The Palm (copy)

วัสดุเหลือใช้ในครัวเรือนทำเป็นปุ๋ยออร์แกนิกได้อย่างไร? 9 สูตรง่ายๆ เพื่อการปลูกต้นไม้แบบไร้สารพิษ

การทำปุ๋ยออร์แกนิกจากวัสดุเหลือใช้ในบ้านไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแต่ยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมที่ยั่งยืน เศษวัสดุที่เรามักจะทิ้งเป็นขยะอย่างเปลือกไข่ กากกาแฟ หรือเปลือกกล้วยล้วนมีประโยชน์มหาศาลในการบำรุงดินและเติมสารอาหารให้พืช บทความนี้จะแนะนำ 9 สูตรปุ๋ยออร์แกนิกทำง่ายจากวัสดุในครัวเรือน พร้อมวิธีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ต้นไม้ของคุณเติบโตอย่างสมบูรณ์และปลอดภัยจากสารเคมี

ประโยชน์ของการทำปุ๋ยออร์แกนิกใช้เอง

การหันมาทำปุ๋ยออร์แกนิกใช้เองมีข้อดีมากมาย เริ่มจากการช่วยลดค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากวัตถุดิบหาได้ง่ายในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นเปลือกไข่ เปลือกผลไม้ หรือกากกาแฟที่ใช้แล้ว นอกจากนี้ ยังเป็นการลดปริมาณขยะในบ้านอย่างเป็นรูปธรรม โดยนำสิ่งที่มักถูกทิ้งให้กลายเป็นขยะมาแปรรูปเป็นปุ๋ยที่มีคุณค่า

ประโยชน์สำคัญอีกประการคือการลดการใช้สารเคมี ปุ๋ยที่ทำเองจากวัสดุธรรมชาติไม่มีสารเคมีอันตราย ทำให้มั่นใจได้ว่าพืชผักที่ปลูกด้วยปุ๋ยเหล่านี้จะปลอดภัยสำหรับทั้งผู้ปลูกและผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ สามารถทำร่วมกันในครอบครัวเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อีกด้วย

ปุ๋ยออร์แกนิกถือเป็นส่วนสำคัญในการเกษตรแบบยั่งยืน ช่วยปรับปรุงคุณภาพของดินในระยะยาว เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ และสร้างระบบนิเวศที่สมดุลในแปลงเกษตรหรือสวนหย่อม ทำให้พืชแข็งแรงต้านทานโรคได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี

สูตรปุ๋ยจากเปลือกไข่ แคลเซียมธรรมชาติเพื่อต้นไม้

เปลือกไข่เป็นแหล่งแคลเซียมชั้นเยี่ยมที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ช่วยให้ออกดอกออกผลดี และมีสารอาหารสำคัญอย่างไนโตรเจน ซิงก์ และฟอสฟอรัส การทำปุ๋ยจากเปลือกไข่ทำได้ง่ายมาก เริ่มจากล้างเปลือกไข่ให้สะอาดและนำไปตากให้แห้งสนิทเพื่อป้องกันเชื้อรา หลังจากนั้นบดให้ละเอียดเป็นผงและนำไปผสมกับดินหรือโรยรอบโคนต้น

อีกวิธีหนึ่งคือการนำเปลือกไข่บดละเอียดไปแช่น้ำข้ามคืน แล้วนำน้ำที่ได้ไปรดต้นไม้ วิธีนี้ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้เร็วขึ้น จากการศึกษาพบว่าเปลือกไข่ช่วยปรับสภาพดินที่เป็นกรดให้เป็นกลางมากขึ้น เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการแคลเซียมสูงอย่างมะเขือเทศ พริก และผักใบเขียวต่างๆ

การใช้ปุ๋ยเปลือกไข่อย่างสม่ำเสมอยังช่วยป้องกันอาการปลายใบไหม้และช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพดีขึ้น ควรใช้อย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้พืชได้รับสารอาหารอย่างต่อเนื่อง

สูตรปุ๋ยจากเปลือกกล้วย เพิ่มโพแทสเซียมให้ดินอย่างมีประสิทธิภาพ

เปลือกกล้วยอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช โดยเฉพาะโพแทสเซียม ซึ่งช่วยเร่งการเจริญเติบโตของราก ทำให้ใบมีสีเขียวสดสวย และส่งผลดีต่อการออกดอกติดผล นอกจากนี้ ยังมีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียมที่ช่วยบำรุงพืชได้อย่างครบถ้วน

วิธีทำปุ๋ยจากเปลือกกล้วยสามารถทำได้หลายรูปแบบ วิธีง่ายที่สุดคือการฝังเปลือกกล้วยโดยตรงลงในดินแล้วกลบด้วยดินชั้นบนเพื่อป้องกันกลิ่น หรือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วคลุกเคล้ากับดินรอบๆ โคนต้น สำหรับวิธีการทำปุ๋ยน้ำ สามารถนำเปลือกกล้วยมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แช่น้ำ 2-3 วัน จากนั้นนำน้ำที่ได้ไปรดต้นไม้ โดยควรเจือจางในอัตราส่วนน้ำปุ๋ย 1 ส่วนต่อน้ำ 5 ส่วน

ต้นไม้ที่ตอบสนองดีต่อปุ๋ยเปลือกกล้วยโดยเฉพาะคือกุหลาบ และไม้ดอกทั่วไป ซึ่งช่วยให้ออกดอกสวยงาม สีสันสดใส ควรใช้ทุก 2-4 สัปดาห์ในช่วงที่พืชกำลังเจริญเติบโต หรือก่อนฤดูออกดอก

สูตรปุ๋ยจากกากกาแฟ แหล่งไนโตรเจนเพื่อใบเขียวสวย

กากกาแฟเป็นวัสดุเหลือใช้ที่พบได้ทั่วไปในบ้านและมีคุณค่าทางการเกษตรสูง โดยเฉพาะการเป็นแหล่งไนโตรเจนชั้นดีที่ช่วยให้พืชมีใบเขียวสวยและเติบโตแข็งแรง กากกาแฟยังช่วยเพิ่มความเป็นกรดในดินซึ่งเหมาะกับพืชหลายชนิด

การนำกากกาแฟมาทำปุ๋ยสามารถทำได้โดยนำกากกาแฟไปตากแดดหรืออบให้แห้งเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา จากนั้นนำไปผสมกับดินในอัตราส่วน 1:4 หรือโรยบนผิวดินรอบโคนต้นและพรวนดินเล็กน้อย อีกวิธีหนึ่งคือการนำกากกาแฟแช่ในน้ำประมาณ 7 วัน เพื่อทำเป็นปุ๋ยน้ำสำหรับรดต้นไม้

พืชที่ชอบความเป็นกรดและเหมาะกับปุ๋ยกากกาแฟ ได้แก่ บีโกเนีย กุหลาบ คริสต์มาสแคคตัส เฟิร์น แอฟริกัน ไวโอเลต และคาเมเลีย ซึ่งจะเติบโตได้ดีเมื่อได้รับปุ๋ยนี้ ควรใช้อย่างระมัดระวังกับพืชที่ชอบดินเป็นด่าง เนื่องจากอาจทำให้ดินมีสภาพเป็นกรดมากเกินไป

สูตรปุ๋ยจากน้ำซาวข้าว เร่งการเจริญเติบโตของพืชอย่างเป็นธรรมชาติ

น้ำซาวข้าวเป็นวัสดุเหลือใช้ที่มีประโยชน์มากสำหรับต้นไม้ เพราะอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส ไนโตรเจน และแคลเซียม ซึ่งช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืช การใช้น้ำซาวข้าวเป็นปุ๋ยทำได้ง่ายมาก โดยสามารถนำมาใช้รดต้นไม้ได้โดยตรง โดยเฉพาะพืชที่ชอบความชื้นสูงอย่างเฟิร์น

เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรใช้น้ำซาวข้าวที่สดใหม่ หรือหมักไว้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง เพราะหากทิ้งไว้นานเกินไปอาจเกิดการหมักและมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ การใช้น้ำซาวข้าวควรระวังไม่ให้รดมากเกินไปจนดินแฉะ เพราะอาจทำให้รากเน่าได้ ควรรดประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

