Kave Playground (copy)

ไข่ผำเลี้ยงอย่างไร ให้ได้ซูเปอร์ฟู้ดจิ๋วโปรตีนสูงไว้กินเองที่บ้าน?

ไข่ผำ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า ผำ ไข่น้ำ ไข่แหน เป็นพืชน้ำขนาดเล็กที่ได้รับการยกให้เป็นซูเปอร์ฟู้ดของไทยและกำลังเป็นที่รู้จักในระดับโลก ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก โดยเฉพาะปริมาณโปรตีนถึง 40% ของน้ำหนักแห้ง วิตามินและแร่ธาตุหลากหลาย ทำให้หลายคนสนใจที่จะเลี้ยงไข่ผำไว้บริโภคเอง หรือเพื่อการจำหน่าย แต่จะเลี้ยงอย่างไรให้ได้ผลดี? บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้วิธีการเลี้ยงไข่ผำอย่างมืออาชีพ พร้อมทั้งประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการที่คุณอาจยังไม่รู้

ขอบคุณภาพจาก : สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน

“กรีนคาเวียร์” ไข่ผำคืออะไร ทำไมถึงเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่น่าสนใจ?

ไข่ผำ (Wolffia arrhiza (L.) Wimm.) เป็นพืชน้ำขนาดเล็กที่สุดในโลกในวงศ์ Lemnaceae มีลักษณะเป็นเม็ดสีเขียวกลมหรือเกือบกลม เส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 0.5-1.5 มิลลิเมตร ไม่มีราก ไม่มีใบ โดยภายในเซลล์มีอากาศแทรกคล้ายฟองน้ำซึ่งช่วยให้ลอยน้ำได้ มักพบตามหนอง บึง หรือแหล่งน้ำนิ่งทั่วไป โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสานของไทย

ไข่ผำได้รับฉายาว่า “กรีนคาเวียร์” (Green Caviar) เพราะรูปร่างคล้ายไข่ปลาแต่มีสีเขียว และมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ถือเป็นอาหารพื้นบ้านที่มีมาแต่โบราณ แต่ปัจจุบันได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในฐานะซูเปอร์ฟู้ดเพราะคุณค่าทางโภชนาการที่โดดเด่น

คุณค่าทางโภชนาการของไข่ผำ ทำไมถึงได้จัดเป็นซูเปอร์ฟู้ด?

ไข่ผำ 100 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการที่น่าทึ่งดังนี้:

  • พลังงาน 8-9 กิโลแคลอรี
  • น้ำ 97.1 กรัม
  • โปรตีน 0.6 กรัม (สูงถึง 40% ของน้ำหนักแห้ง ซึ่งสูงกว่าเนื้อสัตว์บางชนิด)
  • ไขมัน 0.1 กรัม (ไขมันต่ำมาก)
  • คาร์โบไฮเดรต 1.5 กรัม
  • ใยอาหาร 0.3 กรัม
  • แคลเซียม 59 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 25 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 6.6 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 535 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 1 (ไทอะมีน) 0.03 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) 0.09 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 3 (ไนอะซิน) 0.4 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี 12 (ซึ่งหายากในพืช)
  • วิตามินซี 11 มิลลิกรัม
  • เบต้าแคโรทีน สูงมาก
  • คลอโรฟิลล์จากการสังเคราะห์แสง
  • กรดอะมิโนจำเป็นไม่ต่างจากไข่ไก่
  • กรดไขมันโอเมก้า 3
  • สารต้านอนุมูลอิสระปริมาณสูง

ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนนี้ ทำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และผลักดันให้ “ไข่ผำ” เป็นซูเปอร์ฟู้ดของโลก

ประโยชน์ของไข่ผำต่อสุขภาพมีอะไรบ้าง?

ไข่ผำมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้:

  1. มีไฟเบอร์ช่วยในการขับถ่าย ดีต่อระบบย่อยอาหาร
  2. โปรตีนสูงช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายและฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ
  3. มีธาตุเหล็กช่วยบำรุงเลือด ทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
  4. ช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน ด้วยแคลเซียมและสังกะสี
  5. บำรุงระบบประสาท ด้วยวิตามินบี 12 ซึ่งหายากในพืช
  6. บำรุงสายตา ด้วยเบต้าแคโรทีนที่สูงมาก
  7. มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
  8. ไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
  9. ช่วยรักษาอาการท้องผูก ด้วยคลอโรฟิลล์ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
  10. ช่วยรักษาภาวะซีดในผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง

วิธีเลี้ยงไข่ผำที่บ้านทำได้อย่างไร?

