KAVE playground

จะกู้เงินรีโนเวทบ้านอย่างไรให้ผ่านฉลุย? 5 ขั้นตอนสำคัญและเทคนิคที่ควรรู้

บ้านทุกหลังเมื่ออยู่อาศัยมาสักระยะหนึ่ง ย่อมมีจุดที่ทรุดโทรมและต้องการปรับปรุง เพื่อให้ตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป แต่เพราะการปรับปรุงบ้านนั้นจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย หลายครอบครัวจึงพิจารณาทางเลือกในการขอสินเชื่อตกแต่งบ้าน บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนการกู้เงินรีโนเวทบ้าน พร้อมเงื่อนไขสำคัญที่ควรรู้เพื่อให้การยื่นขอสินเชื่อผ่านได้อย่างราบรื่น

ทำไมการรีโนเวทบ้านจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการซื้อบ้านใหม่?

การรีโนเวทบ้านเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าการซื้อบ้านใหม่ในหลายด้าน โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างหลักของบ้านยังคงแข็งแรง แต่อาจมีจุดที่ทรุดโทรมต้องการปรับปรุง หรือต้องการเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานเพื่อให้เหมาะกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป การรีโนเวทบ้านช่วยประหยัดทั้งงบประมาณและเวลาเมื่อเทียบกับการซื้อบ้านใหม่

อย่างไรก็ตาม การรีโนเวทบ้านก็ยังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง จากตัวอย่างการรีโนเวทบ้านเก่าให้เป็นพื้นที่ส่วนตัว ยอดรวมค่าใช้จ่ายอาจอยู่ที่ประมาณ 70,000-80,000 บาท ซึ่งรวมค่าแรงปูกระเบื้อง ทาสี ติดตั้งฝ้าเพดาน ค่าวัสดุก่อสร้างต่างๆ และค่าอุปกรณ์ในห้องน้ำ ซึ่งเป็นเพียงการรีโนเวทขนาดเล็กเท่านั้น หากเป็นการรีโนเวทพื้นที่ขนาดใหญ่ ค่าใช้จ่ายจะยิ่งสูงขึ้นอีกมาก

สินเชื่อเพื่อการรีโนเวทบ้านมีกี่ประเภท? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง

การเลือกประเภทสินเชื่อให้เหมาะสมกับความต้องการเป็นขั้นตอนสำคัญในการกู้เงินรีโนเวทบ้าน เพราะสินเชื่อแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน ซึ่งสินเชื่อหลักๆ มีดังนี้

สินเชื่อแบบวงเงินกู้ระยะยาว

เป็นสินเชื่อที่ได้รับความนิยมสำหรับการรีโนเวทบ้าน มีระยะเวลาผ่อนชำระมากกว่า 5 ปี เหมาะสำหรับการลงทุนในสิ่งปลูกสร้างที่ต้องใช้งบประมาณสูง วงเงินกู้จะพิจารณาตามความเหมาะสม และใช้อสังหาริมทรัพย์เป็นหลักค้ำประกัน จุดเด่นคืออัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่น

สินเชื่อกู้ต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้าน

เป็นสินเชื่อเฉพาะสำหรับการต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้าน มีจุดเด่นคือดอกเบี้ยถูกแบบลดต้นลดดอก และได้วงเงินสูง สามารถผ่อนจ่ายได้สบาย แต่อาจมีเงื่อนไขว่าบ้านที่ยังมีภาระผ่อนอยู่อาจไม่สามารถยื่นกู้ประเภทนี้ได้ กรณีที่จำเป็นต้องกู้ คุณสามารถนำบ้านมาเป็นหลักค้ำประกันกับธนาคารได้ โดยควรยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารเดิมที่เคยมีประวัติการกู้ จะทำให้ขอสินเชื่อได้สะดวกขึ้น

