The Palm (copy)

การโอนบ้านต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และใครเป็นคนจ่าย?

การซื้อบ้านไม่ได้จบเพียงแค่การจ่ายเงินค่าบ้านเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายสำคัญที่เกิดขึ้นในวันโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินอีกด้วย หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าค่าโอนบ้านนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง และใครเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนใด บทความนี้จะพาทุกคนเจาะลึกเรื่องค่าธรรมเนียมโอนบ้าน วิธีคำนวณแบบง่ายๆ พร้อมเผยเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้คุณวางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน

ค่าโอนบ้านคืออะไร และประกอบด้วยอะไรบ้าง?

ค่าโอนบ้าน คือค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ สำนักงานที่ดินในวันที่โอนกรรมสิทธิ์บ้านจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อ โดยไม่ได้มีเพียงแค่ค่าธรรมเนียมการโอนเท่านั้น แต่ยังประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกหลายรายการ ซึ่งคนที่กำลังมองหาบ้านควรทำความเข้าใจเพื่อเตรียมเงินให้พร้อม

ค่าใช้จ่ายในการโอนบ้านประกอบด้วย 5 รายการหลักๆ ได้แก่:

  1. ค่าธรรมเนียมการโอน: คิดในอัตรา 2% ของราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นการคิดจากราคาประเมินที่กรมธนารักษ์กำหนด ไม่ใช่ราคาซื้อขายจริง
  2. ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ: คิดในอัตรา 3.3% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน (แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า) โดยจะต้องเสียค่าภาษีนี้เมื่อขายบ้านภายในระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่ได้มา
  3. ค่าอากรแสตมป์: คิดในอัตรา 0.5% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน (แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า) แต่หากเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าอากรแสตมป์
  4. ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: เป็นภาษีที่หัก ณ ที่จ่าย โดยคิดตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ซึ่งจะเป็นแบบอัตราก้าวหน้าหรือแบบขั้นบันได และขึ้นอยู่กับวิธีการที่ได้มาและระยะเวลาที่ถือครอง
  5. ค่าจดจำนอง: คิดในอัตรา 1% ของวงเงินกู้ทั้งหมด หากเป็นการซื้อขายด้วยเงินสด ก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

ใครต้องรับผิดชอบค่าโอนบ้าน และจ่ายเท่าไร?

ในการโอนกรรมสิทธิ์บ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกแบ่งความรับผิดชอบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยไม่มีกฎที่ชัดเจนว่าใครต้องจ่ายส่วนไหน แต่เป็นการตกลงร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วมักมีการแบ่งความรับผิดชอบดังนี้:

  1. ค่าธรรมเนียมการโอน (2%): โดยปกติแล้ว ผู้ซื้อและผู้ขายจะแบ่งกันจ่ายคนละครึ่ง คือฝ่ายละ 1% ของราคาประเมิน อย่างไรก็ตาม บางกรณีอาจมีข้อตกลงให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรับผิดชอบทั้งหมด
  2. ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ (3.3%): ส่วนใหญ่เป็นความรับผิดชอบของผู้ขาย เนื่องจากเป็นภาษีที่เกิดจากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้ขายครอบครองบ้านไม่เกิน 5 ปี
  3. ค่าอากรแสตมป์ (0.5%): โดยทั่วไปเป็นความรับผิดชอบของผู้ขาย แต่จะต้องเสียก็ต่อเมื่อไม่ได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
  4. ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา: เป็นความรับผิดชอบของผู้ขาย เนื่องจากเป็นภาษีที่เกิดจากรายได้จากการขาย
  5. ค่าจดจำนอง (1%): เป็นความรับผิดชอบของผู้ซื้อ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน

ขั้นตอนการโอนบ้านมีอะไรบ้าง?

การโอนกรรมสิทธิ์บ้านมีขั้นตอนสำคัญที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายควรทราบ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น โดยขั้นตอนทั้งหมดประกอบด้วย:

  1. แจ้งความประสงค์โอนบ้าน: ติดต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่สำนักงานที่ดินและรับบัตรคิว
  2. ตรวจสอบเอกสาร: เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารที่จำเป็นสำหรับการโอน ซึ่งประกอบด้วย:
    • โฉนดที่ดินฉบับเงิน
    • บัตรประชาชนพร้อมสำเนา 1 ชุด
    • ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา 1 ชุด
    • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจ)
    • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนสมรสของคู่สมรส (กรณีสมรส)
  3. ประเมินทุนทรัพย์: เจ้าหน้าที่จะประเมินทุนทรัพย์และคำนวณค่าธรรมเนียมการโอน
  4. ชำระค่าธรรมเนียม: ผู้ซื้อและผู้ขายชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ ตามที่ได้ตกลงกันไว้
  5. พิมพ์สลักหลังโฉนด: เจ้าหน้าที่พิมพ์สลักหลังโฉนดและให้ผู้โอนตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นจึงมอบโฉนดและสัญญาซื้อขายให้ผู้ซื้อ หากผู้ซื้อกู้เงินจากธนาคาร เจ้าหน้าที่ธนาคารจะเป็นผู้เก็บโฉนดไว้จนกว่าจะผ่อนบ้านหมด

มาตรการลดหย่อนค่าโอนบ้านปี 2568 มีอะไรบ้าง?

ปัจจุบันภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมีการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการโอนบ้านและจดจำนอง ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนซื้อบ้าน โดยมาตรการดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้:

  1. ลดค่าธรรมเนียมโอนบ้าน: จากเดิม 2% เหลือเพียง 0.01% สำหรับบ้านที่มีราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง
  2. ลดค่าจดจำนอง: จากเดิม 1% เหลือเพียง 0.01% สำหรับบ้านที่มีราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง

มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 ดังนั้น หากคุณกำลังวางแผนซื้อบ้าน นี่อาจเป็นโอกาสดีที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการโอนบ้านได้อย่างมาก

กรณีไหนที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ?

ภาษีธุรกิจเฉพาะเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงถึง 3.3% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน อย่างไรก็ตาม มีหลายกรณีที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีนี้ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ขายได้มาก โดยกรณีที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่:

  1. ขายบ้านที่ถือครองเกิน 5 ปี: หากผู้ขายถือครองบ้านนานเกิน 5 ปีนับจากวันที่ได้มา (นับรวม 1,825 วัน) จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
  2. มีชื่อในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี: หากผู้ขายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี (365 วัน) จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยสามารถนับรวมแต่ละช่วงเวลาได้
  3. ได้รับอสังหาริมทรัพย์ทางมรดก: การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยทางมรดกจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
  4. ถูกเวนคืน: กรณีถูกเวนคืนที่ดิน จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
  5. โอนให้ทายาทโดยธรรมหรือบุตรชอบด้วยกฎหมาย: การโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ทายาทโดยธรรมหรือบุตรชอบด้วยกฎหมายโดยไม่มีค่าตอบแทน จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

เตรียมตัวอย่างไรก่อนไปโอนบ้านให้ราบรื่น?

การเตรียมตัวที่ดีก่อนไปโอนบ้านจะช่วยให้กระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาเกิดขึ้น โดยสิ่งที่ควรเตรียมมีดังนี้:

  1. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน:
    • สำหรับผู้ขาย: โฉนดที่ดินตัวจริง, บัตรประชาชนพร้อมสำเนา, ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา, เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสมรส (ถ้ามี)
    • สำหรับผู้ซื้อ: บัตรประชาชนพร้อมสำเนา, ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา, เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการสมรส (ถ้ามี), หลักฐานการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร (กรณีกู้)
  2. เตรียมเงินให้พร้อม: ควรเตรียมเงินให้พร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องจ่าย ณ สำนักงานที่ดิน โดยสามารถเตรียมเป็นเงินสด แคชเชียร์เช็ค หรือตามวิธีที่สำนักงานที่ดินกำหนด
  3. ตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายให้ชัดเจน: ควรตกลงกับอีกฝ่ายให้ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนใด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในวันโอน
  4. ตรวจสอบราคาประเมิน: ควรตรวจสอบราคาประเมินของกรมธนารักษ์ล่วงหน้า เพื่อให้ทราบค่าใช้จ่ายที่แท้จริงที่ต้องเสีย
  5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจในขั้นตอนใด ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การโอนเป็นไปอย่างถูกต้องและไม่มีปัญหาในภายหลัง
  6. นัดหมายวันเวลาให้ชัดเจน: ควรนัดหมายวันเวลาที่จะไปโอนให้ชัดเจน และควรไปถึงสำนักงานที่ดินก่อนเวลานัดหมาย เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวและตรวจสอบเอกสารอีกครั้ง

วิธีคำนวณค่าโอนบ้านอย่างง่าย มีขั้นตอนอย่างไร?

