ต้นไม้ใบสีแดงและเขียวไม่เพียงแต่เข้ากับเทศกาลแห่งความสุขอย่างวันคริสต์มาสเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มสีสันให้กับบ้านได้ตลอดทั้งปี บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ 10 ชนิดของต้นไม้ใบสีแดงสีเขียวที่ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และเหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองไทย

ขอบคุณภาพจาก : all_sell_thee
พรมออสเตรเลียดูแลยากไหม? เคล็ดลับการปลูกต้นไม้สวยสไตล์โมเสก
พรมออสเตรเลียหรือที่รู้จักกันในชื่อ Mosaic Plant หรือ Nerve Plant เป็นไม้คลุมดินขนาดเล็กที่มีความสูงเพียง 10-15 เซนติเมตร โดดเด่นด้วยลวดลายเส้นใบสีแดงสวยงามบนพื้นใบสีเขียว ต้นไม้ชนิดนี้ชอบความชื้นสูงและแสงสว่างแต่ไม่ต้องการแสงแดดโดยตรง เพราะอาจทำให้ใบไหม้ได้
การดูแลพรมออสเตรเลียนั้นต้องคอยรดน้ำเมื่อดินชั้นบนแห้ง โดยควรใช้น้ำกรอง น้ำฝน หรือน้ำต้มที่เย็นแล้วจะดีที่สุด หากปล่อยให้ต้นแห้งเกินไป ใบจะเหี่ยวลง แต่หลังจากรดน้ำอย่างทั่วถึง ใบก็จะกลับมาสดชื่นอีกครั้ง นอกจากนี้การพ่นละอองน้ำหรือวางในห้องน้ำที่มีความชื้นจะช่วยให้ต้นเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 18-26 องศาเซลเซียส

ฤๅษีผสมเป็นต้นไม้ที่เหมาะกับสภาพอากาศไทยจริงหรือ?
ฤๅษีผสม หรือ Coleus เป็นไม้อวบน้ำที่มีความสูงประมาณ 40-80 เซนติเมตร มีใบสีแดงสวยงามขอบใบเป็นสีเขียว ลักษณะใบเป็นรูปไข่ปลายแหลม โคนมน และขอบใบหยัก ต้นฤๅษีผสมเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศเมืองไทย
การดูแลฤๅษีผสมนั้นต้องการแสงแดดจัดเพื่อให้สีของใบสวยสดมากขึ้น แต่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่มีแสงสว่างทั่วไปเช่นกัน ควรรดน้ำเป็นประจำเมื่อดินชั้นบนแห้ง และหมั่นเด็ดยอดเพื่อให้ต้นแตกพุ่มสวยงาม หากปลูกในกระถาง ควรใส่ปุ๋ยทุก 2 สัปดาห์ในช่วงเติบโต โดยเฉพาะปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงจะช่วยให้ต้นเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 15-24 องศาเซลเซียส

คริสตินาเป็นไม้พุ่มที่ปลูกง่ายสำหรับมือใหม่หรือไม่?
คริสตินา หรือ Australian Rose Apple เป็นไม้พุ่มขนาดกลางมีความสูงประมาณ 2-5 เมตร มีใบอ่อนสีแดงสวยงามที่จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อแก่ขึ้น เป็นต้นไม้ที่แตกกิ่งเป็นพุ่มหนา จึงต้องหมั่นตัดแต่งเพื่อให้ทรงพุ่มสวยงาม
การปลูกคริสตินานั้นเหมาะกับดินร่วนปนทราย ควรใส่อินทรียวัตถุเช่นปุ๋ยหมักหรือใบไม้แห้งลงในหลุมก่อนปลูก หมั่นรดน้ำให้ดินชุ่มแต่ไม่แฉะ และปลูกในที่มีแสงแดดตลอดทั้งวันเพื่อให้ใบมีสีสันสวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วยการปักชำ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นปลูกต้นไม้

คริสต์มาสจะสามารถเก็บไว้ได้นานแค่ไหนหลังเทศกาล?
คริสต์มาส หรือ Poinsettia เป็นต้นไม้ที่มักนิยมนำมาประดับในช่วงเทศกาลคริสต์มาส มีความสูงประมาณ 1-3 เมตร โดดเด่นด้วยใบประดับสีแดงสดที่อยู่ล้อมรอบดอกจริงที่มีขนาดเล็กสีเหลืองอมเขียว
การดูแลต้นคริสต์มาสให้อยู่ได้นานหลังเทศกาลนั้นต้องวางกระถางในที่มีแสงสว่างแต่ไม่โดนแสงแดดโดยตรง อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 13-15 องศาเซลเซียส ควรหลีกเลี่ยงที่มีลมโกรกหรือใกล้เครื่องทำความร้อน รดน้ำเมื่อผิวดินเริ่มแห้ง และพ่นละอองน้ำที่ใบและใบประดับเป็นประจำเพื่อเพิ่มความชื้น หลังจากเทศกาลคริสต์มาส ให้ใส่ปุ๋ยโพแทสเซียมสูงเดือนละครั้ง เช่น ปุ๋ยสำหรับมะเขือเทศ หากดูแลดี ต้นคริสต์มาสสามารถออกดอกได้อีกครั้งในปีถัดไป

ขอบคุณภาพจาก : The Home Depot
หูปลาช่อนจะมีสีสันสวยงามตลอดทั้งปีหรือไม่?
หูปลาช่อน หรือ Copperleaf เป็นไม้พุ่มที่มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร มีใบหลากหลายรูปแบบทั้งรูปกลม รูปไข่ และรูปรี ที่มีทั้งสีแดงและเหลืองอ่อน มีขอบใบหยักคล้ายฟันเลื่อย
หูปลาช่อนจะมีสีสันสดใสตลอดทั้งปีหากได้รับการดูแลที่ถูกต้อง โดยควรปลูกในที่มีแสงแดดเต็มที่เพื่อให้ใบมีสีสันสดใสยิ่งขึ้น แต่ก็สามารถเจริญเติบโตได้ในพื้นที่ที่มีแสงน้อยหรือแสงกึ่งร่มเงาเช่นกัน การรดน้ำควรทำเมื่อดินแห้งและควรรดน้ำหลายครั้งต่อสัปดาห์เพื่อให้ระบบรากแข็งแรง ต้นนี้สามารถทนต่อสภาพแห้งแล้งได้ แต่การรดน้ำอย่างสม่ำเสมอจะให้ผลที่ดีกว่า ควรใส่ปุ๋ยทุกสามเดือนเพื่อให้ดินคงความอุดมสมบูรณ์ และควรตัดแต่งเพื่อควบคุมขนาดและรูปทรงของพุ่มไม้

สยามออโรร่าเป็นไม้มงคลจริงหรือ? วิธีปลูกให้เสริมความโชคดี
สยามออโรร่า หรือแสงเงินแสงทอง (Red Aglaonema) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีอายุหลายปี มีความเชื่อว่าเป็นไม้มงคลที่ช่วยเสริมโชคลาภ มีใบเดี่ยวรูปหอก ปลายแหลม ขอบเรียบ พื้นใบสีเขียวมัน มีก้านใบ ขอบใบ และเส้นกลางใบสีแดงออกชมพูสวยงาม
การปลูกสยามออโรร่าให้เจริญงอกงามนั้น ควรปลูกในที่มีแสงสว่างแต่ไม่โดนแสงแดดโดยตรง เพราะแสงแดดจัดอาจทำให้ใบไหม้ได้ ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนที่มีการระบายน้ำดี ควรรดน้ำเมื่อดินชั้นบนแห้ง ประมาณ 0.5 ถ้วยทุก 9 วันหากปลูกในกระถางขนาด 5 นิ้ว การใส่ปุ๋ยควรทำเดือนละครั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ต้นไม้ชนิดนี้เติบโตได้ดีในอุณหภูมิระหว่าง 18-24 องศาเซลเซียส

