The Palm (copy)

จะปรับโฉมห้องนั่งเล่นอย่างไรให้ทั้งสวยและน่าอยู่? เคล็ดลับการตกแต่งห้องนั่งเล่นที่คุณห้ามพลาด

ห้องนั่งเล่นถือเป็นหัวใจสำคัญของบ้านที่เราใช้เวลาอยู่มากที่สุด ทั้งพักผ่อน รับแขก หรือทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว การปรับโฉมห้องนั่งเล่นให้สวยงามและน่าอยู่จึงเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ แต่หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไร ควรเลือกสไตล์ไหน หรือมีวิธีการตกแต่งอย่างไรให้ห้องนั่งเล่นมีเสน่ห์และสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่เข้ามาใช้งาน บทความนี้จะพาคุณไปค้นพบเคล็ดลับการตกแต่งห้องนั่งเล่นที่จะช่วยเปลี่ยนพื้นที่ธรรมดาให้กลายเป็นห้องนั่งเล่นในฝันที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริง

การเลือกสไตล์การตกแต่งห้องนั่งเล่นที่ใช่สำหรับคุณ

การเริ่มต้นปรับโฉมห้องนั่งเล่น สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือการเลือกสไตล์การตกแต่งที่สะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของคุณ การเลือกสไตล์ที่ใช่จะช่วยให้ห้องนั่งเล่นมีเอกลักษณ์และสร้างบรรยากาศที่ต้องการได้อย่างลงตัว

สไตล์โมเดิร์น: ความเรียบง่ายที่ทันสมัย

สไตล์โมเดิร์นโดดเด่นด้วยความเรียบง่าย ใช้เส้นสายที่ชัดเจน เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เรียบแต่มีเอกลักษณ์ โทนสีที่นิยมใช้มักเป็นโทนสีขาว เทา และดำ เพื่อสร้างบรรยากาศที่โปร่งสบายแต่ดูทันสมัย

ตัวอย่างการตกแต่งห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์นที่น่าสนใจ:

  • ใช้พรมขนาดใหญ่ที่มีขนาดเหมาะสม โดยอย่างน้อยขาหน้าของเฟอร์นิเจอร์ควรวางอยู่บนพรม
  • จัดให้มีที่นั่งเพียงพอ ไม่เพียงแค่โซฟาหรือเก้าอี้ แต่อาจเพิ่มเก้าอี้ 1-2 ตัวเพื่อสร้างพื้นที่สำหรับการสนทนา
  • ใช้ผ้าม่านขนาดใหญ่จากเพดานจรดพื้นเพื่อเพิ่มความสูงและความโอ่อ่าให้กับห้อง

สไตล์มินิมอล: น้อยแต่มาก

สไตล์มินิมอลยึดหลัก “น้อยแต่มาก” ใช้เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น เน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก สีที่นิยมใช้มักเป็นโทนสีอ่อน ไม่ฉูดฉาด สร้างความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย

เทคนิคในการตกแต่งห้องนั่งเล่นสไตล์มินิมอล:

  • คุมโทนสีของห้องให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เช่น โทนสีเทา สีเบจ หรือสีพาสเทล
  • ใช้ชั้นวางของแบบเปิดโล่งเพื่อจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบและเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่ง
  • เพิ่มความอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือวัสดุธรรมชาติ เพื่อให้ห้องไม่ดูแข็งหรือเย็นชาจนเกินไป

สไตล์ลักซ์ชัวรี: หรูหราน่าประทับใจ

สไตล์ลักซ์ชัวรีเน้นความหรูหรา โอ่อ่า ด้วยการเลือกใช้วัสดุชั้นดี พื้นผิวที่มีมิติ และลวดลายที่มีเอกลักษณ์ วัสดุยอดนิยมสำหรับสไตล์นี้คือหินอ่อน ผ้ากำมะหยี่ และโลหะสีทอง

เทคนิคในการตกแต่งห้องนั่งเล่นสไตล์ลักซ์ชัวรี:

  • ตกแต่งผนังด้วยคิ้วบัวที่มีดีไซน์หรูหรา อาจเสริมด้วยโลหะสีทองเพื่อเพิ่มความหรูหรา
  • ใช้โคมไฟระย้า (Chandelier) เป็นจุดเด่นของห้องที่ดึงดูดสายตา
  • เลือกใช้พรมขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพดี เช่น พรมขนสั้นหรือขนยาวสีขาว เพื่อเพิ่มความนุ่มนวลและความหรูหรา

