Q District

จัดมุมกาแฟในบ้านอย่างไรให้น่านั่งเหมือนคาเฟ่ชื่อดัง?

มุมกาแฟในบ้านไม่ใช่เพียงพื้นที่สำหรับชงเครื่องดื่ม แต่เป็นพื้นที่แห่งความผ่อนคลายที่ช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์คนรักกาแฟโดยไม่ต้องออกไปนั่งคาเฟ่ข้างนอก การสร้างมุมกาแฟในบ้านที่มีเสน่ห์ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและเป็นพื้นที่พิเศษสำหรับการพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นมุมเล็กๆ ข้างหน้าต่าง หรือมุมในสวนข้างบ้าน บทความนี้รวบรวมไอเดียการจัดมุมกาแฟหลากหลายสไตล์ที่คุณสามารถปรับใช้ให้เข้ากับพื้นที่และความชอบส่วนตัวของคุณเองได้

เหตุใดหลายคนจึงนิยมทำมุมกาแฟในบ้าน?

การมีมุมกาแฟในบ้านกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในยุคที่หลายคนทำงานจากที่บ้านมากขึ้น มุมกาแฟในบ้านช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายและเป็นสถานที่พักใจเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน เรียน หรือกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้การมีมุมกาแฟในบ้านยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการออกไปนั่งคาเฟ่ข้างนอกด้วย

การสร้างมุมกาแฟในบ้านยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านและยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัย ทำให้บ้านเป็นมากกว่าที่พักอาศัย แต่เป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการในการพักผ่อน หรือความต้องการในการเข้าสังคมเมื่อมีเพื่อนมาเยี่ยม

เลือกสถานที่จัดมุมกาแฟในบ้านอย่างไรให้เหมาะสม?

การเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างมุมกาแฟในบ้าน ควรคำนึงถึงทิศทางแสงแดดและลม เพื่อให้ได้บรรยากาศที่ดีที่สุด ในประเทศไทยทิศที่ร้อนที่สุดคือทิศตะวันตกและทิศใต้ ส่วนทิศที่สัมผัสแดดน้อยคือทิศเหนือ

หากมุมกาแฟอยู่บริเวณสวนที่มีต้นไม้ใหญ่ คุณสามารถเลือกตำแหน่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ได้ เพราะร่มเงาจะช่วยบังแสงแดด และยังมีลมพัดผ่านให้รู้สึกเย็นสบาย สำหรับมุมกาแฟที่ไม่ได้อยู่ในสวนและไม่ต้องการแสงแดดจัด อาจเลือกบริเวณทิศเหนือ

นอกจากนี้ การเลือกพื้นที่ใกล้หน้าต่างบานใหญ่จะช่วยให้มองเห็นวิวสวนแบบพาโนรามา ทำให้รู้สึกเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้แม้จะนั่งอยู่ในบ้าน หรือหากมีพื้นที่จำกัด อาจจัดมุมกาแฟในมุมเล็กๆ ของห้องนั่งเล่น หรือพื้นที่ว่างใต้บันได ซึ่งสามารถทำให้เป็นมุมที่น่าสนใจได้

จัดมุมกาแฟสไตล์มินิมอลอย่างไรให้ดูทันสมัย?

สไตล์โมเดิร์นมินิมอลเป็นสไตล์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ดูทันสมัย มุมกาแฟสไตล์นี้มักเน้นใช้วัสดุที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ เช่น กระจก คอนกรีต หรือไม้ โดยใช้โทนสีเรียบๆ เช่น ขาว ครีม เทา

การจัดพื้นที่แบบมินิมอลควรเน้นความโล่ง ไม่รกรุงรัง มีเพียงสิ่งจำเป็นเท่านั้น เช่น โต๊ะกาแฟขนาดกะทัดรัด เก้าอี้ที่เรียบง่ายแต่สะดวกสบาย ชั้นวางอุปกรณ์ชงกาแฟที่มีดีไซน์ทันสมัย หากจัดมุมกาแฟในบ้านสไตล์มินิมอลแบบญี่ปุ่น คุณสามารถใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้โอ๊คเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับพื้นที่

หากกังวลว่ามุมกาแฟจะดูจืดเกินไป สามารถเพิ่มสีสันด้วยเก้าอี้โทนเข้มหรือเพิ่มต้นไม้เล็กๆ เพื่อให้พื้นที่ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ความลงตัวของมุมกาแฟสไตล์มินิมอลอยู่ที่การเลือกชิ้นส่วนที่มีคุณภาพและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ โดยไม่ต้องมีมากชิ้นให้รกพื้นที่

ธรรมชาติกับมุมกาแฟ ผสมผสานอย่างไรให้ลงตัว?

การนำธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมุมกาแฟช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสดชื่น มุมกาแฟในสไตล์กรีนเนอรีเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนรักธรรมชาติ โดยเน้นการใช้โทนสีเขียวสดใสเหมือนต้นหญ้าผสมกับสีขาว และตกแต่งด้วยพืชพรรณต่างๆ

หากจัดมุมกาแฟในสวน สามารถเลือกตำแหน่งใต้ร่มเงาไม้ และล้อมรอบด้วยต้นไม้และดอกไม้ที่ชื่นชอบ หรือหากจัดภายในบ้าน อาจเลือกพื้นที่ใกล้หน้าต่างเพื่อรับแสงธรรมชาติ พร้อมประดับด้วยไม้ประดับขนาดเล็ก

สไตล์ทรอปิคอลเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการนำความเป็นเขตร้อนมาไว้ในมุมกาแฟ โดยใช้โทนสีที่สะท้อนองค์ประกอบจากธรรมชาติ เช่น สีเขียวของใบไม้ สีแสดของดอกไม้ หรือสีน้ำตาลของดิน วัสดุที่ใช้จะเป็นวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ ไม้ไผ่ หรืออิฐแดง พร้อมตกแต่งด้วยต้นไม้ที่ฟอกอากาศได้ดี เช่น ลิ้นมังกร หรือกวักมรกต

หลากหลายสไตล์ตกแต่งมุมกาแฟเพื่อบรรยากาศที่แตกต่าง?

การเลือกสไตล์การตกแต่งมุมกาแฟมีความสำคัญต่อบรรยากาศโดยรวม นอกจากสไตล์มินิมอลและแบบธรรมชาติแล้ว ยังมีสไตล์อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

สไตล์โคซี่

สไตล์โคซี่เน้นความอบอุ่น เรียบง่าย ให้ความรู้สึกละมุนตาและผ่อนคลาย โทนสีที่ใช้มักเป็นสีอบอุ่น สีเอิร์ธโทน หรือสีสบายตา เช่น ครีม ขาว น้ำตาล วัสดุที่ใช้มักเป็นวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ เครื่องหนัง ผ้าฝ้าย หรือเก้าอี้ไม้สาน ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเชิญชวนให้นั่งพักผ่อนได้ยาวนาน

สไตล์คอทเทจ

สไตล์คอทเทจเป็นการตกแต่งแบบตะวันตกที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบโฮมมี่ ผสมผสานความวินเทจและธรรมชาติเข้าด้วยกัน นิยมใช้โทนสีนุ่มๆ หรือสีพาสเทลอ่อนๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งจากวัสดุธรรมชาติสไตล์วินเทจ เช่น ชุดเซรามิกลายดอกไม้ แจกันสีขาว และเก้าอี้พนักพิงไม้ ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านสวนแสนอบอุ่น

สไตล์ลอฟท์

สไตล์ลอฟท์เน้นการโชว์โครงสร้างเดิม เช่น เสา โครงเหล็ก หรืออิฐที่ไม่ฉาบให้เรียบ สร้างบรรยากาศโล่งโปร่งสบาย โทนสีที่ใช้มักเป็นสีตุ่นๆ จากธรรมชาติ เช่น เทา ดำ หรืออิฐแดง เฟอร์นิเจอร์มักเรียบง่ายและสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย สไตล์นี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์

สไตล์โบฮีเมียน

สไตล์โบฮีเมียนเน้นการตกแต่งที่มีสีสันและลวดลายสดใส นำเอกลักษณ์จากวัฒนธรรมพื้นเมืองมาประยุกต์ใช้ ผสมผสานกับความเป็นธรรมชาติ เฟอร์นิเจอร์มักเป็นวัสดุไม้ ตกแต่งด้วยผ้าทอมือลวดลายสดใส หมอนอิงหลากสี หรือพรมที่มีลวดลายโดดเด่น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความมีสีสันและเป็นตัวของตัวเอง

เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ใดบ้างที่จำเป็นสำหรับมุมกาแฟในบ้าน?

การเลือกเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้มุมกาแฟของคุณทั้งสวยงามและใช้งานได้จริง สิ่งพื้นฐานที่ควรมีในมุมกาแฟประกอบด้วย:

  1. โต๊ะกาแฟ – เลือกขนาดให้เหมาะกับพื้นที่ อาจเป็นโต๊ะกลม โต๊ะสี่เหลี่ยม หรือโต๊ะที่มีดีไซน์พิเศษตามสไตล์ที่ชื่นชอบ
  2. เก้าอี้หรือโซฟา – ควรเลือกแบบที่นั่งสบาย เพราะจะใช้เวลานั่งนาน อาจเป็นเก้าอี้ไม้ที่มีเบาะนุ่ม เก้าอี้หวาย หรือโซฟาขนาดเล็ก
  3. ชั้นวางอุปกรณ์ – ใช้สำหรับวางเครื่องชงกาแฟ แก้ว และอุปกรณ์ต่างๆ อาจเป็นชั้นวางแบบเปิดโล่งหรือตู้ที่มีชั้นวางภายใน
  4. เครื่องชงกาแฟ – เลือกตามความชอบ อาจเป็นเครื่องชงกาแฟสดแบบง่ายๆ เช่น เฟรนช์เพรส หรือเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติที่ทันสมัย
  5. ชุดแก้วกาแฟ – ควรมีแก้วหลากหลายประเภทสำหรับเครื่องดื่มต่างๆ เช่น แก้วเอสเพรสโซ แก้วคาปูชิโน หรือแก้วลาเต้
  6. อุปกรณ์ตกแต่ง – เช่น โคมไฟ หมอนอิง ผ้าปูโต๊ะ รูปภาพ หรือของตกแต่งที่สะท้อนบุคลิกของเจ้าของบ้าน

นอกจากนี้ อาจเพิ่มเติมด้วยอุปกรณ์อื่นๆ ตามความต้องการ เช่น เครื่องบดเมล็ดกาแฟ กาต้มน้ำร้อน หรือเครื่องทำฟองนม เพื่อให้การชงกาแฟที่บ้านเป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ

ปรับแต่งมุมกาแฟให้เข้ากับพื้นที่จำกัดได้อย่างไร?

สำหรับบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด การจัดมุมกาแฟอาจเป็นความท้าทาย แต่ก็สามารถทำได้อย่างสวยงามและใช้งานได้จริง โดยใช้หลักการดังนี้:

  1. เลือกเฟอร์นิเจอร์ขนาดเหมาะสม – ใช้โต๊ะกาแฟขนาดเล็กที่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับแก้วกาแฟและจานขนมเท่านั้น เก้าอี้ควรเลือกแบบที่สามารถเลื่อนเก็บใต้โต๊ะได้เมื่อไม่ใช้งาน
  2. ใช้พื้นที่ในแนวตั้ง – ติดชั้นลอยบนผนังสำหรับวางอุปกรณ์ชงกาแฟและของตกแต่ง เพื่อประหยัดพื้นที่พื้น
  3. เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ – เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีหลายฟังก์ชัน เช่น โต๊ะที่มีชั้นเก็บของด้านล่าง หรือเก้าอี้ที่มีช่องเก็บของใต้ที่นั่ง
  4. จัดในมุมที่มีอยู่แล้ว – อาจใช้มุมระเบียง มุมห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ช่องว่างใต้บันไดให้เป็นมุมกาแฟ โดยไม่ต้องแยกเป็นพื้นที่ใหม่
  5. เลือกสีที่ช่วยให้พื้นที่ดูกว้าง – ใช้โทนสีอ่อนๆ หรือสีสว่างที่ช่วยทำให้พื้นที่ดูกว้างขวางมากขึ้น หลีกเลี่ยงสีเข้มที่อาจทำให้พื้นที่ดูคับแคบ

หากต้องการประหยัดพื้นที่มากที่สุด อาจจัดเป็นเคาน์เตอร์กาแฟขนาดเล็กติดผนัง มีเก้าอี้บาร์เพียง 1-2 ตัว หรือในกรณีที่มีพื้นที่จำกัดจริงๆ อาจจัดเป็นถาดกาแฟเคลื่อนที่ ที่สามารถยกไปไว้ที่ระเบียงหรือมุมต่างๆ ของบ้านได้ตามต้องการ

การสร้างบรรยากาศด้วยแสงไฟและเสียงสำหรับมุมกาแฟที่สมบูรณ์แบบ?

แสงไฟและเสียงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมบรรยากาศให้มุมกาแฟของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น สำหรับแสงไฟ ควรเลือกแสงที่นุ่มนวล อบอุ่น ไม่จ้าเกินไป เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะที่ให้แสงสีเหลืองนวล ไฟสายที่ห้อยเป็นระย้า หรือไฟเส้นแอลอีดีที่ซ่อนไว้ใต้ชั้นวาง

สำหรับช่วงเวลากลางวัน ควรใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติให้มากที่สุด เพราะจะช่วยให้มุมกาแฟดูสดใสและมีชีวิตชีวา หากเป็นมุมกาแฟนอกบ้าน อาจติดตั้งไฟระย้าแบบกันน้ำพันรอบต้นไม้หรือเสาเพื่อสร้างบรรยากาศยามค่ำคืน

ในส่วนของเสียง การเปิดเพลงเบาๆ จะช่วยเสริมบรรยากาศการดื่มกาแฟให้ผ่อนคลายยิ่งขึ้น อาจเลือกเพลงแจ๊ส เพลงคลาสสิก หรือเพลงอะคูสติกที่ไม่มีเนื้อร้อง หรือหากมีมุมกาแฟในสวนอาจเพิ่มน้ำพุขนาดเล็กเพื่อให้เสียงน้ำไหลสร้างความรู้สึกสงบและใกล้ชิดธรรมชาติ

นอกจากนี้ กลิ่นหอมก็มีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี เช่น กลิ่นจากเทียนหอม น้ำหอมปรับอากาศกลิ่นวานิลลาหรือกลิ่นผลไม้ หรือแม้แต่กลิ่นจากดอกไม้สดที่จัดวางบนโต๊ะกาแฟ จะช่วยให้มุมกาแฟของคุณมีบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบเหมือนคาเฟ่ดังๆ ที่มีการออกแบบมาอย่างดี

เติมความสดชื่นให้มุมกาแฟด้วยต้นไม้และธรรมชาติอย่างไร?

การนำต้นไม้และองค์ประกอบจากธรรมชาติมาใช้ในมุมกาแฟช่วยสร้างบรรยากาศที่สดชื่นและผ่อนคลาย ต้นไม้ยังช่วยฟอกอากาศและเพิ่มออกซิเจนให้กับพื้นที่อีกด้วย มีวิธีการเติมความสดชื่นด้วยธรรมชาติดังนี้:

  1. เลือกต้นไม้ที่เหมาะกับสภาพแสง – หากมุมกาแฟได้รับแสงน้อย ควรเลือกต้นไม้ที่ทนร่มได้ดี เช่น พลูด่าง ลิ้นมังกร หรือเฟิร์นชนิดต่างๆ หากได้รับแสงมาก อาจเลือกแคคตัส ซุคคูเลนท์ หรือต้นไม้ที่ชอบแสง
  2. จัดวางหลากหลายระดับ – ใช้ต้นไม้หลายขนาด ตั้งแต่ต้นไม้ใหญ่ที่วางบนพื้น ต้นไม้ขนาดกลางบนโต๊ะ ไปจนถึงต้นไม้เล็กๆ บนชั้นวาง เพื่อสร้างความน่าสนใจ
  3. ใช้กระถางที่มีดีไซน์ – เลือกกระถางที่มีรูปทรงและวัสดุที่เข้ากับสไตล์การตกแต่ง เช่น กระถางเซรามิก กระถางไม้ หรือกระถางคอนกรีต
  4. เพิ่มความหลากหลายด้วยพืชแขวน – ใช้ต้นไม้แขวนเพื่อเพิ่มมิติความสูงและประหยัดพื้นที่พื้น เช่น ต้นไอวี่ เดหลี หรือพลูด่าง
  5. ผสมผสานดอกไม้สด – วางแจกันดอกไม้สดบนโต๊ะกาแฟเพื่อเพิ่มสีสันและกลิ่นหอม เปลี่ยนดอกไม้ตามฤดูกาลเพื่อให้มุมกาแฟดูสดใหม่อยู่เสมอ
  6. ใช้วัสดุธรรมชาติอื่นๆ – เพิ่มองค์ประกอบจากธรรมชาติอื่นๆ เช่น หินก้อนสวย เปลือกไม้ หรือกิ่งไม้แห้งที่มีรูปทรงสวยงาม เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับมุมกาแฟ

การเพิ่มต้นไม้ในมุมกาแฟไม่เพียงช่วยเรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยเรื่องสุขภาพจิตใจ เพราะการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติช่วยลดความเครียดและเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

การสร้างมุมกาแฟในบ้านไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีแนวคิดและการวางแผนที่ดี ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อย ก็สามารถสร้างมุมพิเศษสำหรับดื่มกาแฟและพักผ่อนได้ โดยคำนึงถึงสไตล์ที่ชื่นชอบ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม การตกแต่งด้วยธรรมชาติ และการเลือกอุปกรณ์ชงกาแฟที่ตอบโจทย์การใช้งาน

มุมกาแฟในบ้านไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายจากการไปนั่งร้านกาแฟข้างนอก แต่ยังเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่คุณสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ และใช้เป็นพื้นที่พักผ่อน ทำงาน หรือสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัวได้อย่างอิสระ การมีมุมกาแฟในบ้านจึงเป็นการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสร้างความสุขในทุกๆ วัน


#สาระ #มุมกาแฟในบ้าน #ตกแต่งบ้าน #ไอเดียแต่งบ้าน #มุมพักผ่อน #โฮมคาเฟ่ #สไตล์มินิมอล #สไตล์โคซี่ #อุปกรณ์ชงกาแฟ #ไลฟ์สไตล์ #ธรรมชาติในบ้าน

อ่านเพิ่ม

หมายเหตุ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปสำหรับเว็บไซต์ Homeday โดย บริษัท โฮมเดย์ กรุ๊ป จำกัด เท่านั้น บริษัทไม่สามารถให้คำมั่นหรือคำรับประกันเกี่ยวกับเนื้อหา รวมถึงไม่สามารถรับรองความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์เฉพาะใดๆ ตามขอบเขตของกฎหมาย เราจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ปรากฏในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วนสมบูรณ์ ณ เวลาที่จัดทำ ข้อมูลดังกล่าวไม่ควรนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินใจด้านการเงิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือประเด็นกฎหมายโดยทันที ผู้อ่านไม่ควรอาศัยข้อมูลในบทความนี้แทนคำแนะนำจากผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและสภาวะเฉพาะของท่านได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากท่านเลือกที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจของท่าน

The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
พรีเมียม แอสเซท แมเนจเมนท์ ยกระดับมาตรฐานการบริหารอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรสานต่อประสบการณ์กว่า 63 ปีของ “ปรีดา กรุ๊ป” สู่การบริหารจัดการคุณภาพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
ข่าวสาร
TOA ยืนหนึ่งผู้นำนวัตกรรมสี – แผ่นยิปซัม คว้า ‘ฉลากเขียว’ ตอกย้ำองค์กรสีเขียวเดินหน้าสู่ความยั่งยืน
ข่าวสาร
Uniqlo ร่วมมือ Chongdee: กลยุทธ์ Global x Local โดยเซ็นทรัลพัฒนา ที่เชื่อมแบรนด์ชาไทยกับ LifeWear ญี่ปุ่น สู่คอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟแห่งปีk
ข่าวสาร
แอสคอทท์ ประเทศไทย กวาด 3 รางวัลใหญ่จากเวที World Travel Awards 2025
ข่าวสาร
BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ กรุงเทพกรีฑา (The Signature Krungthepkreetha) เปิดตัวบ้านรุ่นใหม่ New Kaiteki Series เพดานสูง 3.2 เมตร ทำเลบ้านหรูใกล้โรงเรียนนานาชาติ Brighton College และ Wellington College
Review
รีวิว ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว (Life Phahon-Ladprao) คอนโดใหม่ แต่งครบ พร้อมอยู่ ยูนิตน้อย ทำเล North CBD ห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้าม The Central พหลโยธิน
Review
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
Loading..