การเลี้ยงไข่ผำที่บ้านทำได้หลายวิธี ทั้งในบ่อซีเมนต์ บ่อพลาสติก หรือกระทั่งกะละมัง มาดูวิธีการเลี้ยงแบบละเอียดกัน:

การเตรียมภาชนะและพื้นที่ปลูก

  1. เลือกพื้นที่ที่มีแสงรำไรหรือกึ่งร่มกึ่งแดด หากเป็นพื้นที่กลางแจ้งควรพรางแสงด้วยสแลน 50%
  2. เตรียมภาชนะ เช่น บ่อซีเมนต์ขนาด 80-100 เซนติเมตร หรือกะละมังขนาดใหญ่
  3. หากใช้บ่อซีเมนต์ใหม่ ควรล้างทำความสะอาดก่อน โดยอาจใช้ต้นกล้วยตัดเป็นท่อนวางในบ่อเพื่อช่วยลดสภาพความเป็นด่างของซีเมนต์

การเลี้ยงไข่ผำในบ่อซีเมนต์หรือภาชนะขนาดเล็ก

  1. กรองน้ำสะอาดใส่ในบ่อหรือภาชนะให้มีระดับน้ำสูง 20-30 เซนติเมตร
  2. ละลายปุ๋ยสูตร 16-16-16 จำนวน 100 กรัมในน้ำ เพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้ไข่ผำ
  3. นำพันธุ์ไข่ผำที่สะอาดปล่อยลงในน้ำ แล้วรอให้แพร่ขยายพันธุ์จนเต็มบ่อ
  4. ดูแลให้น้ำโดนอากาศเล็กน้อย เพื่อให้ปุ๋ยและไข่ผำกระจายตัวได้ดี

การเลี้ยงไข่ผำในบ่อดินขนาดใหญ่

  1. เตรียมบ่อเลี้ยงขนาดตามต้องการ สูบน้ำออกให้หมดเพื่อกำจัดศัตรูของไข่ผำ เช่น ปลากินพืช
  2. โรยปูนขาวปรับสภาพดินในอัตรา 10-20 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วตากบ่อให้แห้งประมาณ 7 วัน
  3. หว่านปุ๋ยคอกในบ่อดินให้ทั่ว หรือใส่กระสอบมัดตามมุมบ่อในอัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่
  4. สูบน้ำเข้าบ่อเลี้ยงให้สูง 50-80 เซนติเมตร โดยผ่านอวนไนลอนหรือมุ้งเขียว เพื่อกรองไข่ปลา
  5. นำพันธุ์ไข่ผำมาปล่อยในอัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่
ขอบคุณภาพจาก : John Deere RMA

การดูแลและเก็บเกี่ยวไข่ผำให้ได้ผลผลิตที่ดีทำอย่างไร?

การดูแล

  1. รักษาระดับน้ำไม่ให้น้อยกว่า 50 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดส่องถึงพื้นท้องน้ำซึ่งจะทำให้สาหร่ายเติบโต
  2. เติมน้ำในภาชนะปลูกทุกเดือนตามความเหมาะสม
  3. เพิ่มธาตุอาหารในน้ำโดยใส่ปุ๋ยคอกทุกเดือน หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์สูตร 16-16-16 ในอัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่
  4. หากเลี้ยงในบ่อซีเมนต์หรือภาชนะขนาดเล็ก ให้คอยดูแลความหนาแน่นของไข่ผำไม่ให้มากเกินไป

การเก็บเกี่ยว

สามารถเก็บเกี่ยวไข่ผำได้ 2 วิธี:

  1. การเก็บเกี่ยวครั้งเดียวหมดบ่อ: เหมาะสำหรับการเก็บหลังจากเลี้ยงไข่ผำได้ประมาณ 1 เดือน
  2. การเก็บเกี่ยวบางส่วน: ทำได้หลังจากไข่ผำขยายพันธุ์ประมาณ 6-10 วัน โดยเก็บเพียงบางส่วนและปล่อยส่วนที่เหลือให้เติบโตต่อ วิธีนี้จะสามารถเก็บเกี่ยวได้เรื่อย ๆ ทุก 7 วัน แต่ต้องมีการเพิ่มปุ๋ยระหว่างการเลี้ยงด้วย

ในการเก็บควรใช้ตะแกรงขนาดพอเหมาะช้อนขึ้นมา บางส่วนเพื่อให้ยังเหลือไข่ผำสำหรับแพร่พันธุ์ต่อไป

ขอบคุณภาพจาก : Wongnai

เมนูอาหารจากไข่ผำทำอะไรได้บ้าง?

ไข่ผำมีรสชาติจืด เคี้ยวมัน มีเนื้อสัมผัสกรุบๆ คล้ายไข่ปลา หรือมีรสคล้ายผักวอเตอร์เครสหรือกะหล่ำปลี สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย:

  1. อาหารคาว: แกงคั่ว แกงอ่อม ไข่เจียวไข่ผำ ไข่ตุ๋นไข่ผำ คั่วไข่ผำ ยำผำ ห่อหมกไข่ผำ
  2. อาหารหวาน: โดนัทไข่ผำ ไอศกรีมไข่ผำ
  3. อาหารสุขภาพ: ท็อปปิ้งสลัด โยเกิร์ตราดไข่ผำ เมี่ยงคำ เมี่ยงคำคุกกี้
  4. แปรรูป: ไข่ผำอบแห้ง ซึ่งมีราคาสูงมากสำหรับส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น (สูงถึง 30,000 บาทต่อกิโลกรัม)
ขอบคุณภาพจาก : Kapook

ข้อควรระวังในการเลี้ยงและบริโภคไข่ผำมีอะไรบ้าง?