การเลือกใช้วัสดุหรูอย่างหินอ่อนได้รับความนิยมมากในห้องนั่งเล่นสไตล์ลักซ์ชัวรี ด้วยลวดลายเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำแบบใคร หินอ่อนสามารถนำมาใช้ได้ทั้งพื้น ผนัง เตาผิง หรือโต๊ะกลาง นอกจากนี้ยังมีหินอื่นๆ อย่างทราเวอร์ทีนและออนิกซ์ที่สามารถสร้างจุดเด่นให้กับห้องได้เช่นกัน

สไตล์ลอฟท์: ดิบเท่มีเสน่ห์

สไตล์ลอฟท์เน้นความดิบ การโชว์โครงสร้างและวัสดุธรรมชาติ เช่น ผนังปูนเปลือย อิฐบล็อก และเฟอร์นิเจอร์โครงเหล็ก สร้างบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์และน่าค้นหา

เทคนิคในการตกแต่งห้องนั่งเล่นสไตล์ลอฟท์:

  • ใช้ผนังปูนเปลือยหรืออิฐบล็อกเพื่อสร้างความดิบ เท่ และเป็นเอกลักษณ์ให้กับห้อง
  • เลือกเฟอร์นิเจอร์โครงเหล็กสีดำด้านที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงและทันสมัย
  • ติดตั้งหน้าต่างขนาดใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติและทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น

การตกแต่งห้องนั่งเล่นสไตล์ลอฟท์ไม่จำเป็นต้องใช้โทนสีเทาหรือดำเสมอไป คุณสามารถเพิ่มสีสันด้วยโซฟาสีฟ้าเอิร์ธโทน หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

สไตล์วินเทจ: ย้อนยุคอย่างมีเสน่ห์

สไตล์วินเทจเน้นความคลาสสิก ย้อนยุค ด้วยการใช้สีและเฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นอายของอดีต สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและมีเรื่องราว

เทคนิคในการตกแต่งห้องนั่งเล่นสไตล์วินเทจ:

  • ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีลวดลายคลาสสิกหรือมีประวัติความเป็นมา เช่น เฟอร์นิเจอร์หวายหรืองานไม้แกะสลัก
  • ตกแต่งผนังด้วยกรอบรูปสไตล์วินเทจ เช่น กรอบรูปแผ่นเสียงไวนิล หรือภาพถ่ายขาวดำใส่กรอบไม้เก่า
  • เลือกใช้สีที่สื่อถึงยุคสมัยที่ต้องการ เช่น สีเอิร์ธโทนสำหรับความคลาสสิก หรือสีสันสดใสแบบยุค 80s

การจัดแสงสว่างที่ลงตัวเพื่อสร้างบรรยากาศในห้องนั่งเล่น

แสงสว่างเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์ให้กับห้องนั่งเล่น การจัดแสงที่ดีจะช่วยให้ห้องดูสว่าง มีมิติ และน่าอยู่มากขึ้น

การใช้แสงธรรมชาติให้เต็มประสิทธิภาพ

แสงธรรมชาติเป็นแสงที่ดีที่สุดสำหรับห้องนั่งเล่น ช่วยให้ห้องดูสว่าง โปร่ง และมีชีวิตชีวา การออกแบบให้ห้องได้รับแสงธรรมชาติมากที่สุดจะช่วยประหยัดพลังงานและส่งผลดีต่อสุขภาพ

เทคนิคในการใช้แสงธรรมชาติ:

  • ติดตั้งหน้าต่างขนาดใหญ่หรือหน้าต่างบานสูงเพื่อรับแสงธรรมชาติให้มากที่สุด
  • ใช้ผ้าม่านโปร่งแสงเพื่อกรองแสงให้นุ่มนวลและป้องกันความร้อน
  • ติดตั้งกระจกเพื่อช่วยสะท้อนแสงและทำให้ห้องดูกว้างขึ้น

การวางแผนแสงประดิษฐ์อย่างเป็นระบบ

แสงประดิษฐ์ช่วยเติมเต็มในส่วนที่แสงธรรมชาติเข้าไม่ถึง และสร้างบรรยากาศที่แตกต่างกันตามความต้องการในแต่ละช่วงเวลา

ประเภทของแสงที่ควรมีในห้องนั่งเล่น:

  • แสงหลัก: ให้ความสว่างทั่วทั้งห้อง เช่น โคมไฟเพดาน หรือไฟดาวน์ไลท์
  • แสงเฉพาะจุด: สำหรับกิจกรรมเฉพาะ เช่น โคมไฟอ่านหนังสือ ไฟตั้งโต๊ะ
  • แสงตกแต่ง: เน้นจุดเด่นหรือสร้างบรรยากาศ เช่น ไฟส่องภาพ ไฟติดผนัง

เทคนิคเพิ่มเติมในการจัดแสง:

  • ติดตั้งสวิตช์หรี่ไฟเพื่อปรับระดับแสงตามความต้องการและสร้างบรรยากาศที่แตกต่างกัน
  • เลือกโทนแสงให้เหมาะสม โดยแสงสีขาวนวล (Warm White) จะให้บรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย
  • ใช้ไฟอัจฉริยะ (Smart Lighting) ที่สามารถปรับสีและความสว่างได้ง่ายผ่านสมาร์ทโฟน

เฟอร์นิเจอร์ประหยัดพื้นที่ ตอบโจทย์การใช้งานในพื้นที่จำกัด

สำหรับห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่จำกัด การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ประหยัดพื้นที่และมีฟังก์ชันหลากหลายจะช่วยให้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า โดยไม่ลดทอนความสวยงามและความสะดวกสบาย

เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ที่ควรมี

เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์หรือมัลติฟังก์ชันช่วยประหยัดพื้นที่และตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย:

  • โซฟาเบด: ใช้เป็นที่นั่งในตอนกลางวันและเปลี่ยนเป็นเตียงนอนในตอนกลางคืน เหมาะสำหรับห้องที่ต้องรองรับแขกพักค้างคืน
  • โต๊ะกลางแบบมีที่เก็บของ: เพิ่มพื้นที่จัดเก็บสำหรับของใช้จำเป็น หนังสือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • เก้าอี้หรือโอตโตมานแบบเก็บของได้: ใช้เป็นที่นั่งเสริมหรือวางเท้า พร้อมกับเป็นที่เก็บผ้าห่ม หมอน

ชั้นวางของติดผนังเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย

ชั้นวางของติดผนังช่วยประหยัดพื้นที่พื้นและเพิ่มพื้นที่จัดเก็บในแนวตั้ง:

  • ชั้นลอย: ติดผนังโดยไม่มีขา ใช้วางของตกแต่ง หนังสือ หรือต้นไม้ขนาดเล็ก
  • ตู้ติดผนัง: สำหรับเก็บของที่ไม่ต้องการโชว์ ทำให้ห้องดูเป็นระเบียบและโปร่งมากขึ้น

เทคนิคเพิ่มเติมเพื่อประหยัดพื้นที่:

  • เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขา ช่วยให้มองเห็นพื้นใต้เฟอร์นิเจอร์และทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น
  • ใช้กระจกหรือวัสดุโปร่งใสเพื่อลดความรู้สึกอึดอัด ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น
  • จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้มีทางเดินสะดวก ไม่กีดขวางการสัญจร

ต้นไม้ฟอกอากาศ เพิ่มความสดชื่นและสุขภาพดีให้ห้องนั่งเล่น

ต้นไม้นอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับห้องนั่งเล่นแล้ว ยังช่วยฟอกอากาศ เพิ่มออกซิเจน และสร้างบรรยากาศที่สดชื่นเป็นธรรมชาติ

ต้นไม้ฟอกอากาศที่เหมาะกับห้องนั่งเล่น

ต้นไม้ฟอกอากาศหลายชนิดเหมาะสำหรับปลูกในห้องนั่งเล่น:

  • เศรษฐีเรือนใน (Spider Plant): ดูแลง่าย ทนทาน ดูดสารพิษได้ดี ปลอดภัยต่อเด็กและสัตว์เลี้ยง
  • ต้นเดหลี (Peace Lily): มีดอกสีขาวสวยงาม ดูดซับสารพิษได้ดี แต่ควรระวังเพราะอาจเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง
  • ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera): ดูดสารพิษจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและสารเคมีในอากาศได้ดี พร้อมทั้งมีประโยชน์ทางการแพทย์

