คุ้มค่ากับการลงทุน

นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งระบบมินิสปริงเกลอร์สำหรับไม้ดอกไม้ประดับเพิ่มเติมได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มฉ่ำและสวยงามให้กับสวน ระบบที่ดีจะช่วยให้สวนสวยงามและสวยนานได้ทุกฤดูกาล

เทคนิคการเลือกซื้ออุปกรณ์และการบำรุงรักษา

การเลือกซื้ออุปกรณ์สำหรับระบบสปริงเกลอร์ต้องพิจารณาหลายปัจจัย สำหรับระบบขนาดเล็กอุปกรณ์ที่จำเป็นประกอบด้วย ท่อ PE 20 มิลลิเมตร ข้อต่อท่อ PE ข้อต่อวาล์ว หัวฉีดสเปรย์ และที่เจาะรูท่อ PE ควรเตรียมตัวอุดรูท่อ PE ไว้ในกรณีที่เจาะผิดรู

การติดตั้งระบบขนาดเล็กมีขั้นตอนง่ายๆ คือ วัดและตัดสายท่อให้พอดีกับแปลง เจาะรูท่อเพื่อติดหัวสปริงเกลอร์โดยให้แต่ละรูห่างกันประมาณ 1 เมตร ติดวาล์วเปิด-ปิดน้ำที่ปลายสายท่อ และอุดปิดรูที่ปลายอีกข้าง หากแรงน้ำเบาเกินไปเนื่องจากระยะห่างของรูใกล้กันเกินไป สามารถใช้ตัวอุดท่อมาอุดช่องที่ไม่ได้ใช้

การบำรุงรักษาระบบสปริงเกลอร์ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ควรตรวจสอบหัวสปริงเกลอร์เป็นระยะว่ายังทำงานได้ดีหรือไม่ หากมีการอุดตันสามารถล้างไส้กรองข้างในหัวได้ การตรวจสอบท่อรั่วทำได้โดยการเปิดน้ำดู หากเปียกตรงไหนแสดงว่ารั่วตรงนั้น

สรุป

การติดตั้งระบบน้ำสปริงเกลอร์สวนหย่อมเป็นโครงการที่สามารถทำเองได้จริงด้วยขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน งบประมาณที่ใช้อยู่ในระดับที่เข้าถึงได้ และให้ผลประโยชน์ระยะยาวที่คุ้มค่ากับการลงทุน ระบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเวลาและแรงงานในการรดน้ำ แต่ยังทำให้สวนหย่อมสวยงามและเขียวชอุ่มตลอดทั้งปี การวางแผนที่ดี การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม และการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ระบบสปริงเกลอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน


#สาระ #ระบบสปริงเกลอร์ #สวนหย่อม #รดน้ำอัตโนมัติ #PopUpSprinkler #DIYสวน #ระบบน้ำสวน #การจัดสวน #ปูหญ้า #สนามหญ้า #ประหยัดน้ำ

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
Central Pattana Residence โตต่อเนื่อง ประกาศโครงการใหม่มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท ชูบ้านลักชัวรี่ใหม่ “บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์” ย้ำแบรนด์บ้านและคอนโดฯ เซ็นทรัลแข็งแกร่ง เชื่อมต่อการใช้ชีวิตในมิกซ์ยูสคุณภาพ
ข่าวสาร
เอสบี ดีไซน์สแควร์ จับมือบัตรเครดิตและสินเชื่อในกลุ่มกรุงศรีคอนซูมเมอร์ เปิดตัวโซลูชันแต่งห้องพร้อมอยู่ พร้อมลงทุน ในสไตล์ที่ลงตัว ใน 3 คอนโดฯ พร้อมอยู่จากแสนสิริ The Line Vibe, XT Phayathai และ NIA by Sansiri
ข่าวสาร
AWC กับ ททท. ร่วมฉลองเดือนแห่งความหลากหลายกับ กิจกรรม “AWC Let’s Pride” ในธีม “Freedom to Love” นำขบวนพาเหรดแห่งสีสันสายรุ้ง สู่ใจกลางเชียงใหม่ ส่งต่อสู่กรุงเทพฯ และกิจกรรมตลอดเดือน พร้อม Pride Stay สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากโรงแรมในเครือ
ข่าวสาร
”หมอริท-เรืองฤทธิ์“ คว้า “เจมส์จิ” ฉลองก้าวสู่ปีที่ 6 THE RITZ CLINIC อย่างยิ่งใหญ่!! พร้อมเปิดสาขาใหม่ Future Park รองรับบริการเต็มระบบ
ข่าวสาร
CheckGo by Occicare จับมือ แม็คโคร-โลตัส มอลล์ เปิด CheckGo lab สาขาใหม่ ในแม็คโคร รังสิต พร้อมแผนขยาย 50 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2569
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..