รีไฟแนนซ์

การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นการยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคารแห่งใหม่ เพื่อลดภาระเรื่องดอกเบี้ย ขั้นตอนทำได้ง่ายๆ เพียงตรวจสอบสัญญาเงินกู้ว่าสามารถเริ่มทำได้ช่วงไหน โดยทั่วไปจะเริ่มรีไฟแนนซ์บ้านได้เมื่อผ่อนบ้านไปแล้ว 3 ปี และเลือกธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด ซึ่งจะช่วยลดดอกเบี้ยบ้าน ลดระยะเวลาในการผ่อนต่อเดือน และยังสามารถขอวงเงินกู้เพิ่มได้ด้วย

สำหรับอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน ในปี 2568 ธนาคารส่วนใหญ่มีดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปี อยู่ที่ประมาณ 3.48% โดยแบ่งเป็น ปีที่ 1 = 2.75% และ ปีที่ 2-3 = MRR-3.10% การรีไฟแนนซ์จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลดภาระดอกเบี้ย

สินเชื่อวงเงินกู้เกินบัญชี

เป็นสินเชื่อระยะสั้นที่ทำให้สามารถเบิกเงินมาใช้จ่ายได้แม้จะไม่มีเงินในบัญชี การคิดดอกเบี้ยจะอิงตามอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MLR หรือ MOR ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร โดยธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจากการเบิกเงินใช้จริงเท่านั้น ข้อดีคือมีความสะดวกและยืดหยุ่น ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน แต่ผู้กู้ควรมีประวัติการผ่อนชำระที่ดี

5 ขั้นตอนสำคัญในการขอสินเชื่อรีโนเวทบ้าน ที่ต้องเตรียมให้พร้อม

การกู้เงินรีโนเวทบ้านมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก แต่ต้องวางแผนและเตรียมตัวให้พร้อม ไม่เพียงแค่เรื่องเอกสารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวางแผนการเงิน การเลือกประเภทสินเชื่อ และการเลือกสถาบันการเงิน มาดูขั้นตอนสำคัญที่ควรเตรียมพร้อมกัน:

1. วางแผนและกำหนดงบประมาณ

ก่อนจะเริ่มกู้เงินรีโนเวทบ้าน ต้องกำหนดจุดประสงค์ให้ชัดเจนว่าต้องการรีโนเวทเพื่ออะไร เช่น ปรับปรุงเพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ ตกแต่งใหม่ตามสไตล์ที่ชอบ หรือต่อเติมเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน การกำหนดจุดประสงค์ที่ชัดเจนจะช่วยให้สามารถกำหนดรายละเอียดและค่าใช้จ่ายได้แม่นยำมากขึ้น

จากนั้นควรวางแผนงบประมาณโดยแจกแจงค่าใช้จ่ายในแต่ละด้าน เช่น ค่าออกแบบบ้าน ค่าปรับปรุงโครงสร้าง ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าเฟอร์นิเจอร์ และค่าตกแต่งภายใน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการประเมินงบประมาณที่ใกล้เคียงค่าใช้จ่ายจริง เพื่อป้องกันปัญหางบบานปลาย

2. เลือกประเภทการกู้ที่เหมาะสม

ตามที่กล่าวไปแล้วในหัวข้อก่อนหน้า การเลือกประเภทสินเชื่อให้เหมาะสมกับความต้องการเป็นขั้นตอนสำคัญ หากต้องการรีโนเวทใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณสูง สินเชื่อระยะยาวอาจเหมาะสมกว่า แต่หากเป็นการซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ อาจพิจารณาสินเชื่อระยะสั้นแทน ทั้งนี้ควรพิจารณาจากความสามารถในการผ่อนชำระและระยะเวลาที่ต้องการ

3. เลือกแหล่งสถาบันการเงินที่คุ้มค่า น่าเชื่อถือ

การเลือกสถาบันการเงินควรคำนึงถึงความน่าเชื่อถือและอัตราดอกเบี้ยที่เสนอให้ ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร รวมทั้งตรวจสอบเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ อย่างละเอียด เพราะแต่ละธนาคารมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดจะทำให้สามารถเลือกสินเชื่อได้อย่างคุ้มค่าและเหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด

4. เตรียมเอกสารให้พร้อมขอยื่นกู้

การยื่นขอสินเชื่อรีโนเวทบ้านจำเป็นต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมและครบถ้วน เพื่อให้ธนาคารพิจารณาและอนุมัติได้รวดเร็ว เอกสารพื้นฐานที่ต้องเตรียมประกอบด้วย:

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
  • สำเนาโฉนดที่ดิน
  • สัญญาว่าจ้างในการปลูกสร้าง/รีโนเวท
  • รายการเอกสารพัสดุที่ใช้ก่อสร้าง
  • ใบอนุญาตในการก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร (หากจำเป็นต้องใช้)
  • แผนผังแสดงรายละเอียดของการรีโนเวท

5. เคลียร์หนี้เก่าให้หมด

ก่อนยื่นขอสินเชื่อใหม่ ควรเคลียร์หนี้เก่าที่มีอยู่ให้หมดหรือให้เหลือน้อยที่สุด เพราะจะส่งผลต่อความสามารถในการผ่อนชำระและการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร การมีภาระหนี้น้อยจะทำให้มีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อสูงขึ้น และยังได้วงเงินกู้ที่มากขึ้นอีกด้วย

บ้านที่ยังผ่อนไม่หมดสามารถกู้รีโนเวทเพิ่มได้หรือไม่?

คำถามนี้เป็นข้อสงสัยของหลายคนที่มีบ้านอยู่ระหว่างผ่อนชำระ แต่ต้องการรีโนเวทบ้านเพิ่ม โดยหลักการแล้ว บ้านที่ยังมีภาระผ่อนและบ้านที่ผ่อนหมดแล้วมีเงื่อนไขการกู้ที่แตกต่างกัน:

บ้านที่ยังมีภาระผ่อน

สำหรับบ้านที่ยังผ่อนชำระกับธนาคารอยู่ ถ้าต้องการขอสินเชื่อตกแต่งบ้าน ธนาคารจะพิจารณาวงเงินให้ไม่เกินวงเงินประเมินที่จดจำนองไว้ในตอนแรก โดยอัตราดอกเบี้ยจากการกู้เงินรีโนเวทบ้านจะใกล้เคียงกับดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน หากจำเป็นต้องกู้รีโนเวทบ้านจริงๆ สามารถนำบ้านมาเป็นหลักค้ำประกันกับธนาคารได้ และควรเลือกยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารเดิมที่เคยมีประวัติการกู้ เพราะจะช่วยให้ขอสินเชื่อได้สะดวกขึ้น

บ้านที่ปลอดภาระผ่อน

บ้านที่ผ่อนหมดแล้ว หากต้องการกู้เงินรีโนเวท สามารถใช้ตัวบ้านยื่นเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้ทันที โดยธนาคารจะพิจารณาให้วงเงินแบบบ้านแลกเงิน ซึ่งอาจมีดอกเบี้ยค่อนข้างสูง แต่ขั้นตอนการยื่นขอจะสะดวกกว่า และไม่จำกัดรูปแบบการใช้เงิน นอกจากนี้ ธนาคารจะเป็นผู้ประเมินวงเงินกู้ให้เอง ซึ่งมักจะได้วงเงินที่สูงกว่าบ้านที่ยังมีภาระผ่อน

กฎหมายที่ควรรู้ก่อนเริ่มรีโนเวทบ้าน มีอะไรบ้าง?