การคำนวณค่าโอนบ้านอาจดูซับซ้อน แต่หากเข้าใจหลักการพื้นฐานแล้ว ก็สามารถคำนวณได้ไม่ยาก ซึ่งสามารถแบ่งขั้นตอนการคำนวณตามแต่ละรายการได้ดังนี้:

  1. ค่าธรรมเนียมการโอน (2%):
    • คำนวณจากราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
    • ตัวอย่าง: บ้านราคาประเมิน 2 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมโอน = 2,000,000 x 2% = 40,000 บาท
    • ตามมาตรการลดหย่อน: 2,000,000 x 0.01% = 200 บาท (สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท)
  2. ค่าจดจำนอง (1%):
    • คำนวณจากวงเงินกู้ทั้งหมด
    • ตัวอย่าง: กู้ซื้อบ้าน 1.5 ล้านบาท ค่าจดจำนอง = 1,500,000 x 1% = 15,000 บาท
    • ตามมาตรการลดหย่อน: 1,500,000 x 0.01% = 150 บาท (สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท)
  3. ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ (3.3%):
    • คำนวณจากราคาขายหรือราคาประเมิน (แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า)
    • ตัวอย่าง: บ้านราคาขาย 2.5 ล้านบาท ราคาประเมิน 2 ล้านบาท
    • ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ = 2,500,000 x 3.3% = 82,500 บาท
    • หากได้รับยกเว้น (ถือครองเกิน 5 ปี หรือมีชื่อในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี) ก็ไม่ต้องเสียภาษีนี้
  4. ค่าอากรแสตมป์ (0.5%):
    • คำนวณจากราคาขายหรือราคาประเมิน (แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า)
    • ตัวอย่าง: บ้านราคาขาย 2.5 ล้านบาท ราคาประเมิน 2 ล้านบาท
    • ค่าอากรแสตมป์ = 2,500,000 x 0.5% = 12,500 บาท
    • หากเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว ก็ไม่ต้องเสียค่าอากรแสตมป์
  5. ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา:
    • คำนวณตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามวิธีการได้มาและระยะเวลาการถือครอง

โดยรวมแล้ว หากเป็นบ้านที่มีราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท และอยู่ในช่วงมาตรการลดหย่อน ค่าใช้จ่ายในการโอนจะถูกลงมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนซื้อบ้าน

สรุป

การซื้อขายบ้านไม่ได้มีเพียงแค่การจ่ายค่าบ้านเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในวันโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งทั้งผู้ซื้อและผู้ขายควรทำความเข้าใจเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ประกอบด้วยค่าธรรมเนียมการโอน ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าอากรแสตมป์ ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และค่าจดจำนอง โดยแต่ละรายการจะมีผู้รับผิดชอบที่แตกต่างกันไปตามข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมโอนบ้านและจดจำนองจากภาครัฐ ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนซื้อบ้าน โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569

ดังนั้น หากคุณกำลังวางแผนซื้อบ้าน ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ดี เพื่อให้สามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างถูกต้องและไม่เกิดปัญหาในวันโอนกรรมสิทธิ์


#สาระ #การเงิน #ค่าโอนบ้าน #ค่าธรรมเนียมโอนบ้าน #ภาษีธุรกิจเฉพาะ #การโอนกรรมสิทธิ์ #ค่าจดจำนอง #ซื้อบ้าน #มาตรการลดหย่อนค่าโอนบ้าน #กรมที่ดิน #อสังหาริมทรัพย์ #ค่าอากรแสตมป์

อ่านเพิ่ม

หมายเหตุ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปสำหรับเว็บไซต์ Homeday โดย บริษัท โฮมเดย์ กรุ๊ป จำกัด เท่านั้น บริษัทไม่สามารถให้คำมั่นหรือคำรับประกันเกี่ยวกับเนื้อหา รวมถึงไม่สามารถรับรองความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์เฉพาะใดๆ ตามขอบเขตของกฎหมาย เราจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ปรากฏในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วนสมบูรณ์ ณ เวลาที่จัดทำ ข้อมูลดังกล่าวไม่ควรนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินใจด้านการเงิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือประเด็นกฎหมายโดยทันที ผู้อ่านไม่ควรอาศัยข้อมูลในบทความนี้แทนคำแนะนำจากผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและสภาวะเฉพาะของท่านได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากท่านเลือกที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจของท่าน

Sidebar
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
ข่าวสาร
เติมความพิเศษให้ทุกการเข้าพัก ด้วยของขวัญต้อนรับที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
ข่าวสาร
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล มหาชัย เสิร์ฟความหอมระดับพรีเมียม! ผนึกภาครัฐส่งเสริมสินค้า GI ยกระดับมะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้วสู่ระดับประเทศ จัดงาน “Mahachai Coconut Festival 2025 ตอน Proud บ้านแพ้ว” 25-31 กรกฎาคม 2568 นี้
“เอกา โกลบอล” เตรียมแผนขยายตลาดใหม่ รับมือเทรดวอร์ภาษีทรัมป์ เร่งเครื่องตลาดอินเดีย แก้เกมเศรษฐกิจโลกผันผวน
ข่าวสาร
SAM จัดประมูลทรัพย์ NPA กว่า 120 ลบ. ชูไฮไลท์บ้านเดี่ยวหลังใหญ่กลางเมือง
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..