หน้าบ้านข้า ใครก็อย่าจอดขวาง แก้ปัญหาง่ายๆ ด้วยสันติวิธี

บ่อยครั้งปัญหาเรื่องเล็กๆ รอบตัว ก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ และเกิดความขัดแย้งขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพียงเพราะเผลอไปละเมิดสิทธิส่วนตัวของผู้อื่น หรือคิดแค่ว่าเรื่องที่ทำลงไปนั้นใครๆ เขาก็เป็น ใครๆ เขาก็ทำกัน อย่างเช่นกรณีการจอดรถริมถนน หรือการจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่นค่ะ

บางครั้งผู้จอดอาจจะมองว่าไม่เป็นอะไร จอดเพียงแค่แป๊บเดียว หรือระยะเวลาสั้นๆ แต่บ่อยครั้งกลับสร้างความหงุดหงิด และความลำบากใจให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงเจ้าของบ้านที่ต้องการใช้พื้นที่ในการขับรถ เข้า-ออก ภายในบ้านเป็นอย่างมาก จนเกิดข้อพิพาท และเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมา เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวค่ะ

ฉะนั้นแล้ว เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง และการเกิดข้อพิพาทที่จะเกิดขึ้น ผู้ใช้รถทั้งหลายไม่ควรทำการจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น มิเช่นนั้นอาจทำให้เสี่ยงเสียค่าปรับโดยไม่รู้ตัว!

ข้อกฎหมายควรรู้ เมื่อมีรถจอดขวางหน้าบ้าน

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกันก่อนดีกว่าว่ามีคำไหนบ้างที่เราควรรู้ นั่นก็คือ

  • ถนน — ทางสัญจรทางบก เพื่อใช้ในการเดินทางทั้งเดินเท้า และการเดินทางด้วยยานพาหนะ โดยแบ่งเป็นถนนทางเดียว (สัญจรทิศทางเดียว) และถนนสวนทางกัน (สัญจรไปมาสวนทางกัน)
  • ทาง — แนวหรือวิถีที่ใช้สัญจรไปมา เช่น ทางเท้า สะพาน ทางเดินรถ
  • สัญจร — การผ่านไปมา

ฉะนั้นแล้วความหมายโดยรวมของถนนนั้นก็คือ ใช้เพื่อสัญจรไปมา ซึ่งสามารถหยุด รับ-ส่ง ผู้คนได้ แต่ไม่สามารถจอดพักรถ หรือใช้เพื่อเป็นลานจอดรถได้ ดังนั้นคนที่จอดรถริมถนนขวางทางจราจร หรือจอดรถขวางทางบ้านคนอื่นถือว่ามีความผิดค่ะ

นอกจากนั้นการจอดรถขวางทางหน้าบ้านคนอื่นยังถือว่าเป็นการรบกวนผู้อื่น ทำให้เจ้าของบ้านได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบ อันเนื่องมาจากการขัดขวางทางสัญจร อีกทั้งยังเกิดความรำคาญใจอีกค่ะ

เมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 397 ระบุไว้ว่า “ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำในที่สาธารณะสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล หรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคสอง เป็นการกระทำโดยอาศัยเหตุที่ผู้กระทำมีอำนาจเหนือผู้ถูกกระทำ อันเนื่องจากความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา นายจ้าง หรือผู้มีอำนาจเหนือประการอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท (ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2558)”

ทราบกันอย่างนี้แล้ว หากใครที่ยังจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่นอยู่ อาจจะต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 397 วรรคสอง โดยการกระทำให้ผู้อื่นเกิดความรำคาญ และเดือดร้อน เพราะไม่สามารถขับรถ เข้า-ออก ภายในบ้านได้อย่างสะดวกค่ะ

เมื่อเกิดปัญหาขอพิพาทขึ้นในกรณีที่มีการจอดรถขวางประตูหน้าบ้าน ให้ทำการแก้ปัญหาดัวยวิธีขั้นต้นดังต่อไปนี้

กรณีเจ้าของบ้าน

  • ติดต่อเจ้าของรถแจ้งเตือน หรือบอกกล่าวให้รับทราบในกรณีเจอรถจอดขวางหน้าบ้าน
  • ติดป้ายประกาศห้ามจอดที่รั้วประตูบ้าน พร้อมระบุข้อความแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น ให้กับรถที่ผ่านมาได้ทราบ
  • กรณีมีธุระเร่งด่วน ทำการเลื่อนรถออกจากบริเวณหน้าบ้าน (กรณีเคลื่อนย้ายได้)
  • เขียนโน้ตกระดาษแจ้งให้ทราบด้วยข้อความสุภาพ

