การเลือกต้นไม้ประดับในบ้านสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นจัดสวนอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายหากไม่รู้จักคุณสมบัติของแต่ละชนิด แต่หากกำลังมองหาต้นไม้ที่ทั้งสวยงาม ดูแลง่าย และไม่ต้องใช้เทคนิคการปลูกซับซ้อน ต้นไม้ตระกูลพลูถือเป็นทางเลือกที่ยอดเยียมสำหรับทุกคน เพราะนอกจากจะมีใบที่สวยงามหลากหลายสีสันแล้ว ยังมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันและต้องการการดูแลที่ไม่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำที่ไม่บ่อยมาก การให้แสงแดดรำไร และความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศในบ้าน

ทำความรู้จักกับพลูชนิดต่างๆ ที่มือใหม่ควรเริ่มต้น
พลูด่างและพลูทอง: ตัวเลือกหลักสำหรับผู้เริ่มต้น
พลูด่างหรือที่รู้จักกันในชื่อ Devil’s Ivy มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Epipremnum aureum เป็นไม้เลื้อยที่มีลำต้นกลมอ่อนและรากอากาศ ใบมีทรงหัวใจสีเขียวปนเหลืองหรือขาว โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ และแผ่นใบหนา สิ่งที่ทำให้พลูด่างเป็นที่นิยมอย่างมากคือความสามารถในการปลูกได้ทั้งในกระถางและแจกัน รวมถึงความทนทานต่อโรคและแมลง โตได้ในทุกสภาพแวดล้อม และไม่ต้องเปลี่ยนกระถางบ่อย
พลูทองหรือราชินีสีทอง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Epipremnum aureum ‘Bunting Lime’ เป็นไม้เลื้อยอายุหลายปีที่มีกิ่งก้านสีเขียวอมเหลืองพร้อมขีดสีอ่อนตามแนวยาว ใบเป็นทรงไข่ สีเขียวอมเหลือง ปลายใบเรียว โคนใบเว้า และขอบใบเรียบ นอกจากความสวยงามแล้ว พลูทองยังมีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษในอากาศ ทำให้เป็นทั้งไม้ประดับและไม้ฟอกอากาศในตัวเดียวกัน
การดูแลพลูด่างและพลูทองอย่างถูกต้อง
พลูด่างและพลูทองต้องการการดูแลที่คล้ายคลึงกัน โดยชอบดินร่วนที่ผสมปุ๋ย ทรายหยาบ และใบไม้แห้ง ชอบอุณหภูมิประมาณ 18-24 องศาเซลเซียส ต้องการแสงแดดจัดแต่ไม่ควรเป็นแสงแดดโดยตรง และต้องการความชื้นสูง การรดน้ำควรทำสัปดาห์ละครั้งหรือตามสภาพของหน้าดินและอากาศ โดยให้ดินแห้งบนผิวประมาณ 2-3 นิ้วก่อนรดน้ำครั้งถัดไป สำหรับการขยายพันธุ์ทำได้ง่ายด้วยการปักชำ ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับมือใหม่ที่อยากเพิ่มจำนวนต้นไม้

พลูสายพันธุ์หายากที่น่าสนใจสำหรับคอลเลกเตอร์
พลูอินโดหลังแดง: ความงามสองสีที่โดดเด่น
พลูอินโดหลังแดงหรือ Syngonium erythrophyllum ‘Red Arrow’ เป็นไม้เลื้อยในตระกูล Araceae ที่มีใบทรงหอกสองสี โดยด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนหลังใบเป็นสีแดงอมม่วง เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงประมาณ 2.5 เมตร และเป็นต้นไม้ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเนื่องจากดูแลง่าย แต่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะใบและก้านมีสารแคลเซียมออกซาเลต หากสัมผัสหรือรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง ปากบวม และหายใจลำบาก