ขอบคุณภาพจาก : Thaipick
เกล็ดทับทิมต้องการแสงแดดมากแค่ไหนจึงจะเจริญงอกงาม?
เกล็ดทับทิม หรือ Calico Plant (Alternanthera) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีอายุหลายปี มีลำต้นสีแดงอ่อนถึงแดงเข้ม ใบด้านบนเป็นสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้มตัดกับใต้ใบที่มีสีแดง ทำให้มีความเชื่อว่าปลูกแล้วช่วยเสริมโชคลาภ
เกล็ดทับทิมชอบแสงแดดจัดและจะแสดงสีสันสวยงามที่สุดเมื่อได้รับแสงแดดเต็มที่ ควรวางใกล้หน้าต่างทางทิศใต้เพื่อให้ได้รับแสงมากที่สุด การรดน้ำควรทำเมื่อดินแห้ง ประมาณ 25-30 มิลลิลิตรต่อสัปดาห์ แต่ต้องปรับตามสภาพอากาศ หากต้นเริ่มเหี่ยวควรรีบรดน้ำทันที เพราะหากทิ้งไว้นานเกินไปจะทำให้ต้นตายได้ ศัตรูพืชที่พบบ่อยคือเพลี้ยและไรแดง ซึ่งสามารถกำจัดด้วยสบู่กำจัดแมลงหรือน้ำมันสะเดา

ขอบคุณภาพจาก : โรงเรียนบ้านหนองไผ่
ลิ้นกระบือเป็นต้นไม้อันตรายหรือไม่? ข้อควรระวังในการปลูก
ลิ้นกระบือ หรือ Picara (Excoecaria cochinchinensis) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กที่มีความสูงประมาณ 0.5-1 เมตร มีกิ่งมาก ใบเดี่ยวรูปหอก ผิวใบด้านบนสีเขียวตัดกับใต้ใบสีแดงสวยงาม
ลิ้นกระบือต้องการแสงสว่างแบบกระจายหรือแดดอ่อน ๆ โดยเฉพาะในช่วงเช้า แต่ควรมีร่มเงาในช่วงบ่ายที่แดดจัด ควรวางในตำแหน่งที่มีอุณหภูมิประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส และอาจทนต่ออากาศเย็นได้ถึง -4 องศาเซลเซียสในช่วงสั้น ๆ ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินร่วนที่ระบายน้ำดี ควรรดน้ำเมื่อชั้นผิวดินแห้ง และในฤดูร้อนควรรดน้ำบ่อยขึ้น ความชื้นสูงและการพ่นละอองน้ำเป็นประจำจะช่วยให้ต้นเจริญเติบโตได้ดี ข้อควรระวังคือน้ำยางของต้นนี้มีพิษ อาจระคายเคืองผิวหนังและตาได้ จึงควรระมัดระวังเมื่อตัดแต่งหรือขยายพันธุ์

โกสนมีกี่สายพันธุ์? และอะไรทำให้ใบมีสีสันสวยงาม?
โกสน หรือ Croton (Codiaeum variegatium) เป็นไม้พุ่มที่มีความสูงประมาณ 2-3 เมตร มีหลากหลายสายพันธุ์ที่มีสีสันและรูปทรงของใบแตกต่างกันไป ทั้งสีแดง สีเขียว สีส้ม สีเหลือง สีม่วง ไปจนถึงสีดำ
ปัจจัยที่ทำให้ใบโกสนมีสีสันสวยงามคือปริมาณแสงที่ได้รับ โกสนจะมีสีสันสดใสที่สุดเมื่อได้รับแสงแดดเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงอากาศเย็น การดูแลโกสนควรปลูกในดินที่ระบายน้ำดี ไม่ควรให้ดินแฉะเพราะจะทำให้รากเน่า รดน้ำเมื่อผิวดินแห้ง โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนจัด ควรตัดแต่งกิ่งเป็นประจำเพื่อควบคุมขนาดและรูปทรงของต้น โกสนสามารถทนต่อการตัดแต่งอย่างหนักและจะฟื้นตัวได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยการตัดกิ่งที่มีใบ 3-5 ใบ แล้วนำไปปักชำในดินปลูก