การรีโนเวทบ้านไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงแค่การขอสินเชื่อเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ได้กำหนดว่าการรีโนเวทบางลักษณะจำเป็นต้องขออนุญาตก่อนดำเนินการ:

การรีโนเวทที่ไม่ต้องขออนุญาต

  • การซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้านที่ไม่ส่งผลต่อโครงสร้าง
  • การต่อเติมโครงสร้างโดยใช้วัสดุเดิมที่มีขนาด จำนวน และชนิดเดียวกัน
  • การรีโนเวทส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้างของบ้าน โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10% ของน้ำหนักอาคาร
  • การเปลี่ยนแปลงขนาด รูปทรง ส่วนประกอบอาคาร เช่น ประตู หน้าต่าง ฝ้าเพดาน ที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10%
  • การเพิ่มขนาดพื้นที่ของชั้นบ้านและการต่อเติมส่วนของหลังคาไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยไม่มีการเพิ่มหรือลดทอนเสาคาน

การรีโนเวทที่ต้องขออนุญาต

  • การเพิ่ม ลด ขยาย เปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือลักษณะของอาคารที่ไม่ใช่การซ่อมแซมทั่วไป
  • การเพิ่ม ลด เปลี่ยนเสา คาน บันได ผนัง หรือส่วนใดๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างบ้าน
  • การรีโนเวทส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้างแต่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเกิน 10% ของน้ำหนักอาคารเดิม

การฝ่าฝืนรีโนเวทบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจมีโทษทางกฎหมาย ทั้งจำคุกและปรับ เช่น จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น ก่อนเริ่มรีโนเวทควรตรวจสอบข้อกฎหมายให้ดี หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และหากเป็นบ้านในโครงการหมู่บ้านจัดสรร ควรปรึกษานิติบุคคลของโครงการก่อนทำการต่อเติมหรือรีโนเวท

เทคนิคบริหารงบประมาณรีโนเวทบ้านไม่ให้บานปลาย

การรีโนเวทบ้านมักมีปัญหาเรื่องงบประมาณบานปลายเสมอ เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้เกินที่วางแผนไว้ มีเทคนิคดังนี้:

วางแผนในการต่อเติมอย่างละเอียด

ควรแจกแจงและวางแผนว่าส่วนไหนหรือบริเวณไหนของบ้านที่ต้องปรับปรุงต่อเติม โดยเรียงลำดับความสำคัญ รวมถึงกำหนดงบประมาณสำหรับแต่ละส่วนอย่างชัดเจน การวางแผนที่ละเอียดจะช่วยให้สามารถจัดสรรพื้นที่และควบคุมงบประมาณได้ง่ายขึ้น

เลือกผู้รับเหมาที่น่าเชื่อถือ

ควรเลือกผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ โดยให้ช่างเข้ามาประเมินหน้างานว่าการรีโนเวทครั้งนี้ควรใช้งบประมาณเท่าไร ควรเปรียบเทียบราคาผู้รับเหมาแต่ละรายก่อนตัดสินใจ และที่สำคัญ ก่อนตกลงทำงาน ควรแจ้งรายละเอียดของงาน ระยะเวลาที่คาดว่าจะเสร็จ และค่าใช้จ่ายให้ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง

ขออนุญาตต่อเติมโครงสร้างบ้านให้ถูกต้อง

สำหรับโครงการหมู่บ้านจัดสรร มักมีกฎเกณฑ์ข้อห้ามในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เพื่อความปลอดภัยของบ้านที่ทางโครงการได้กำหนดไว้ ดังนั้น ก่อนรีโนเวท ควรปรึกษานิติบุคคลของโครงการเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง ซึ่งอาจทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการแก้ไข

ตัวอย่างค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทบ้านจริง เริ่มต้นเท่าไรถึงจำเป็นต้องกู้?