การผสมน้ำซาวข้าวกับวัสดุอื่นๆ เช่น ชาเขียวที่ใช้แล้ว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงพืช วิธีการทำคือนำน้ำซาวข้าว 2 ลิตรผสมกับชาเขียวที่ใช้แล้ว เป็นหัวเชื้อปุ๋ย จากนั้นเจือจางด้วยน้ำ 5 ลิตรก่อนนำไปใช้ ซึ่งจะช่วยให้พืชผักเจริญงอกงามได้อย่างรวดเร็ว

สูตรปุ๋ยจากชาเขียว ปรับสมดุลดินด้วยกรดแทนนิก

ใบชาเขียวที่ใช้แล้วมีกรดแทนนิก (Tannic Acid) ที่ช่วยปรับสมดุลความเป็นกรด-ด่างหรือค่า pH ของดินให้มีความเป็นกลางได้ดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับรากพืช ทำให้รากแข็งแรงและดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น การทำปุ๋ยจากชาเขียวทำได้โดยแช่ถุงชาเขียว 1 ถุง ในน้ำ 2 แกลลอน (ประมาณ 7.5 ลิตร) แล้วนำไปรดต้นไม้เพียงเดือนละครั้ง

นอกจากนี้ ยังสามารถนำกากชาเขียวมาผสมกับดินโดยตรง หรือโรยรอบโคนต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุและสารอาหารในดิน ชาเขียวยังมีสารที่ช่วยไล่แมลงบางชนิดได้อีกด้วย ทำให้พืชปลอดภัยจากศัตรูพืชโดยธรรมชาติ

การใช้ปุ๋ยชาเขียวเหมาะสำหรับไม้ดอกและพืชผักทั่วไป โดยเฉพาะพืชที่ต้องการดินที่มีค่า pH เป็นกลาง ควรใช้อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาสมดุลของดินและช่วยให้พืชเติบโตอย่างแข็งแรง

สูตรปุ๋ยจากกากน้ำตาล ปรับโครงสร้างดินให้สมบูรณ์

กากน้ำตาลหรือโมลาสเป็นของเหลวเหนียวข้นสีดำที่มาจากกระบวนการผลิตน้ำตาลทราย อุดมไปด้วยธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ทั้งโพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม และอื่นๆ อีกมากมาย การทำปุ๋ยน้ำหมักจากกากน้ำตาล สามารถทำได้โดยผสมกากน้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 2 ลิตร

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถหาซื้อกากน้ำตาลได้ สามารถทำเองได้ง่ายๆ โดยการนำน้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม มาละลายในน้ำ 5 ลิตร แล้วใช้ไฟกลางค่อนข้างแรงคั่วน้ำตาลให้ละลายจนมีสีน้ำตาล เมื่อน้ำตาลเริ่มฟูในกระทะ ให้ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าลงไปทีละน้อย เปลี่ยนเป็นไฟอ่อน เมื่อน้ำตาลละลายหมดให้เพิ่มไฟให้แรงอีกครั้ง รอจนน้ำเปลี่ยนเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม จากนั้นเทผสมกับน้ำส่วนที่เหลือ

กากน้ำตาลช่วยปรับโครงสร้างดินให้จับตัวดีขึ้น ทำให้ดินมีความเป็นกรด-ด่างที่เหมาะสมต่อการปลูกพืช และช่วยย่อยอินทรียวัตถุในดินให้กลายเป็นอาหารสำหรับพืช เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพืชที่ต้องการธาตุอาหารหลักอย่างครบถ้วน ควรใช้ปุ๋ยน้ำหมักจากกากน้ำตาลทุก 2-3 สัปดาห์เพื่อการเติบโตที่ดีที่สุด

สูตรปุ๋ยจากดีเกลือ เสริมแมกนีเซียมและแก้ปัญหาดินเป็นกรด

ดีเกลือหรือ Epsom Salts เป็นสารประกอบที่มีแมกนีเซียมเป็นองค์ประกอบสำคัญ ช่วยให้พืชสร้างคลอโรฟิลล์ได้ดีขึ้น ทำให้ใบมีสีเขียวสด และยังช่วยแก้ปัญหาดินเป็นกรด การใช้ดีเกลือเป็นปุ๋ยสามารถทำได้โดยผสมดีเกลือ 1 ช้อนชากับน้ำ 1 ลิตร แล้วนำไปฉีดพ่นให้พืช หรือโรยดีเกลือบนผิวดินเพียงเล็กน้อยแล้วรดน้ำตาม

