KAVE playground

เสียงดังรบกวนเกินเวลา แจ้งใครได้บ้าง? พร้อมกฎหมายที่คุณควรรู้

เสียงดังยามวิกาลเป็นปัญหาที่พบบ่อยในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากงานก่อสร้าง เสียงจากเพื่อนบ้าน หรือเสียงดังจากกิจกรรมต่างๆ ซึ่งล้วนส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตของผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง การพักผ่อนที่เพียงพอถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนพึงได้รับ บทความนี้จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายด้านเสียงรบกวน ระดับเสียงที่เป็นมาตรฐาน ช่องทางการแจ้งเมื่อได้รับความเดือดร้อน และบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน เพื่อให้คุณสามารถรักษาสิทธิและอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุข

เสียงดังระดับไหนถือว่าผิดกฎหมาย? มาตรฐานที่ทุกคนควรรู้

กฎหมายไทยได้กำหนดมาตรฐานระดับเสียงที่ยอมรับได้ไว้อย่างชัดเจน เพื่อควบคุมไม่ให้มีการใช้เสียงที่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่น โดยแบ่งเป็นหลายมาตรฐานตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2540) ซึ่งกำหนดมาตรฐานระดับเสียงโดยทั่วไปไว้ดังนี้

ค่าระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ต้องไม่เกิน 70 เดซิเบล ซึ่งหมายถึงค่าเฉลี่ยของระดับเสียงตลอดทั้งวัน โดยระดับเสียงนี้เทียบเท่ากับเสียงจราจรหนาแน่นหรือเสียงเครื่องดูดฝุ่น นอกจากนี้ยังมีการกำหนดค่าระดับเสียงสูงสุดที่ยอมให้เกิดขึ้นได้ต้องไม่เกิน 115 เดซิเบลเอ ซึ่งเทียบเท่ากับเสียงเครื่องบินไอพ่น เสียงคอนเสิร์ต หรือเสียงระเบิดพลุ

สำหรับเสียงรบกวนยามวิกาลโดยเฉพาะในช่วงเวลา 22.00-06.00 น. กฎหมายกำหนดให้ค่าระดับเสียงรบกวนต้องไม่เกิน 10 เดซิเบลเอ ซึ่งหมายถึงความแตกต่างระหว่างระดับเสียงพื้นฐานตามธรรมชาติกับระดับเสียงที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงรบกวน

หากเสียงดังเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนด อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น ความเสียหายต่อประสาทหู ความเครียด ความกังวล อาการปวดหัว เวียนหัว และปัญหาการนอนหลับ

ปัญหาเสียงดังจากงานก่อสร้าง กฎหมายคุ้มครองคุณอย่างไร

เสียงดังจากงานก่อสร้างเป็นหนึ่งในปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงมากที่สุด โดยข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544 ได้กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการก่อสร้างไว้อย่างชัดเจน ดังนี้

ประการแรก ห้ามก่อสร้างที่ทำให้เสียงดังเกินกว่า 75 เดซิเบลเอ ที่ระยะห่าง 30 เมตร จากอาคารที่ก่อสร้าง ซึ่งหมายความว่าการก่อสร้างใดๆ ที่ทำให้เกิดเสียงดังเกินค่ามาตรฐานนี้ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะเสียงดังระดับนี้สามารถส่งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้

ประการที่สอง ห้ามก่อสร้างซึ่งก่อให้เกิดเสียงและแสงระหว่าง 22.00 น. ถึง 06.00 น. ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องจักร เสียงคนทำงาน เสียงการตอกเสา หรือแม้แต่แสงไฟที่ส่องเข้าไปในบ้านของผู้อื่นในเวลากลางคืน ซึ่งอาจทำให้เกิดความรำคาญและส่งผลต่อการพักผ่อนของผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้น

หากมีการก่อสร้างในช่วงเวลาดังกล่าว ถือว่าผิดกฎหมาย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งต้องมีการป้องกันเสียงรบกวนด้วยมาตรการพิเศษ เช่น การใช้เครื่องจักรที่ลดเสียงดัง หรือการติดตั้งแผงกั้นเสียง

เพื่อนบ้านส่งเสียงดังรบกวนยามวิกาล มีสิทธิแจ้งเมื่อไหร่

เมื่อเพื่อนบ้านส่งเสียงดังรบกวนยามวิกาล คุณสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อปกป้องความสงบในการพักผ่อนของตนเองได้ โดยหลักการสำคัญที่ควรพิจารณาคือระดับเสียงที่ก่อให้เกิดความรำคาญ ซึ่งตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ระบุว่าเสียงที่ดังเกิน 10 เดซิเบลเอ เมื่อเทียบกับระดับเสียงพื้นฐาน ถือว่าเป็นเสียงรบกวน