จากข้อมูลตัวอย่างการรีโนเวทบ้านเก่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวเล็กๆ มีค่าใช้จ่ายดังนี้:

  • ค่าแรงปูกระเบื้อง ทาสี และติดตั้งบัวกันเปื้อน PVC ลายไม้: 25,000 บาท (เฉพาะค่าแรง)
  • ค่างานฝ้า: 13,000 บาท (รวมวัสดุแล้ว)
  • ค่ากระเบื้องทั้งหมด (พื้น ห้องน้ำ ซิงค์): 10,411 บาท
  • ค่าสีทาบ้าน (ภายใน ห้องน้ำ ฝ้าเพดาน): 9,176 บาท
  • ค่าสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ (ชักโครก อ่างล้างหน้า): 9,421 บาท
  • ค่าวัสดุก่อสร้างอื่นๆ (หิน ปูน ทราย ปูนกาว): 5,618 บาท
  • อุปกรณ์เบ็ดเตล็ด: 230 บาท

รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 72,856 บาท สำหรับการรีโนเวทพื้นที่ขนาดเล็ก หากเป็นการรีโนเวทบ้านทั้งหลัง ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่านี้มาก อาจเป็นหลักแสนหรือหลักล้านบาท ซึ่งการกู้เงินรีโนเวทบ้านจะเริ่มมีความจำเป็นเมื่อค่าใช้จ่ายสูงกว่า 100,000 บาทขึ้นไป เพราะหากใช้เงินเก็บเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอและกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน

สรุป

การกู้เงินรีโนเวทบ้านเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงบ้านแต่มีงบประมาณจำกัด โดยมี 5 ขั้นตอนสำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อม ได้แก่ การวางแผนและกำหนดงบประมาณ การเลือกประเภทการกู้ที่เหมาะสม การเลือกสถาบันการเงินที่คุ้มค่า การเตรียมเอกสารให้พร้อม และการเคลียร์หนี้เก่าให้หมด

นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรีโนเวทบ้าน เพราะการรีโนเวทบางลักษณะต้องขออนุญาตก่อนดำเนินการ รวมถึงเทคนิคการบริหารงบประมาณไม่ให้บานปลาย เช่น การวางแผนอย่างละเอียด การเลือกผู้รับเหมาที่น่าเชื่อถือ และการขออนุญาตต่อเติมโครงสร้างบ้านให้ถูกต้อง

ท้ายที่สุด การกู้เงินรีโนเวทบ้านเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณวางแผนอย่างรอบคอบ เลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสม เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายธนาคาร และบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ การรีโนเวทบ้านจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับบ้านของคุณในระยะยาวและสร้างความสุขในการอยู่อาศัย


#สาระ #การเงิน #กู้เงินรีโนเวทบ้าน #สินเชื่อตกแต่งบ้าน #รีโนเวทบ้าน #รีไฟแนนซ์บ้าน #วางแผนรีโนเวทบ้าน #งบประมาณรีโนเวทบ้าน #กฎหมายรีโนเวทบ้าน #ค่าใช้จ่ายรีโนเวท #สินเชื่อบ้าน

อ่านเพิ่ม

หมายเหตุ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปสำหรับเว็บไซต์ Homeday โดย บริษัท โฮมเดย์ กรุ๊ป จำกัด เท่านั้น บริษัทไม่สามารถให้คำมั่นหรือคำรับประกันเกี่ยวกับเนื้อหา รวมถึงไม่สามารถรับรองความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์เฉพาะใดๆ ตามขอบเขตของกฎหมาย เราจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ปรากฏในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วนสมบูรณ์ ณ เวลาที่จัดทำ ข้อมูลดังกล่าวไม่ควรนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินใจด้านการเงิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือประเด็นกฎหมายโดยทันที ผู้อ่านไม่ควรอาศัยข้อมูลในบทความนี้แทนคำแนะนำจากผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและสภาวะเฉพาะของท่านได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากท่านเลือกที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจของท่าน

The Palm (copy)
Sidebar
รีวิวโครงการ
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
รีวิว ศุภาลัย วิลล์ ปิ่นเกล้า-ศาลายา บ้าน Design ใหม่ พื้นที่ใหญ่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทุก Lifestyle เป็นส่วนตัวเพียง 66 แปลง ส่วนกลางครบครัน บนทำเลที่โดดเด่น โซนปิ่นเกล้า-ศาลายา
Review
Loading..