ต้องใช้อย่างระมัดระวังเนื่องจากปุ๋ยส่วนเกินที่พืชไม่สามารถดูดซึมได้หมดจะตกค้างในดิน และอาจทำให้ดินเค็มได้หากใช้มากเกินไป เมื่อดินเค็ม ความเข้มข้นของสารละลายในดินจะสูงกว่าในรากพืช ทำให้รากไม่สามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้ จนทำให้พืชเหี่ยวเฉาและตายในที่สุด

พืชที่ตอบสนองดีต่อปุ๋ยดีเกลือ ได้แก่ มะเขือเทศ พริก และผักกินใบต่างๆ ควรใช้ปุ๋ยดีเกลือปริมาณน้อยและไม่บ่อยเกินไป เพียง 1-2 ครั้งต่อฤดูกาลเพาะปลูกเท่านั้น

สูตรปุ๋ยจากขี้เถ้า ลดความเป็นกรดของดิน

ขี้เถ้าจากการเผาไม้หรือถ่านเป็นแหล่งธาตุอาหารสำคัญสำหรับพืช โดยมีทั้งโพแทสเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงใบ ดอก และผล นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มค่าความเป็นด่างให้กับดิน ช่วยแก้ปัญหาดินเป็นกรด และยังมีคุณสมบัติในการไล่แมลงและป้องกันโรคพืชบางชนิดได้อีกด้วย

วิธีการใช้ขี้เถ้าเป็นปุ๋ยทำได้ง่ายๆ โดยการโรยขี้เถ้าลงบนดินและรดน้ำตาม ควรผสมให้เข้ากับดินเล็กน้อยเพื่อให้ธาตุอาหารกระจายอยู่ในดินได้อย่างทั่วถึง สำหรับต้นไม้ในกระถาง สามารถผสมขี้เถ้าในดินปลูกได้ในอัตราส่วน 1 ส่วนต่อดิน 10 ส่วน

ขี้เถ้าเหมาะสำหรับพืชที่ชอบดินเป็นด่าง เช่น กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ หัวหอม และกระเทียม แต่ไม่เหมาะกับพืชที่ชอบดินเป็นกรดอย่างมันฝรั่ง สตรอเบอร์รี่ หรือบลูเบอร์รี่ ควรใช้ขี้เถ้าอย่างระมัดระวังและไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ดินเป็นด่างมากเกินไปได้

สูตรปุ๋ยจากผงเจลาติน เสริมไนโตรเจนสำหรับไม้ประดับ

ผงเจลาตินเป็นแหล่งไนโตรเจนชั้นดีที่ช่วยให้พืชแข็งแรงและมีใบเขียวสวยงาม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปลูกไม้ประดับตระกูลบอนและมอนสเตอร่าที่ต้องการใบที่สวยงาม วิธีใช้ผงเจลาตินทำปุ๋ยทำได้โดยนำผงเจลาตินไปละลายในน้ำร้อน จากนั้นเติมน้ำเปล่าอีก 3 ถ้วยตวง แล้วนำไปรดต้นไม้เดือนละครั้ง

ผงเจลาตินยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ร่วนซุย อากาศถ่ายเทได้ดี และช่วยให้รากพืชเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการสร้างโปรตีนในพืช ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของเซลล์พืช

พืชที่ตอบสนองดีต่อปุ๋ยเจลาติน ได้แก่ ไม้ใบสวยงามอย่าง บอนสี เฟิลโลเดนดรอน และไม้ในตระกูลอโรเซเชียส์ (Araceae) ทั้งหลาย ควรใช้ปุ๋ยเจลาตินเพียงเดือนละครั้งเท่านั้น เพื่อป้องกันการสะสมไนโตรเจนมากเกินไปในดิน