กรณีเจ้าของรถ

  • หากมีความจำเป็นที่จะต้องจอดรถหน้าบ้านคนอื่น เพื่อทำธุระ ควรทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ที่หน้ารถ เผื่อมีกรณีฉุกเฉิน หรือเจ้าของบ้านต้องการให้ขยับรถออกจากหน้าบ้าน เจ้าของบ้านจะได้ติดต่อได้สะดวก
  • เมื่อได้ที่จอดแล้ว และรู้ว่าจะต้องจอดขวางทาง เข้า-ออก หรือจอดซ้อนคัน จะต้องมั่นใจว่ารถของเราสามารถเคลื่อนที่ได้ และผู้อื่นสามารถเลื่อนรถของเราได้ตลาดเวลา ในกรณีที่เขามีธุระเร่งด่วน และเราไม่ได้อยู่บริเวณนั้น
  • เข้าเกียร์ N หรือเกียร์ว่าง เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเลื่อนรถย้ายตำแหน่งพ้นระยะทางกีดขวางได้
  • หากไม่จำเป็น หรือมีธุระเร่งด่วนจนต้องจดรถหน้าบ้านคนอื่น ควรจอดรถในบริเวณที่มีลานจอดรถจัดเตรียมไว้ให้

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาขั้นต้นของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อป้องกัน และไม่ให้เกิดกรณี ข้อพิพาท หรือเกิดความขัดแย้งดังกล่าว แต่หากเกิดกรณีที่ยังมีเหตุการณ์จอดรถขวางหน้าบ้านอยู่ หลังจากมีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเบื้องต้นไปแล้ว ควรแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป เพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาท หรือได้รับบาดเจ็บจนเป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินค่ะ

หากไม่สามารถพูดคุยกันได้ และมีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรง ควรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อหาทางออกในเรื่องที่เกิดขึ้น และหลีกเลี่ยงการปะทะโดยตรงระหว่างเจ้าของบ้าน และเจ้าของรถที่จอดขวางหน้าบ้าน อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการบันดาลโทสะ และใช้ความรุนแรงค่ะ

เจ้าของบ้านสามารถแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับอื่นผู้เกี่ยวข้องช่วยเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหาได้ดังนี้

  • เจ้าของรถ เป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรพาเจ้าหน้าที่หมู่บ้าน หรือนิติบุคคลไปช่วยในการเจรจา
  • นิติบุคคล เป็นผู้มีหน้าที่ในการจัดการดูแลความเรียบร้อย และจัดการเรื่องต่างๆ รวมถึงคอยประสานงาน อำนวยความสะดวกเรื่องต่างๆ ให้กับลูกบ้าน ดังนั้นหากเกิดกรณีจอดรถขวางหน้าบ้านเป็นประจำ แจ้งแล้วก็ยังมีการจอดรถขวางหน้าบ้านอยู่ ควรแจ้งเรื่องให้ฝ่ายนิติบุคคลให้ทราบ และทำการแจ้งว่ากล่าวตักเตือน
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน หากหมู่บ้านไหนที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลลูกบ้าน รวมถึงคอยช่วยเหลือให้เรื่องอื่นๆ ของลูกบ้าน
  • ตำรวจ ถือเป็นคนกลางในลำดับสุดท้าย เนื่องจากอาจเกิดเป็นคดีความกันได้ ทางที่ดีควรพูดคุยเจรจาตกลงกันได้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่ถ้าพูดคุยกันไม่ได้จริงๆ ก็ให้เจ้าของบ้านแจ้งความดำเนินคดี
  • ศาลยุติธรรม หากเกิดกรณีร้ายแรงจนเกินขอบเขต จนไม่สามารถยอมความกันได้ ควรทำการแจ้งทนายดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรม เพื่อหาข้อยุติกรณีที่เกิดขึ้น

ซึ่งตัวเลือกข้างต้นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเท่านั้น และการเลือกวิธีการแก้ไขปัญหานั้นก็ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของสถานการณ์ที่พบเจอด้วยเช่นกันค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด