Kave Playground (copy)

10 วิธีป้องกันตัวและรับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหวอย่างปลอดภัย

ภัยพิบัติแผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ แต่เราสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ได้ การรู้จักวิธีป้องกันตัวและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและสูญเสียได้อย่างมาก บทความนี้จะแนะนำ 10 วิธีในการเตรียมความพร้อมและรับมือกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวอย่างปลอดภัย ตั้งแต่การเตรียมการล่วงหน้า การปฏิบัติตัวขณะเกิดเหตุ ไปจนถึงการฟื้นฟูหลังเกิดภัยพิบัติ

1. การเตรียมพร้อมที่อยู่อาศัยให้แข็งแรง

การเตรียมบ้านเรือนให้มีความแข็งแรงและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการรับมือกับแผ่นดินไหว เริ่มต้นจากการตรวจสอบโครงสร้างของบ้านว่ามีความมั่นคงเพียงพอหรือไม่ โดยเฉพาะบ้านเก่าหรืออาคารที่ก่อสร้างมานาน ควรปรึกษาวิศวกรโครงสร้างเพื่อประเมินความแข็งแรงและทำการเสริมความมั่นคงให้กับตัวอาคาร

การติดตั้งระบบเสริมความมั่นคงให้กับบ้านมีหลายวิธี เช่น การเสริมเสาและคานให้แข็งแรง การติดตั้งระบบต้านแรงแผ่นดินไหว หรือการใช้วัสดุก่อสร้างที่มีความยืดหยุ่น ที่สามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี นอกจากนี้ ยังควรตรวจสอบและซ่อมแซมรอยแตกร้าวของกำแพงหรือฐานรากอาคารอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับผู้ที่อาศัยในคอนโดมิเนียมหรืออาคารสูง ควรสอบถามนิติบุคคลอาคารชุดถึงมาตรฐานการก่อสร้างและระบบป้องกันแผ่นดินไหวของอาคาร รวมถึงแผนอพยพในกรณีฉุกเฉิน การเลือกที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานการก่อสร้างตามหลักวิศวกรรมแผ่นดินไหวจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสียหายเมื่อเกิดภัยพิบัติได้อย่างมาก

2. การจัดเตรียมพื้นที่ภายในบ้านให้ปลอดภัย

เฟอร์นิเจอร์และสิ่งของภายในบ้านอาจกลายเป็นอันตรายได้เมื่อเกิดแผ่นดินไหว การจัดการพื้นที่ภายในบ้านให้ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ เริ่มจากการยึดเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ เช่น ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ หรือตู้หนังสือเข้ากับผนังอย่างมั่นคง เพื่อป้องกันไม่ให้ล้มทับเมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน

ควรจัดวางของหนักไว้บนชั้นล่างของชั้นวางของ และไม่วางสิ่งของที่แตกง่ายหรือมีน้ำหนักมากไว้เหนือเตียงนอนหรือโซฟา ติดตั้งอุปกรณ์ล็อคสำหรับตู้และลิ้นชักเพื่อป้องกันการเปิดออกระหว่างเกิดแผ่นดินไหว นอกจากนี้ ยังควรใช้แผ่นกันลื่นหรือตีนตุ๊กแกรองใต้เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหรือชั้นวาง

การจัดเตรียมเส้นทางอพยพภายในบ้านให้โล่งและปราศจากสิ่งกีดขวางก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรกำหนดพื้นที่ปลอดภัยในแต่ละห้องสำหรับหลบภัยเมื่อเกิดแผ่นดินไหว เช่น ใต้โต๊ะที่แข็งแรง หรือบริเวณมุมห้องที่ไม่มีสิ่งของหนักตั้งอยู่เหนือศีรษะ และให้สมาชิกในครอบครัวทุกคนทราบถึงตำแหน่งเหล่านี้