วิธีการใช้ปุ๋ยออร์แกนิกอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

การใช้ปุ๋ยออร์แกนิกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้นมีหลักการสำคัญที่ควรคำนึงถึง เริ่มจากการใช้ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากแม้จะเป็นปุ๋ยจากธรรมชาติ แต่การใช้มากเกินไปอาจทำให้เกิดการสะสมของธาตุอาหารบางชนิดในดินได้ ควรเริ่มจากปริมาณน้อยก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มตามความเหมาะสม

ความถี่ในการให้ปุ๋ยขึ้นอยู่กับชนิดของปุ๋ยและความต้องการของพืช โดยทั่วไปปุ๋ยออร์แกนิกจะปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างช้าๆ จึงควรให้ล่วงหน้าก่อนที่พืชจะต้องการใช้ เช่น ปุ๋ยหมักควรใส่ก่อนการปลูกพืช 2-4 สัปดาห์ ส่วนปุ๋ยน้ำอาจให้ได้บ่อยกว่า เช่น ทุก 1-2 สัปดาห์

การผสมผสานปุ๋ยออร์แกนิกหลายชนิดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและให้ธาตุอาหารที่ครบถ้วนมากขึ้น เช่น การใช้ปุ๋ยเปลือกไข่ร่วมกับปุ๋ยเปลือกกล้วย จะให้ทั้งแคลเซียมและโพแทสเซียมที่พืชต้องการ ควรมีการหมุนเวียนชนิดของปุ๋ยเพื่อให้ดินได้รับธาตุอาหารที่หลากหลาย

ฤดูกาลมีผลต่อประสิทธิภาพของปุ๋ยออร์แกนิกเช่นกัน ในช่วงฤดูร้อนพืชต้องการธาตุอาหารมากกว่าฤดูหนาว จึงควรเพิ่มความถี่ในการให้ปุ๋ยระหว่างช่วงเติบโตเต็มที่ และลดลงในช่วงที่พืชพักตัว นอกจากนี้ การคลุมดินด้วยวัสดุอินทรีย์ เช่น ฟางข้าว หรือใบไม้แห้ง จะช่วยรักษาความชื้นและลดการสูญเสียธาตุอาหารจากปุ๋ยออร์แกนิกได้ดี

การปลูกพืชหลายชนิดสลับกันช่วยหมุนเวียนการใช้ธาตุอาหารในดิน และลดการสะสมของโรคและแมลงศัตรูพืช จึงควรวางแผนการปลูกพืชและการใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับชนิดของพืชและช่วงเวลา

การทำปุ๋ยออร์แกนิกใช้เองจากวัสดุในครัวเรือนไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายและขยะเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้ผลิตผลที่ปลอดภัยต่อสุขภาพอีกด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพดินและความต้องการของพืชที่ปลูก


#สาระ #ปุ๋ยออร์แกนิก #ทำปุ๋ยใช้เอง #ปุ๋ยธรรมชาติ #ลดขยะ #ทำสวนออร์แกนิก #เกษตรอินทรีย์ #ประหยัดค่าใช้จ่าย #รักษ์โลก #เปลือกไข่ #เปลือกกล้วย

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
สมุนไพรไล่ยุงมีอะไรบ้าง? 7+ ชนิดที่ใช้แทนสารเคมีได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ต้นไม้และสวน
เผยภาพจริงครั้งแรก! “เดมี พระราม 9 – เหม่งจ๋าย” ลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนท์ใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ เปิดจอง 14 – 15 มิ.ย. นี้
ข่าวสาร
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เดินเกมสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค เร่งขยายฐานตลาดทั่วประเทศ ตอกย้ำ ‘มาตรฐานก่อสร้าง – บริการที่แตกต่าง’
ข่าวสาร
เปิดตัว “SPACES” โดย SNS เครือสหพัฒน์ ผนึกกำลัง KingBridge Tower และ IWG สร้างพื้นที่สำนักงานให้เช่าครบวงจร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ใจกลางพระราม 3
ข่าวสาร
วิธีปลูกกล้วยให้งอกงามและได้ผลดีทำอย่างไร? คู่มือปลูกกล้วยฉบับสมบูรณ์
ต้นไม้และสวน
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..