การศึกษาพบว่าต้นไม้ฟอกอากาศสามารถกำจัดสารพิษที่มาจากเฟอร์นิเจอร์ พรม และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้ในบ้านได้ ช่วยทำให้คุณภาพอากาศภายในบ้านดีขึ้น ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

การจัดวางต้นไม้ให้เหมาะสมกับพื้นที่

การจัดวางต้นไม้อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟอกอากาศและความสวยงาม:

  • วางต้นไม้ที่ต้องการแสงมากใกล้หน้าต่าง เพื่อให้ได้รับแสงธรรมชาติเพียงพอ
  • ใช้ต้นไม้ขนาดใหญ่ตามมุมห้องเพื่อสร้างจุดเด่นและความสมดุล
  • วางต้นไม้เล็กๆ บนโต๊ะ ชั้นวางของ หรือใช้ต้นไม้แขวนเพื่อประหยัดพื้นที่

การสร้างกลิ่นหอมให้ห้องนั่งเล่นน่าอยู่มากขึ้น

กลิ่นหอมมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึก การเลือกใช้กลิ่นหอมที่เหมาะสมจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่าอยู่ให้กับห้องนั่งเล่น

เทียนหอมและประโยชน์ที่ไม่คาดคิด

เทียนหอมไม่เพียงให้กลิ่นหอม แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นด้วยแสงนวลตา:

  • ลดความเครียด: เทียนหอมกลิ่นซิตรัส เช่น ส้มหรือมะนาว ช่วยลดความวิตกกังวลและสร้างความสดชื่น
  • กระตุ้นการทำงานของสมอง: กลิ่นอบเชย อัลมอนด์ และเปปเปอร์มินต์ช่วยกระตุ้นสมาธิและความจำ
  • สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย: กลิ่นลาเวนเดอร์หรือวานิลาช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและหลับสบาย

น้ำมันหอมระเหยเพื่อสุขภาพและจิตใจที่ดี

น้ำมันหอมระเหยให้กลิ่นหอมที่เป็นธรรมชาติและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ:

  • น้ำมันตะไคร้หอม: มีสรรพคุณฆ่าเชื้อและต้านแบคทีเรีย ให้ความสดชื่น
  • น้ำมันยูคาลิปตัส: ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและหวัด ให้ความรู้สึกโล่งโปร่ง
  • น้ำมันลาเวนเดอร์: ช่วยผ่อนคลายและสงบ ลดความเครียดและช่วยให้นอนหลับสบาย

วิธีการใช้น้ำมันหอมระเหยในห้องนั่งเล่นมีหลายรูปแบบ เช่น ใช้เครื่องพ่นไอน้ำ ก้านไม้หอม หรือสเปรย์ปรับอากาศ โดยควรเลือกกลิ่นให้เหมาะกับฤดูกาลและกิจกรรม เช่น กลิ่นซิตรัสสดชื่นในฤดูร้อน หรือกลิ่นอบเชยอบอุ่นในฤดูหนาว

เคล็ดลับการรักษาความสะอาดห้องนั่งเล่นให้น่าอยู่เสมอ

การรักษาความสะอาดห้องนั่งเล่นอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ห้องดูสวยงาม น่าอยู่ และยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่ง

ตารางทำความสะอาดที่ช่วยให้ห้องนั่งเล่นสะอาดตลอดเวลา

การแบ่งการทำความสะอาดเป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือนจะช่วยให้การดูแลรักษาห้องนั่งเล่นเป็นเรื่องง่าย:

การทำความสะอาดประจำวัน:

  • จัดเก็บของใช้ให้เป็นระเบียบ เช่น หนังสือ รีโมท
  • จัดหมอนอิงและผ้าคลุมโซฟาให้เรียบร้อย
  • ทิ้งขยะและสิ่งที่ไม่ใช้แล้ว

การทำความสะอาดประจำสัปดาห์:

  • ดูดฝุ่นพรมและพื้น รวมถึงใต้เฟอร์นิเจอร์
  • เช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • ทำความสะอาดกระจกและหน้าต่าง