ข้อควรระวังในการเลี้ยง

  1. ไข่ผำมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและอากาศ
  2. ช่วงฝนตกหนักอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต เพราะทำให้ปุ๋ยเคมีเจือจาง
  3. หากเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ฝนที่ตกแรงอาจทำให้พืชกระเด็นติดผนังบ่อและตายได้
  4. ควรเลือกพื้นที่ที่มีร่มเงาหรือแสงรำไร ไม่ควรโดนแสงแดดจัด

ข้อควรระวังในการบริโภค

  1. ไข่ผำจากแหล่งน้ำธรรมชาติอาจมีการปนเปื้อนของพยาธิ เชื้อแบคทีเรีย เช่น อีโคไล เชื้อบิด อะมีบา หรือ Giardia ที่อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียรุนแรงได้
  2. พืชน้ำสามารถดูดซับโลหะหนักจากแหล่งน้ำได้ เช่น โครเมียมและแคดเมียม โดยเฉพาะถ้าอยู่ในบริเวณแหล่งน้ำที่มีการปนเปื้อน
  3. แม้ในเนื้อเยื่อของไข่ผำจะมีแบคทีเรียที่สร้างวิตามินบี 12 แต่บางชนิดอาจเป็นแบคทีเรียที่มีความรุนแรง เช่น Aeromonas Hydrophila ที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  4. ควรล้างไข่ผำให้สะอาดและปรุงให้สุกทุกครั้งก่อนรับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ป่วยตับแข็ง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ผู้ที่ใช้ยากดภูมิ หรือได้รับเคมีบำบัด
ขอบคุณภาพจาก : ไทยรัฐออนไลน์

การเพาะเลี้ยงไข่ผำเชิงพาณิชย์มีโอกาสทางธุรกิจอย่างไร?

ไข่ผำกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูง ทำให้มีโอกาสทางธุรกิจมากมาย:

  1. เลี้ยงง่าย ใช้เนื้อที่น้อย เงินลงทุนไม่สูง สร้างรายได้เร็ว
  2. สามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก 7 วัน หากมีการบริหารจัดการที่ดี
  3. ราคาขายในประเทศประมาณกิโลกรัมละ 50 บาท
  4. หากอบแห้งส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 30,000 บาท
  5. สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มได้หลากหลาย เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาหารสำเร็จรูป หรือเครื่องสำอาง

การเลี้ยงไข่ผำในระบบฟาร์มปิดจะได้ผลผลิตที่สะอาด ถูกสุขอนามัย ลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อน และสามารถควบคุมคุณภาพได้ดีกว่าการเก็บจากแหล่งน้ำธรรมชาติ

ไข่ผำเป็นพืชพื้นบ้านที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถเลี้ยงได้ง่ายที่บ้าน แม้จะมีพื้นที่จำกัด การเลี้ยงไข่ผำไว้รับประทานเองหรือเพื่อจำหน่ายนั้น เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพและสร้างรายได้เสริม เพียงเราเข้าใจวิธีการเลี้ยงที่ถูกต้อง และคำนึงถึงข้อควรระวังในการบริโภคเพื่อความปลอดภัย ก็จะได้ประโยชน์จากพืชจิ๋วมหัศจรรย์ชนิดนี้อย่างเต็มที่

#สาระ #ไข่ผำ #ซูเปอร์ฟู้ด #โปรตีนจากพืช #ผักพื้นบ้าน #อาหารเพื่อสุขภาพ #วิธีเลี้ยงไข่ผำ #Green Caviar #เกษตรพอเพียง #พืชน้ำ #อาชีพเสริมเกษตร

อ่านเพิ่ม
Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
นางพญาเสือโคร่งคืออะไร? ทำไมถึงได้ชื่อว่าซากุระเมืองไทย และวิธีปลูกที่ถูกต้อง
ต้นไม้และสวน
“โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า” คว้า 7 รางวัลใหญ่ระดับเอเชียจากเวที Asia Pacific Property Awards 2025 ตอกย้ำผู้นำอสังหาฯ​ หรูดีไซน์เหนือระดับ-ตอบโจทย์ความยั่งยืน
ข่าวสาร
กลุ่มบริษัททรัพย์สถาพร (SHL GROUP) ครบรอบ 70 ปี ชู 3 ปรัชญาองค์กร กุญแจความสำเร็จสู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมเดินหน้ารุกพัฒนาต่อยอดธุรกิจรับเมกะเทรนด์ ลุยนิวเอสเคิร์ฟ
ข่าวสาร
แสนสิริ ผนึกกำลัง 4 แบงก์ชั้นนำ ออกโปรโมชันเพื่อคนอยากมีบ้าน
ข่าวสาร
“ควอลิตี้เฮ้าส์” จัดแคมเปญ “No Worry บ้านดี โปรเด็ด” มอบส่วนลดสูงสุด 2,000,000 บ.* กับ 43 โครงการ ทาวน์โฮม บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว บนทำเลกรุงเทพฯ ปริมณฑล ชลบุรี เชียงใหม่
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..