การดูแลพลูอินโดหลังแดงต้องปลูกในดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี ตั้งกระถางไว้บริเวณที่มีแสงแดดรำไร และควรหลีกเลี่ยงการปลูกในบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง ต้นนี้ต้องการน้ำเมื่อดินแห้งผิวหน้าประมาณ 2 นิ้ว และชอบอุณหภูมิระหว่าง 55-90°F หรือประมาณ 12-32°C
พลูฉลุ: ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ
พลูฉลุหรือพลูทะลุ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Monstera obliqua เป็นไม้เนื้ออ่อนที่มีลำต้นและรากเลื้อยพันตามผิวดินหรือไม้หลัก ใบเป็นทรงรี ปลายใบแหลม โคนใบมน และแผ่นใบมีรูแหว่งเล็กใหญ่สลับกันไปทั้งสองฝั่งของเส้นกลางใบ ลักษณะพิเศษนี้ทำให้สวยงามแปลกตา จึงเป็นที่นิยมใช้เป็นไม้ประดับ แม้ว่าการดูแลจะต้องใช้ความเอาใจใส่มากกว่าพลูชนิดอื่น
พลูฉลุต้องการแสงสว่างแบบทางอ้อม ดินที่ระบายน้ำดีแต่ยังคงความชื้น และความชื้นสูงประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า การรดน้ำควรทำเมื่อดินแห้งผิวหน้าประมาณ 1-2 นิ้ว และหลีกเลี่ยงการให้น้ำมากเกินไปเพื่อป้องกันการเน่าของราก ต้นนี้เติบโตช้า จึงอาจต้องรดน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้งหรือสองสัปดาห์ละครั้งในช่วงฤดูการเติบโต

พลูสายพันธุ์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและน่าสะสม
พลูหัวใจแนบ: ความเงางามของใบเงิน
พลูหัวใจแนบหรือที่รู้จักกันในชื่อ Satin Pothos มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Scindapsus pictus ‘Argyreus’ เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็กที่มีลำต้นทรงกลมและรากอากาศออกตามข้อ ใบเป็นทรงหัวใจสีเขียวอมเทาหรือสีเขียวเข้มพร้อมลายสีบรอนซ์เงินทั่วทั้งใบ การดูแลต้นนี้ไม่ยากแต่โตช้า ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำดี ต้องการน้ำปานกลาง และต้องการแสงแดดรำไร
พลูหัวใจแนบต้องการการดูแลที่คล้ายกับพลูชนิดอื่น โดยต้องการแสงสว่างแบบทางอ้อมระดับปานกลางถึงสูง และการรดน้ำเมื่อดินแห้งผิวหน้าประมาณ 1-2 นิ้ว ต้นนี้เป็นพืชปีนป่าย และในธรรมชาติจะปีนขึ้นไปตามต้นไม้ โดยใบจะเติบโตแนบชิดกับพื้นผิวที่ปีน ลักษณะการเติบโตนี้เรียกว่า “shingling” เหมือนกับการเรียงกระเบื้องหลังคา
พลูบราซิลและพลูหินอ่อน: ความหลากหลายของสีสัน
พลูบราซิลหรือ Philodendron Brasil เป็นไม้เลื้อยขนาดเล็กที่มีใบทรงหัวใจสีเขียวอ่อนปนเหลือง นิยมใช้เป็นไม้แขวน ไม้กระถาง และไม้ฟอกอากาศ ต้นนี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก โตได้ทั้งในน้ำและในดิน และขึ้นได้ในดินเกือบทุกชนิด ชอบน้ำปานกลาง ชอบที่ร่มรำไร และควรหลีกเลี่ยงแดดจัด
พลูหินอ่อนหรือราชินีหินอ่อน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Epipremnum aureum ‘Marble Queen’ เป็นไม้เลื้อยเนื้ออ่อนขนาดเล็กอายุหลายปี มีใบทรงไข่สีเขียวพร้อมลายด่างสีขาวนวล ผิวเรียบ หนา และอวบน้ำเล็กน้อย ต้นนี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก โตเร็ว แข็งแรง และทนทาน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ และขึ้นได้ในดินทั่วไปแต่ชอบดินร่วนซุยมากเป็นพิเศษ ต้องการความชื้นสูง ต้องการน้ำมาก และต้องการแดดปานกลางหรือร่มรำไร