การทำความสะอาดประจำเดือน:

  • กำจัดใยแมงมุมตามมุมห้องและเพดาน
  • ทำความสะอาดพัดลมเพดานหรือเครื่องปรับอากาศ
  • ซักผ้าม่าน ปลอกหมอนอิง หรือผ้าคลุมโซฟาที่ถอดซักได้

การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ทำให้ห้องนั่งเล่นสวยงาม แต่ยังช่วยลดการสะสมของสารก่อภูมิแพ้และฝุ่นละออง ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้หรือโรคระบบทางเดินหายใจ

สรุป

การปรับโฉมห้องนั่งเล่นให้สวยและน่าอยู่เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ไม่ยากหากมีการวางแผนที่ดี เริ่มต้นจากการเลือกสไตล์ที่เหมาะกับรสนิยมและไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์น มินิมอล ลักซ์ชัวรี ลอฟท์ หรือวินเทจ

การจัดแสงที่เหมาะสมทั้งแสงธรรมชาติและแสงประดิษฐ์จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับห้อง เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานและประหยัดพื้นที่ โดยเฉพาะในห้องที่มีขนาดจำกัด เพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้ฟอกอากาศที่ช่วยเพิ่มออกซิเจนและกำจัดสารพิษ

การสร้างกลิ่นหอมด้วยเทียนหอมหรือน้ำมันหอมระเหยจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่าอยู่มากขึ้น และอย่าลืมรักษาความสะอาดห้องนั่งเล่นอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ห้องน่าอยู่ตลอดเวลา

ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบเหล่านี้อย่างลงตัว คุณจะได้ห้องนั่งเล่นที่ไม่เพียงแต่สวยงามตามสไตล์ที่คุณชื่นชอบ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ให้ความสุข ความสบาย และความผ่อนคลายกับทุกคนในครอบครัวและผู้มาเยือน


#สาระ #การตกแต่งห้องนั่งเล่น #สไตล์การตกแต่ง #เฟอร์นิเจอร์ประหยัดพื้นที่ #ต้นไม้ฟอกอากาศ #การจัดแสงในห้องนั่งเล่น #เทียนหอม #ทิปส์แต่งบ้าน #ไอเดียตกแต่งบ้าน #ห้องนั่งเล่นสวยๆ #การทำความสะอาดบ้าน

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
Casio ฉลองครบรอบ 50 ปี เปิดตัว Ring Watch รุ่น CRW-001G-9DR ตัวเรือนสีทอง ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นสีเงินสุดฮิต
ข่าวสาร
สิงห์ เอสเตท รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรก ปี 2568 โตต่อเนื่อง ยืนยันศักยภาพความมั่นคงจากฐานรายได้ประจำ หนุนกำไรเติบโตตามคาด
ข่าวสาร
เอพี ไทยแลนด์ ย้ำบริษัทอสังหาอันดับ 1 ประกาศรายได้รวม 9 เดือน 33,368 ล้าน กำไรสุทธิสูงถึง 3,025 ล้าน
ข่าวสาร
เซ็นทรัลพัฒนา หนึ่งในผู้สนับสนุนหลัก “SEA GAMES 2025” และ “ASEAN PARA GAMES 2026” ร่วมรับส่งต่อคบเพลิงในพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์ทั่วประเทศ
ข่าวสาร
SCOPE ยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยพรีเมียมแบบที่แตกต่างอย่างแท้จริง ด้วย 4 ซิกเนเจอร์บริการอยู่อาศัยโดย ACQUA ที่ไม่มีที่ใดเคยมีมาก่อน พร้อมเปิดตัว MTCH พาร์ตเนอร์มัทฉะคุณภาพระดับสูงสำหรับลูกบ้านสโคป
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ กรุงเทพกรีฑา (The Signature Krungthepkreetha) เปิดตัวบ้านรุ่นใหม่ New Kaiteki Series เพดานสูง 3.2 เมตร ทำเลบ้านหรูใกล้โรงเรียนนานาชาติ Brighton College และ Wellington College
Review
รีวิว ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว (Life Phahon-Ladprao) คอนโดใหม่ แต่งครบ พร้อมอยู่ ยูนิตน้อย ทำเล North CBD ห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้าม The Central พหลโยธิน
Review
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
Loading..