3. การจัดเตรียมถุงยังชีพและแผนอพยพฉุกเฉิน

  • การจัดเตรียมถุงยังชีพสำหรับภัยพิบัติแผ่นดินไหวเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกครัวเรือนควรมี ถุงยังชีพควรบรรจุของใช้ที่จำเป็นอย่างน้อยสำหรับ 3-7 วัน ได้แก่ น้ำดื่มสะอาด (อย่างน้อย 1 แกลลอนต่อคนต่อวัน) อาหารแห้งที่ไม่ต้องปรุงหรือเก็บในตู้เย็น ไฟฉายพร้อมถ่านสำรอง วิทยุแบบใช้ถ่านหรือชาร์จด้วยมือหมุน ชุดปฐมพยาบาล ยาประจำตัว เอกสารสำคัญ (หรือสำเนา) เช่น บัตรประชาชน พาสปอร์ต เอกสารประกันภัย เงินสดจำนวนหนึ่ง และรายชื่อผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉิน ถุงยังชีพนี้ควรเก็บไว้ในที่ที่หยิบฉวยได้ง่ายเมื่อต้องอพยพออกจากบ้านอย่างเร่งด่วน และควรตรวจสอบสิ่งของภายในเป็นประจำ โดยเฉพาะอาหาร น้ำดื่ม และยาที่มีวันหมดอายุ ในกรณีที่มีสัตว์เลี้ยง ควรเตรียมอาหารและอุปกรณ์จำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย รวมถึงกรงหรืออุปกรณ์สำหรับการเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงอย่างปลอดภัย นอกจากนั้น ควรพิจารณาความต้องการเฉพาะของสมาชิกในครอบครัว เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีความต้องการพิเศษ และเตรียมของใช้ที่จำเป็นสำหรับพวกเขาไว้ในถุงยังชีพด้วย การมีถุงยังชีพที่พร้อมใช้งานจะช่วยให้คุณสามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้ในช่วงวิกฤตที่อาจไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือจากภายนอกได้ทันที
  • การวางแผนอพยพฉุกเฉินเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า แผนนี้ควรประกอบด้วยเส้นทางหนีไฟและจุดนัดพบนอกบ้านสำหรับสมาชิกในครอบครัว รวมถึงแผนสำรองในกรณีที่ไม่สามารถใช้เส้นทางหลักได้ ทุกคนในบ้านควรรู้จักวิธีปิดระบบประปา ไฟฟ้า และแก๊สในกรณีฉุกเฉิน และควรมีการซักซ้อมแผนอพยพอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ทุกคนคุ้นเคยกับขั้นตอนการปฏิบัติ การซักซ้อมนี้ควรรวมถึงการฝึกการหมอบลงใต้โต๊ะหรือเฟอร์นิเจอร์ที่แข็งแรง การปกป้องศีรษะและลำคอด้วยแขน และการรอจนกว่าแรงสั่นสะเทือนจะหยุดลงก่อนที่จะเคลื่อนย้าย นอกจากนี้ ควรรู้จักพื้นที่ปลอดภัยในชุมชนและเส้นทางไปยังศูนย์อพยพที่ใกล้ที่สุด รวมถึงมีรายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานฉุกเฉินในพื้นที่ เช่น โรงพยาบาล สถานีดับเพลิง และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การมีแผนอพยพที่ชัดเจนและมีการซักซ้อมเป็นประจำจะช่วยลดความสับสนและตื่นตระหนกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ทำให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ความรู้เกี่ยวกับระบบเตือนภัยและการติดตามข้อมูลแผ่นดินไหวก็เป็นส่วนสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ ในประเทศไทย หน่วยงานที่รับผิดชอบในการแจ้งเตือนภัยแผ่นดินไหวคือกรมอุตุนิยมวิทยาและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ควรติดตั้งแอปพลิเคชันแจ้งเตือนภัยพิบัติบนสมาร์ทโฟน เช่น “Thai Disaster Alert” หรือ “Safety Thailand” เพื่อรับการแจ้งเตือนโดยตรงเมื่อมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ นอกจากนี้ ควรรู้จักวิธีการอ่านและเข้าใจข้อมูลแผ่นดินไหว เช่น ขนาดความรุนแรงตามมาตราริกเตอร์ ความลึกของจุดศูนย์กลาง และระยะห่างจากพื้นที่อยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยให้ประเมินความเสี่ยงและตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม ควรตั้งวิทยุ FM ไว้ที่ความถี่ของสถานีวิทยุท้องถิ่นที่จะออกอากาศข้อมูลฉุกเฉินในกรณีที่ระบบการสื่อสารอื่นๆ ล่ม และหมั่นติดตามข่าวสารและคำแนะนำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว การรู้และเข้าใจระบบเตือนภัยจะช่วยให้มีเวลาในการเตรียมตัวและอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้ทันท่วงที