ขอบคุณภาพจาก : Plant Fun
พลูชนิดพิเศษที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
พลูนางฟ้าและพลูลงยา: ความงามที่ต้องการมือชำนาญ
พลูนางฟ้าหรือ Cissus discolor เป็นไม้ดอกหรือไม้เลื้อยอายุหลายปีที่มีลำต้นเป็นเถาพร้อมมือเกาะสองง่ามสีม่วงอมแดง ใบทรงหัวใจด้านบนสีเขียว ด้านล่างสีม่วงแดง ต้นนี้เป็นสมาชิกของตระกูลองุ่น ชอบดินที่ร่วนโปร่ง ชอบน้ำปานกลาง และชอบแสงแดดรำไร การดูแลต้องระวังเรื่องการรดน้ำไม่ให้มากเกินไป และต้องการความชื้นสูง
พลูลงยาหรือพลูนาค มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Piper ornatum เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็กอายุยืนหลายปี มีลำต้นสีน้ำตาลแดงและรากออกตามข้อ ใบเป็นรูปหัวใจสีเขียวเข้มคล้ำปนลายสีชมพู แม้จะแข็งแรงและเลี้ยงง่าย แต่ต้องการการดูแลที่เฉพาะเจาะจง โดยชอบดินร่วนที่ระบายน้ำดี ชอบแสงแดดรำไร และความชื้นสูง การดูแลต้นนี้ต้องระวังเรื่องการให้น้ำและแสงแดด เพราะเป็นพืชเขตร้อนที่ต้องการสภาพแวดล้อมเฉพาะ
พลูงาช้างและพลูปีกนก: ทางเลือกสำหรับผู้ชื่นชอบรูปทรงใบที่แปลกตา
พลูงาช้างหรือที่รู้จักกันในชื่อพลูช้างหรือพลูด่างอินเดีย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Epipremnum aureum เป็นไม้อิงอาศัยที่มีลำต้นสีเขียวอ่อนและใบทรงหัวใจสีเขียวด่างขาว ขอบเรียบ เนื้อบิดเล็กน้อย ต้นนี้เหมาะจะใช้เป็นไม้แขวนหรือไม้กระถาง ชอบดินร่วนมากเป็นพิเศษ ชอบบริเวณที่ร่มรำไร และชอบน้ำปานกลาง
พลูปีกนกหรือที่รู้จักกันในชื่อพลูระเบิดหรือพลูใบย่น มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Monstera Karstenianum เป็นไม้เลื้อยที่มีลำต้นทรงกระบอกขนาดเล็กและรากตามข้อปล้อง ใบเป็นทรงรีสีเขียวอมเหลือง ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ และแผ่นใบหนา ต้นนี้ปลูกและดูแลไม่ยาก นิยมใช้เป็นไม้ในกระถางหรือไม้ในอาคาร โตได้ในดินทั่วไป ต้องการน้ำมากและแสงแดดรำไร แต่เนื่องจากใบหนาสามารถเก็บน้ำได้ จึงไม่ต้องรดน้ำบ่อยเหมือนพลูชนิดอื่น

วิธีการเลือกและวางแผนการดูแลพลู
หลักการเลือกพลูที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
การเลือกพลูที่เหมาะสมควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เริ่มต้นจากปริมาณแสงแดดในบ้าน ระดับความชื้น และเวลาที่สามารถทุ่มเทให้กับการดูแลต้นไม้ สำหรับบ้านที่มีแสงแดดไม่มาก พลูด่าง พลูทอง และพลูหินอ่อนจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะสามารถทนต่อแสงแดดน้อยได้ ขณะที่บ้านที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำที่มีหน้าต่างสว่าง จะเหมาะสำหรับพลูที่ต้องการความชื้นมาก เช่น พลูอินโดหลังแดงและพลูฉลุ
การวางแผนการดูแลควรเริ่มจากการเข้าใจวงจรการรดน้ำของแต่ละชนิด โดยทั่วไปพลูส่วนใหญ่ต้องการให้ดินแห้งผิวหน้าก่อนรดน้ำครั้งถัดไป ซึ่งโดยเฉลี่ยจะเป็นทุก 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดของกระถาง ชนิดของดิน และสภาพอากาศ สำหรับมือใหม่ การใช้เครื่องวัดความชื้นในดินจะช่วยให้การรดน้ำแม่นยำมากขึ้น