ขอบคุณภาพจาก : PUNYIM
ผีเสื้อราตรีเป็นต้นไม้ที่ปลูกในบ้านได้หรือไม่? ความลับในการดูแล
ผีเสื้อราตรี หรือ Iron Cross Oxalis (Oxalis tetraphylla ‘Iron Cross’) เป็นต้นไม้ที่มีใบรูปหัวใจสีเขียวอ่อนพร้อมแต้มสีแดงอมม่วงที่โคนใบ ทำให้มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีความสูงประมาณ 6-54 เซนติเมตร
ผีเสื้อราตรีสามารถปลูกในบ้านได้และเป็นไม้ประดับในร่มที่ดูแลง่าย ควรวางในที่มีแสงสว่างจัดแต่ไม่ต้องโดนแสงแดดโดยตรง อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 18-24 องศาเซลเซียส แต่ไม่ควรเกิน 27 องศาเซลเซียส ควรรดน้ำเมื่อดินแห้งประมาณ 50-75% แต่ต้องระวังไม่ให้ดินแฉะ ต้องการความชื้นสูง ควรพ่นละอองน้ำหรือใช้เครื่องพ่นความชื้น
ผีเสื้อราตรีมีความพิเศษคือสามารถเก็บพลังงานไว้ใต้ดินในหัว หากอากาศเย็นเกินไปหรือขาดน้ำเป็นเวลานาน ใบอาจจะร่วงหมด แต่ไม่ได้หมายความว่าต้นนั้นตาย เพราะสามารถฟื้นฟูและงอกใหม่ได้เมื่ออยู่ในสภาวะที่เหมาะสมอีกครั้ง ควรใส่ปุ๋ยเดือนละครั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนด้วยปุ๋ยสำหรับพืชทั่วไป
สรุป
ต้นไม้ใบสีแดงสีเขียวทั้ง 10 ชนิดที่กล่าวมาล้วนมีความสวยงามและเหมาะสมกับการประดับตกแต่งบ้านในเมืองไทย แต่ละชนิดมีความต้องการในการดูแลที่แตกต่างกันไป เช่น พรมออสเตรเลียและผีเสื้อราตรีเหมาะสำหรับปลูกในร่ม ต้องการความชื้นสูง ส่วนหูปลาช่อน โกสน และเกล็ดทับทิมชอบแสงแดดจัดและสามารถทนแล้งได้ดี
การเลือกต้นไม้ควรพิจารณาจากสภาพแวดล้อมในบ้าน ปริมาณแสง และเวลาในการดูแล หากมีพื้นที่จำกัด อาจเลือกพรมออสเตรเลียหรือผีเสื้อราตรีที่มีขนาดเล็ก แต่หากมีพื้นที่มากและต้องการไม้พุ่มขนาดใหญ่ อาจเลือกโกสนหรือคริสตินา นอกจากนี้ ยังควรพิจารณาความปลอดภัย โดยเฉพาะหากมีเด็กหรือสัตว์เลี้ยงในบ้าน เนื่องจากบางชนิดเช่น ลิ้นกระบือมีน้ำยางที่เป็นพิษ และผีเสื้อราตรีมีความเป็นพิษหากกินเข้าไป
ไม่ว่าคุณจะเลือกต้นไม้ชนิดใด การดูแลอย่างสม่ำเสมอทั้งเรื่องแสง น้ำ และการใส่ปุ๋ยจะช่วยให้ต้นไม้เติบโตได้ดีและมีสีสันสวยงามตลอดทั้งปี
#สาระ #ต้นไม้ใบสีแดงสีเขียว #พรมออสเตรเลีย #ฤๅษีผสม #คริสตินา #คริสต์มาส #หูปลาช่อน #สยามออโรร่า #เกล็ดทับทิม #ลิ้นกระบือ #โกสน #ผีเสื้อราตรี #ไม้ประดับ #ต้นไม้ในบ้าน #ต้นไม้มงคล #การดูแลต้นไม้