4. การปฏิบัติตัวขณะเกิดแผ่นดินไหว

เมื่อเกิดแผ่นดินไหว การรู้จักวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่อาจช่วยชีวิตคุณได้ หลักปฏิบัติพื้นฐานที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลกคือ “หมอบ ปกป้อง รอ” (Drop, Cover, and Hold On) ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้

หมอบ: ให้หมอบลงบนพื้นทันทีเพื่อป้องกันการล้มจากแรงสั่นสะเทือน

ปกป้อง: หาที่กำบังใต้โต๊ะหรือเฟอร์นิเจอร์ที่แข็งแรง ปกป้องศีรษะและลำคอด้วยแขนทั้งสองข้าง หากไม่มีโต๊ะหรือเฟอร์นิเจอร์ให้หลบ ให้นั่งพิงผนังด้านในห้องที่ไม่มีสิ่งของหนักหรือกระจกแขวนอยู่ และปกป้องศีรษะด้วยหมอนหรือสิ่งของนุ่ม

รอ: อยู่ในตำแหน่งนั้นจนกว่าแรงสั่นสะเทือนจะหยุดลง ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่วินาทีไปจนถึงนาทีหรือนานกว่านั้น

การปฏิบัติตัวจะแตกต่างกันไปตามสถานที่ที่คุณอยู่ขณะเกิดแผ่นดินไหว หากอยู่ในอาคารสูง ให้หลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์และไม่ควรวิ่งออกจากอาคารขณะที่ยังมีแรงสั่นสะเทือน เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการถูกสิ่งของหล่นทับได้ หากอยู่นอกอาคาร ให้อยู่ห่างจากตัวอาคาร สายไฟฟ้า เสาไฟ และต้นไม้ หาพื้นที่โล่งที่ปลอดภัย หากกำลังขับรถ ให้ค่อยๆ จอดรถข้างทางในพื้นที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการจอดใกล้อาคาร สะพาน หรือสายไฟฟ้า

5. การปฏิบัติตัวหลังเกิดแผ่นดินไหว

หลังจากแรงสั่นสะเทือนหยุดลง ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ ทั้งจากอาฟเตอร์ช็อก (แผ่นดินไหวตาม) ความเสียหายของโครงสร้างอาคาร หรือภัยพิบัติที่อาจเกิดตามมา เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือดินถล่ม สิ่งแรกที่ควรทำคือตรวจสอบการบาดเจ็บของตัวเองและคนรอบข้าง ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากจำเป็น และขอความช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับการบาดเจ็บรุนแรง

ตรวจสอบความเสียหายของบ้านหรืออาคารที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะรอยแตกร้าวของโครงสร้างหลัก ระบบท่อแก๊ส ระบบไฟฟ้า และระบบประปา หากพบการรั่วไหลของแก๊สให้ปิดวาล์วหลักทันที ไม่จุดไฟหรือเปิดปิดสวิตช์ไฟฟ้า และรีบออกจากบริเวณนั้น หากสงสัยว่าโครงสร้างอาคารไม่ปลอดภัย ให้อพยพออกจากอาคารทันทีและไม่กลับเข้าไปจนกว่าจะได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ

ติดตามข่าวสารและคำแนะนำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านวิทยุหรือช่องทางการสื่อสารที่ยังใช้งานได้ เตรียมพร้อมสำหรับอาฟเตอร์ช็อกที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยปฏิบัติตามหลัก “หมอบ ปกป้อง รอ” เช่นเดียวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวหลัก ในกรณีที่ต้องอพยพ ให้นำถุงยังชีพที่เตรียมไว้ติดตัวไปด้วย และปฏิบัติตามเส้นทางอพยพที่วางแผนไว้หรือตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

