KAVE playground

จะทำอย่างไรเมื่อต้องเปลี่ยนโต๊ะอาหารให้เป็นโต๊ะทำงานที่บ้านอย่างถูกหลักสรีรศาสตร์?

การทำงานที่บ้านกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของหลายคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับจัดมุมทำงานโดยเฉพาะ ทำให้หลายคนต้องปรับใช้พื้นที่อเนกประสงค์อย่างโต๊ะอาหารมาเป็นโต๊ะทำงานชั่วคราว แม้ว่าการนั่งที่โต๊ะอาหารในช่วงเวลาสั้นๆ อาจไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ แต่หากต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน การไม่ใส่ใจเรื่องการจัดท่านั่งและปรับพื้นที่ให้เหมาะสม อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้ บทความนี้จะอธิบายถึงวิธีการปรับโต๊ะอาหารให้เป็นโต๊ะทำงานที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้ทำงานที่บ้าน

ทำไมการนั่งทำงานที่โต๊ะอาหารถึงเป็นปัญหา?

ปัญหาหลักของการใช้โต๊ะอาหารเป็นโต๊ะทำงานไม่ได้อยู่ที่โต๊ะ แต่อยู่ที่ความไม่สอดคล้องกันระหว่างระดับความสูงของโต๊ะกับเก้าอี้ที่ออกแบบมาเพื่อการรับประทานอาหาร ไม่ใช่เพื่อการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน แม้ว่าโต๊ะอาหารจะมีความสูงใกล้เคียงกับโต๊ะทำงานทั่วไป (ประมาณ 29-30 นิ้ว) แต่เก้าอี้รับประทานอาหารมักจะเตี้ยเกินไปสำหรับการวางแขนในมุม 90 องศาเพื่อพิมพ์งานและใช้เมาส์

การศึกษาพบว่าการนั่งทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ (ergonomics) เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการปวดหลัง ปวดคอ ท่าทางไม่ถูกต้อง อัตราการเผาผลาญต่ำ การทำงานของระบบหายใจผิดปกติ และความเครียด ยิ่งไปกว่านั้น การวางจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะอาหารโดยตรงทำให้ต้องก้มหรือแหงนคอเพื่อมองหน้าจอ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดคอและบ่าเรื้อรังได้

นอกจากนี้ เก้าอี้รับประทานอาหารส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการนั่งเป็นเวลานาน ขาดการรองรับหลังและเอวที่เพียงพอ ทำให้เมื่อนั่งนานๆ จะเกิดความไม่สบายและมีแนวโน้มที่จะนั่งในท่าที่ไม่ถูกต้อง

อุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสำหรับปรับโต๊ะอาหารเป็นโต๊ะทำงาน

การแปลงโต๊ะอาหารให้เป็นพื้นที่ทำงานที่เหมาะสมต้องอาศัยอุปกรณ์เสริมหลายอย่าง เพื่อช่วยปรับระดับและสร้างความสบายในการทำงาน อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้ร่างกายอยู่ในท่าที่ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ ลดความเครียดของกล้ามเนื้อ และช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว ดังนี้:

เบาะรองนั่ง

เบาะรองนั่งเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการเพิ่มความสูงของที่นั่ง คุณอาจต้องใช้ 1-2 เบาะ ขึ้นอยู่กับความสูงที่ต้องการ เพื่อให้แขนอยู่ในระดับที่สามารถวางบนโต๊ะได้สบายในมุม 90 องศา และเท้ายังวางราบกับพื้นได้อย่างสบาย หากเบาะทำให้เท้าลอยจากพื้น ให้พิจารณาใช้ที่วางเท้าร่วมด้วย เบาะรองนั่งที่มีความหนาประมาณ 2-3 นิ้วจะช่วยปรับระดับความสูงได้อย่างเหมาะสม

หมอนรองหลังหรือเอว

เก้าอี้รับประทานอาหารส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบบให้มีการรองรับหลังส่วนล่าง (lumbar support) ที่เพียงพอ การใช้หมอนรองหลังหรือผ้าขนหนูม้วนวางที่บริเวณเอวจะช่วยรักษาความโค้งตามธรรมชาติของกระดูกสันหลัง ลดความเครียดของกล้ามเนื้อหลัง และช่วยป้องกันอาการปวดหลังเมื่อนั่งเป็นเวลานาน หมอนรองควรวางในตำแหน่งที่รองรับส่วนโค้งของกระดูกสันหลังส่วนล่าง ไม่ใช่บริเวณก้นหรือไหล่

ที่วางเท้าหรือเก้าอี้วางเท้า

เมื่อปรับความสูงของที่นั่งแล้ว หากเท้าไม่สามารถวางราบกับพื้นได้สบาย จำเป็นต้องมีที่วางเท้า เพื่อให้ขาอยู่ในมุมที่เหมาะสม (งอประมาณ 90 องศา) และลดแรงกดที่ด้านหลังขาและเส้นเลือด ที่วางเท้าอาจเป็นกล่อง หนังสือหนาๆ หรืออุปกรณ์วางเท้าที่มีจำหน่ายโดยเฉพาะ ที่วางเท้าที่ดีควรมีพื้นผิวที่ไม่ลื่น และสามารถปรับมุมได้เพื่อให้เหมาะกับความสูงและความสบายของผู้ใช้

แท่นวางแล็ปท็อป หรือ ที่ยกจอมอนิเตอร์

การวางแล็ปท็อปบนโต๊ะโดยตรงทำให้ต้องก้มคอเพื่อมองหน้าจอ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดคอและบ่า แท่นวางแล็ปท็อปหรือที่ยกจอมอนิเตอร์จะช่วยปรับระดับความสูงของจอให้ส่วนบนของจออยู่ระดับสายตาหรือต่ำกว่าเล็กน้อย ทำให้คอและศีรษะอยู่ในตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติ ลดความตึงของกล้ามเนื้อคอและบ่า มีแท่นวางแล็ปท็อปให้เลือกหลากหลายรูปแบบ บางรุ่นมีฟีเจอร์พิเศษเช่น สามารถปรับมุมได้ มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB และช่องวางโทรศัพท์มือถือ

คีย์บอร์ดและเมาส์ภายนอก

การใช้แล็ปท็อปอย่างเดียวโดยไม่มีคีย์บอร์ดและเมาส์ภายนอก จะทำให้มือและข้อมืออยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม คีย์บอร์ดและเมาส์ภายนอกจะช่วยให้สามารถวางแขนในมุม 90 องศาที่เหมาะสม ในขณะที่จอยังอยู่ในระดับสายตา ควรวางคีย์บอร์ดและเมาส์ให้ชิดขอบโต๊ะ เพื่อให้แขนและไหล่ผ่อนคลาย ไม่ต้องเอื้อมไกล

โคมไฟตั้งโต๊ะ

แสงสว่างในห้องครัวหรือพื้นที่รับประทานอาหารอาจไม่เพียงพอสำหรับการทำงาน หรืออาจอยู่ในตำแหน่งที่ทำให้เกิดเงาหรือแสงสะท้อนบนหน้าจอ การใช้โคมไฟตั้งโต๊ะเพิ่มเติมจะช่วยให้มีแสงสว่างที่เพียงพอและเหมาะสม ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา โคมไฟที่ดีควรสามารถปรับทิศทางได้ และให้แสงที่ไม่จ้าหรือกระพริบ

วิธีจัดพื้นที่ทำงานให้แยกจากพื้นที่ใช้ชีวิต

การทำงานที่บ้านโดยเฉพาะในพื้นที่อเนกประสงค์อย่างโต๊ะอาหาร อาจทำให้เกิดความรู้สึกว่า “ทำงานไม่จบไม่สิ้น” เพราะขาดการแบ่งแยกที่ชัดเจนระหว่างพื้นที่ทำงานและพื้นที่ใช้ชีวิต นี่คือวิธีการจัดการพื้นที่เพื่อสร้างขอบเขตที่ชัดเจน:

สร้างพื้นที่ทำงานเฉพาะ

แม้ว่าจะใช้โต๊ะอาหารเป็นโต๊ะทำงาน แต่ควรกำหนดพื้นที่เฉพาะสำหรับการทำงาน อาจเป็นมุมใดมุมหนึ่งของโต๊ะที่จัดไว้สำหรับวางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเอกสารการทำงานโดยเฉพาะ การมีพื้นที่ทำงานที่แน่นอนจะช่วยให้สมองสลับโหมดระหว่าง “เวลาทำงาน” และ “เวลาพักผ่อน” ได้ง่ายขึ้น

ใช้ตะกร้าหรือกล่องเก็บอุปกรณ์ทำงาน

เตรียมตะกร้าหรือกล่องเก็บอุปกรณ์ทำงานที่สามารถย้ายออกได้ง่ายเมื่อถึงเวลาใช้โต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร การจัดเก็บที่เป็นระเบียบจะช่วยให้การเปลี่ยนโหมดจากพื้นที่ทำงานเป็นพื้นที่รับประทานอาหารเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก ควรเลือกกล่องหรือตะกร้าที่มีหูหิ้วหรือล้อเลื่อนเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

กำหนดตารางเวลาที่ชัดเจน

สร้างและรักษาตารางเวลาทำงานประจำวันให้ชัดเจน เริ่มต้นและจบการทำงานในเวลาเดียวกันทุกวัน การมีตารางเวลาที่แน่นอนจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจปรับตัวได้ดีขึ้น และรู้สึกถึงการแบ่งแยกระหว่างช่วงเวลาทำงานและเวลาส่วนตัว เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ให้เก็บอุปกรณ์ทำงานทั้งหมดใส่กล่องหรือตะกร้า เพื่อเป็นสัญญาณบอกตัวเองว่าหมดเวลาทำงานแล้ว

แต่งตัวให้พร้อมทำงาน

การเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนอนหรือชุดอยู่บ้านเป็นชุดทำงาน (แม้จะเป็นชุดลำลองก็ตาม) จะช่วยสร้างความรู้สึกเปลี่ยนโหมดจากการพักผ่อนเป็นการทำงาน และเมื่อเลิกงาน การเปลี่ยนกลับเป็นชุดอยู่บ้านก็จะช่วยให้รู้สึกถึงการจบวันทำงานได้อย่างชัดเจน เทคนิคง่ายๆ นี้ช่วยสร้างขอบเขตทางจิตใจระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว

ข้อดีและข้อเสียของการใช้โต๊ะอาหารเป็นโต๊ะทำงาน

การใช้โต๊ะอาหารเป็นโต๊ะทำงานมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา:

ข้อดี

  1. พื้นที่กว้างขวาง: โต๊ะอาหารมักมีพื้นที่ผิวมากกว่าโต๊ะทำงานทั่วไป ทำให้มีที่วางเอกสาร อุปกรณ์การทำงาน และของใช้จำเป็นอื่นๆ ได้มากกว่า
  2. ความยืดหยุ่น: สามารถปรับเปลี่ยนกลับไปใช้เป็นโต๊ะอาหารได้ง่ายเมื่อจำเป็น ทำให้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าในบ้านขนาดเล็ก
  3. ประหยัดค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องลงทุนซื้อโต๊ะทำงานใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานที่บ้านเป็นครั้งคราวหรือมีงบประมาณจำกัด
  4. เปลี่ยนบรรยากาศ: การทำงานในพื้นที่ที่ต่างไปจากโต๊ะทำงานปกติอาจช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และลดความเบื่อหน่าย

ข้อเสีย

  1. ไม่เหมาะกับการยศาสตร์: โต๊ะอาหารและเก้าอี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการทำงานเป็นเวลานาน ต้องใช้อุปกรณ์เสริมหลายอย่างเพื่อปรับให้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์
  2. การเก็บอุปกรณ์: ต้องเก็บและจัดเตรียมอุปกรณ์ทำงานทุกครั้งที่ต้องเปลี่ยนกลับไปใช้เป็นโต๊ะอาหาร ซึ่งอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก
  3. ความสับสนของสมอง: การใช้พื้นที่เดียวกันสำหรับกิจกรรมที่แตกต่างกัน อาจทำให้สมองสับสนและยากต่อการแยกแยะระหว่างเวลาทำงานและเวลาพักผ่อน
  4. สิ่งรบกวนและการเสียสมาธิ: พื้นที่รับประทานอาหารมักเป็นพื้นที่ส่วนกลางของบ้าน ซึ่งอาจมีคนเดินผ่านไปมาหรือมีเสียงรบกวนมากกว่าห้องทำงานส่วนตัว

เทคนิคการรักษาสุขภาพเมื่อต้องทำงานที่โต๊ะอาหาร

นอกจากการจัดสถานที่และอุปกรณ์ให้เหมาะสมแล้ว ยังมีเทคนิคที่ช่วยรักษาสุขภาพเมื่อต้องทำงานที่โต๊ะอาหารเป็นเวลานาน:

เปลี่ยนท่านั่งและลุกเดินบ่อยๆ

ไม่ควรนั่งในท่าเดียวนานเกินไป ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ ลุกเดินประมาณ 5-10 นาทีทุกชั่วโมง การเคลื่อนไหวร่างกายสม่ำเสมอช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือด และลดความตึงของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความสดชื่นและสมาธิในการทำงานอีกด้วย

บริหารร่างกายระหว่างวัน

ทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อง่ายๆ ที่โต๊ะทำงาน เช่น การยืดคอ หมุนไหล่ กระดิกข้อมือ และยืดขาเป็นระยะๆ การบริหารร่างกายสั้นๆ ทุก 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงจะช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อและป้องกันอาการปวดเมื่อย

ดูแลสุขภาพดวงตา

ปฏิบัติตามกฎ 20-20-20 คือทุกๆ 20 นาที ให้มองไกลออกไปที่ระยะ 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตา ปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมกับแสงในห้อง และพิจารณาใช้แว่นกรองแสงสีฟ้าหากต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน

ดื่มน้ำและรับประทานอาหารให้เป็นเวลา

จัดวางขวดน้ำไว้ใกล้ตัวเพื่อเตือนให้ดื่มน้ำสม่ำเสมอ และควรแยกเวลารับประทานอาหารออกจากเวลาทำงานอย่างชัดเจน การรับประทานอาหารที่โต๊ะทำงานอาจทำให้รับประทานอาหารเร็วเกินไป ไม่เคี้ยวอาหารให้ละเอียด และไม่รู้สึกถึงความอิ่ม ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาระบบย่อยอาหารได้

สรุป

การปรับเปลี่ยนโต๊ะอาหารให้เป็นโต๊ะทำงานที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์เป็นสิ่งที่ทำได้ ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสม เช่น เบาะรองนั่ง หมอนรองหลัง ที่วางเท้า และแท่นวางแล็ปท็อป นอกจากนี้ การจัดพื้นที่ทำงานให้เป็นสัดส่วน การสร้างขอบเขตที่ชัดเจนระหว่างเวลาทำงานและเวลาส่วนตัว และการดูแลสุขภาพร่างกายระหว่างวัน ล้วนมีความสำคัญเมื่อต้องใช้โต๊ะอาหารเป็นโต๊ะทำงานที่บ้าน แม้ว่าโต๊ะอาหารจะไม่ใช่ทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทำงานในระยะยาว แต่ด้วยการปรับแต่งอย่างเหมาะสม ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่บ้านได้


#สาระ #ทำงานที่บ้าน #โต๊ะอาหาร #การยศาสตร์ #โฮมออฟฟิศ #สุขภาพการทำงาน #ท่านั่งทำงาน #แท่นวางแล็ปท็อป #work-life-balance

อ่านเพิ่ม

หมายเหตุ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปสำหรับเว็บไซต์ Homeday โดย บริษัท โฮมเดย์ กรุ๊ป จำกัด เท่านั้น บริษัทไม่สามารถให้คำมั่นหรือคำรับประกันเกี่ยวกับเนื้อหา รวมถึงไม่สามารถรับรองความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์เฉพาะใดๆ ตามขอบเขตของกฎหมาย เราจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ปรากฏในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วนสมบูรณ์ ณ เวลาที่จัดทำ ข้อมูลดังกล่าวไม่ควรนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินใจด้านการเงิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือประเด็นกฎหมายโดยทันที ผู้อ่านไม่ควรอาศัยข้อมูลในบทความนี้แทนคำแนะนำจากผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและสภาวะเฉพาะของท่านได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากท่านเลือกที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจของท่าน

The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
พรีเมียม แอสเซท แมเนจเมนท์ ยกระดับมาตรฐานการบริหารอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรสานต่อประสบการณ์กว่า 63 ปีของ “ปรีดา กรุ๊ป” สู่การบริหารจัดการคุณภาพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
ข่าวสาร
TOA ยืนหนึ่งผู้นำนวัตกรรมสี – แผ่นยิปซัม คว้า ‘ฉลากเขียว’ ตอกย้ำองค์กรสีเขียวเดินหน้าสู่ความยั่งยืน
ข่าวสาร
Uniqlo ร่วมมือ Chongdee: กลยุทธ์ Global x Local โดยเซ็นทรัลพัฒนา ที่เชื่อมแบรนด์ชาไทยกับ LifeWear ญี่ปุ่น สู่คอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟแห่งปีk
ข่าวสาร
แอสคอทท์ ประเทศไทย กวาด 3 รางวัลใหญ่จากเวที World Travel Awards 2025
ข่าวสาร
BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ กรุงเทพกรีฑา (The Signature Krungthepkreetha) เปิดตัวบ้านรุ่นใหม่ New Kaiteki Series เพดานสูง 3.2 เมตร ทำเลบ้านหรูใกล้โรงเรียนนานาชาติ Brighton College และ Wellington College
Review
รีวิว ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว (Life Phahon-Ladprao) คอนโดใหม่ แต่งครบ พร้อมอยู่ ยูนิตน้อย ทำเล North CBD ห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้าม The Central พหลโยธิน
Review
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
Loading..