คุณมีสิทธิแจ้งเมื่อเสียงนั้นรบกวนการใช้ชีวิตปกติ เช่น ทำให้นอนไม่หลับ ไม่สามารถทำงานหรือพักผ่อนได้ตามปกติ โดยเฉพาะในช่วงเวลา 22.00-06.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กฎหมายคุ้มครองความสงบเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ หากเสียงดังนั้นก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ความเครียด อาการปวดหัว หรือผลกระทบทางจิตใจอื่นๆ คุณก็สามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ที่กำหนดให้เสียงดังเป็นเหตุรำคาญที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจจัดการได้

ในกรณีที่พบปัญหาเสียงดังรบกวนยามวิกาลซ้ำๆ แม้ว่าจะได้มีการแจ้งเตือนแล้ว อาจถือเป็นการรังแกหรือคุกคามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 397 ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

รู้ไว้ก่อนโดนปรับ! บทลงโทษสำหรับผู้ก่อเหตุเสียงดังรบกวน

ผู้ที่ส่งเสียงดังรบกวนอาจต้องเผชิญกับบทลงโทษทางกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งมีทั้งโทษทางอาญาและทางแพ่ง ดังนี้

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 370 กำหนดว่าผู้ที่ส่งเสียง ทำให้เกิดเสียง หรือกระทำความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท นอกจากนี้ ตามมาตรา 397 ผู้ที่กระทำการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ผู้อื่นได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และหากเป็นการกระทำในที่สาธารณะหรือต่อหน้าคนจำนวนมาก โทษจะเพิ่มเป็นจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในส่วนของกฎหมายแพ่ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 และ 421 กำหนดให้ผู้ที่กระทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย จิตใจ หรือทรัพย์สิน ต้องรับผิดชอบในการชดใช้ค่าเสียหาย รวมถึงเจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดเสียงรบกวนก็ต้องรับผิดชอบด้วย

นอกจากนี้ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 25 และ 26 ให้อำนาจเจ้าพนักงานท้องถิ่นในการสั่งห้ามหรือแก้ไขเหตุรำคาญต่างๆ โดยหากมีการละเมิดคำสั่ง จะมีโทษตามมาตรา 74 ซึ่งระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การสูบกัญชาในที่สาธารณะที่ก่อให้เกิดกลิ่นหรือควันก็ถือเป็นเหตุรำคาญตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 15 มิถุนายน 2565 เช่นกัน

6 ช่องทางแจ้งปัญหาเสียงดังรบกวน ที่ให้ผลจริง

เมื่อประสบปัญหาเสียงดังรบกวน มีหลายช่องทางที่คุณสามารถแจ้งเรื่องได้ ดังนี้

  1. แจ้งผู้ที่ทำเสียงดังโดยตรง – วิธีนี้เป็นขั้นตอนแรกที่ควรทำ ด้วยการพูดคุยอย่างสุภาพและตรงไปตรงมา ซึ่งอาจช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนบ้าน
  2. แจ้งนิติบุคคลหรือผู้ดูแลหมู่บ้าน/คอนโด – หากอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมหรือหมู่บ้านจัดสรร ให้แจ้งนิติบุคคลหรือผู้ดูแลอาคารเพื่อให้ช่วยดำเนินการจัดการเตือนเรื่องเสียงดัง
  3. แจ้งสำนักงานเขตหรือเทศบาลในพื้นที่ – สำหรับปัญหาเสียงดังจากการก่อสร้างหรือเสียงที่มีผลกระทบต่อชุมชน ควรแจ้งสำนักงานเขต (ในกรุงเทพฯ) หรือเทศบาล (นอกเขตกรุงเทพฯ) พร้อมหลักฐาน เช่น บันทึกเสียง วิดีโอ หรือภาพถ่าย
  4. แจ้งกรมควบคุมมลพิษทางเสียง – สำหรับเสียงดังที่มีผลกระทบในวงกว้าง สามารถแจ้งผ่านสายด่วนกรมควบคุมมลพิษที่เบอร์ 1650 หรือผ่านเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ
  5. แจ้งผ่านแอปพลิเคชันรับเรื่องร้องเรียน – ในปัจจุบันมีแอปพลิเคชันหลายตัวที่รับเรื่องร้องเรียนและส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เหมาะสำหรับปัญหาที่ไม่เร่งด่วน
  6. แจ้งตำรวจ – ในกรณีที่เสียงดังรบกวนเกิดขึ้นในยามวิกาลและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีอื่น สามารถโทรแจ้งตำรวจที่เบอร์ 191 หรือสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตักเตือนหรือดำเนินการตามกฎหมาย

การแจ้งปัญหาควรมีหลักฐานประกอบ เช่น บันทึกวันเวลาที่เกิดเหตุ บันทึกเสียง หรือวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงความดังของเสียงและผลกระทบที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่

ทำอย่างไรให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข โดยไม่มีปัญหาเรื่องเสียง

การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุขต้องอาศัยความเข้าใจและเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะเรื่องเสียงซึ่งเป็นมลพิษที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิต มีแนวทางปฏิบัติที่ช่วยลดปัญหาเสียงรบกวนได้ ดังนี้

สำหรับผู้อยู่อาศัย ควรตระหนักถึงระดับเสียงที่ตนเองก่อให้เกิด โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน ควรลดระดับเสียงของกิจกรรมต่างๆ เช่น การเปิดโทรทัศน์ การฟังเพลง หรือการสนทนา และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเสียงดังในยามวิกาล

สำหรับผู้ประกอบการหรือผู้ดำเนินการก่อสร้าง ควรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ติดตั้งอุปกรณ์ลดเสียง จัดตารางเวลาทำงานที่เหมาะสม และแจ้งให้ผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงทราบล่วงหน้าเมื่อจะมีกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดเสียงดัง

สำหรับนิติบุคคลหรือผู้ดูแลอาคาร ควรกำหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้เสียงในอาคารอย่างชัดเจน จัดให้มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนที่สะดวกและรวดเร็ว และมีมาตรการจัดการปัญหาอย่างเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ

การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์และเคารพซึ่งกันและกันเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขและป้องกันปัญหาเสียงรบกวน เมื่อทุกคนตระหนักถึงผลกระทบของเสียงและให้ความสำคัญกับสิทธิของผู้อื่น สังคมก็จะน่าอยู่และปราศจากความขัดแย้ง

การเรียนรู้และเข้าใจกฎหมายเกี่ยวกับเสียงรบกวน รวมถึงสิทธิและหน้าที่ของตนเอง จะช่วยให้คุณสามารถปกป้องสิทธิในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข

สรุป

เสียงดังรบกวนเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตอย่างมาก ประเทศไทยมีกฎหมายและมาตรการควบคุมระดับเสียงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นค่าระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชั่วโมงที่ไม่เกิน 70 เดซิเบล ค่าระดับเสียงสูงสุดที่ไม่เกิน 115 เดซิเบลเอ และค่าระดับเสียงรบกวนที่ไม่เกิน 10 เดซิเบลเอ

เมื่อประสบปัญหาเสียงดังรบกวน คุณสามารถแจ้งได้หลายช่องทาง ตั้งแต่การพูดคุยกับผู้ก่อเหตุโดยตรง การแจ้งนิติบุคคลหรือผู้ดูแลอาคาร การแจ้งหน่วยงานท้องถิ่น การแจ้งกรมควบคุมมลพิษ หรือในกรณีเร่งด่วนสามารถแจ้งตำรวจได้

ผู้ที่ก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนอาจต้องเผชิญกับบทลงโทษทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ตั้งแต่โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ไปจนถึงจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การอยู่ร่วมกันอย่างเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ตระหนักถึงผลกระทบของเสียงที่ตนเองก่อให้เกิด และเรียนรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้สังคมน่าอยู่และทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี


#สาระ  #มลพิษทางเสียง #เสียงรบกวน #กฎหมายเสียง #แจ้งเสียงดัง #เสียงดังยามวิกาล #สิทธิผู้บริโภค #คุณภาพชีวิต

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
“จระเข้ คอร์ปอเรชั่น” ลุยต่อสู่ Net Zero! กางวิสัยทัศน์ปี 68 ดันวงการก่อสร้างสีเขียว เต็มรูปแบบ ชี้ชัดความยั่งยืนไม่ใช่เทรนด์ เผยผู้บริโภคเลือก “คุณภาพ” ควบคู่ “ดูแลโลก”
ข่าวสาร
“นิปปอนเพนต์” ประเดิมงานสถาปนิก’68 จัดเต็มพาวิลเลียน “The Future City” สะท้อนตัวตน “Smart & Sustain” ผ่านงานดีไซน์จาก “พัดสี” สุดล้ำ พร้อมทัพสีนวัตกรรมเพื่ออนาคตยั่งยืน
ข่าวสาร
เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ “สถาปนิก’68” งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 37
ข่าวสาร
เซ็นทาราขยายแบรนด์เซ็นทารา ไลฟ์ สู่ราชบุรี ประกาศเปิดให้บริการ “เซ็นทารา ไลฟ์ วิสมา ราชบุรี”
ข่าวสาร
ซิตี้ เรียลตี้ และ สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จัดพิธีเปิดหน้าดินปฐมฤกษ์เริ่มก่อสร้าง โครงการที่อยู่อาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรีบนถนนวิทยุ
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
รีวิว ศุภาลัย วิลล์ ปิ่นเกล้า-ศาลายา บ้าน Design ใหม่ พื้นที่ใหญ่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทุก Lifestyle เป็นส่วนตัวเพียง 66 แปลง ส่วนกลางครบครัน บนทำเลที่โดดเด่น โซนปิ่นเกล้า-ศาลายา
Review
Loading..