เทคนิคการขยายพันธุ์และการดูแลระยะยาว
การขยายพันธุ์พลูทำได้ง่ายด้วยวิธีการปักชำ โดยตัดกิ่งที่มีข้อปล้องและใส่ในน้ำหรือดินชุ่มน้ำจนรากงอก ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการขยายพันธุ์คือช่วงปลายฤดูใบไผ่ถึงต้นฤดูร้อน เมื่อต้นไม้อยู่ในช่วงการเติบโตที่แข็งแรง การใช้น้ำที่ปราศจากคลอรีนหรือน้ำฝนจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าน้ำประปาธรรมดา
การดูแลระยะยาวควรใส่ใจเรื่องการเปลี่ยนกระถางทุก 1-2 ปี การให้ปุ๋ยในช่วงฤดูการเติบโต และการตัดแต่งกิ่งเพื่อให้ต้นไม้มีรูปทรงที่สวยงาม สำหรับพลูที่เป็นไม้เลื้อย การจัดหาเสาค้ำยันหรือตะแกรงให้ปีนจะช่วยให้ต้นไม้เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพและมีใบที่ใหญ่ขึ้น

การเลือกพลูที่เหมาะสมสำหรับมือใหม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่สภาพแวดล้อมในบ้าน ประสบการณ์ในการดูแลต้นไม้ และเวลาที่สามารถทุ่มเทได้ พลูด่างและพลูทองถือเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเนื่องจากความทนทานและการดูแลที่ไม่ซับซ้อน ขณะที่พลูชนิดอื่นๆ เช่น พลูอินโดหลังแดง พลูบราซิล และพลูหินอ่อน ก็เป็นทางเลือกที่ดีเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทายและมีเวลาดูแลเป็นพิเศษ พลูฉลุ พลูนางฟ้า และพลูลงยาจะให้ความงามที่คุ้มค่ากับการลงทุนเวลาและความพยายาม ไม่ว่าจะเลือกพลูชนิดใด การทำความเข้าใจความต้องการเฉพาะของแต่ละชนิด การปฏิบัติตามหลักการดูแลอย่างสม่ำเสมอ และการระวังเรื่องความปลอดภัย จะช่วยให้การปลูกพลูประสบความสำเร็จและได้รับความสุขจากการจัดสวนในบ้านอย่างแท้จริง
#สาระ #พลูชนิดต่างๆ #การดูแลพลู #ไม้ประดับในบ้าน #พลูด่าง #พลูทอง #พลูอินโดหลังแดง #พลูฉลุ #มือใหม่ปลูกต้นไม้ #ไม้เลื้อย #จัดสวนในบ้าน #ไม้ฟอกอากาศ #ปลูกพลู
สรุป
การเลือกพลูที่เหมาะสมสำหรับมือใหม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่สภาพแวดล้อมในบ้าน ประสบการณ์ในการดูแลต้นไม้ และเวลาที่สามารถทุ่มเทได้ พลูด่างและพลูทองถือเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเนื่องจากความทนทานและการดูแลที่ไม่ซับซ้อน ขณะที่พลูชนิดอื่นๆ เช่น พลูอินโดหลังแดง พลูบราซิล และพลูหินอ่อน ก็เป็นทางเลือกที่ดีเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทายและมีเวลาดูแลเป็นพิเศษ พลูฉลุ พลูนางฟ้า และพลูลงยาจะให้ความงามที่คุ้มค่ากับการลงทุนเวลาและความพยายาม ไม่ว่าจะเลือกพลูชนิดใด การทำความเข้าใจความต้องการเฉพาะของแต่ละชนิด การปฏิบัติตามหลักการดูแลอย่างสม่ำเสมอ และการระวังเรื่องความปลอดภัย จะช่วยให้การปลูกพลูประสบความสำเร็จและได้รับความสุขจากการจัดสวนในบ้านอย่างแท้จริง
#สาระ #พลูชนิดต่างๆ #การดูแลพลู #ไม้ประดับในบ้าน #พลูด่าง #พลูทอง #พลูอินโดหลังแดง #พลูฉลุ #มือใหม่ปลูกต้นไม้ #ไม้เลื้อย #จัดสวนในบ้าน #ไม้ฟอกอากาศ #ปลูกพลู