6. การเตรียมความพร้อมด้านการประกันภัย

การทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองความเสียหายจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือ โดยทั่วไป กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยทั่วไปอาจไม่ครอบคลุมความเสียหายจากแผ่นดินไหว จึงควรพิจารณาทำประกันภัยเพิ่มเติมที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะ

ประกันภัยแผ่นดินไหวมีหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นส่วนเพิ่มเติม (rider) ของประกันอัคคีภัย หรือเป็นกรมธรรม์แยกต่างหาก ความคุ้มครองอาจแตกต่างกันไปตามบริษัทประกันและแผนที่เลือก แต่โดยทั่วไปจะครอบคลุมความเสียหายต่อตัวอาคาร ทรัพย์สินภายในบ้าน ค่าที่พักอาศัยชั่วคราวในกรณีที่บ้านเสียหายจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ และในบางกรณีอาจรวมถึงค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนและกำจัดซากปรักหักพัง

เมื่อพิจารณาทำประกันภัย ควรตรวจสอบรายละเอียดความคุ้มครอง วงเงินความรับผิดชอบ ค่าเสียหายส่วนแรกที่ต้องรับผิดชอบเอง (deductible) และข้อยกเว้นต่างๆ ให้ละเอียด นอกจากนี้ ควรจัดทำบัญชีรายการทรัพย์สินมีค่าในบ้าน พร้อมถ่ายภาพหรือวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน และเก็บสำเนาเอกสารสำคัญ เช่น กรมธรรม์ประกันภัย เอกสารสิทธิ์ หรือหลักฐานการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ไว้ในที่ปลอดภัยหรือในรูปแบบดิจิทัลที่สามารถเข้าถึงได้แม้ในยามฉุกเฉิน

7. การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน

การรับมือกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวไม่ใช่เพียงเรื่องของแต่ละครัวเรือน แต่เป็นความร่วมมือของทั้งชุมชน การสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและพร้อมรับมือกับภัยพิบัติจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตและฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว

เริ่มจากการเข้าร่วมหรือจัดตั้งกลุ่มเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในชุมชน เพื่อวางแผนและซักซ้อมการรับมือร่วมกัน ควรมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อฉุกเฉินระหว่างเพื่อนบ้าน และตกลงกันเรื่องวิธีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามฉุกเฉิน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อาจต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือผู้ที่มีความพิการ

การเข้ารับการอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือภัยพิบัติ เช่น การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) หรือการค้นหาและกู้ภัย จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น หน่วยงานที่จัดอบรมเหล่านี้ ได้แก่ สภากาชาดไทย หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ หรือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

ชุมชนควรมีการทำแผนที่ระบุจุดเสี่ยงภัยในพื้นที่ เส้นทางอพยพ สถานที่ปลอดภัยสำหรับรวมตัวกัน และทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนที่อาจเป็นประโยชน์ในยามฉุกเฉิน เช่น อุปกรณ์ดับเพลิง เครื่องปั่นไฟสำรอง หรือยานพาหนะที่ใช้ในการอพยพ การซักซ้อมแผนอพยพระดับชุมชนอย่างน้อยปีละครั้งจะช่วยให้ทุกคนเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของตนเองในสถานการณ์ฉุกเฉิน

8. การเลือกวัสดุและเทคโนโลยีก่อสร้างต้านแผ่นดินไหว

ในปัจจุบัน มีวัสดุและเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อต้านทานแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวมากมาย การเลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับที่อยู่อาศัยของคุณอย่างมาก

โครงสร้างอาคารต้านแผ่นดินไหวที่ดีควรมีความยืดหยุ่นและแข็งแรงในเวลาเดียวกัน วัสดุที่นิยมใช้ ได้แก่ คอนกรีตเสริมเหล็ก (reinforced concrete) ที่มีการออกแบบพิเศษให้มีความเหนียว (ductility) สูง ทำให้สามารถรับแรงและเปลี่ยนรูปได้โดยไม่พังทลายทันที ระบบโครงสร้างเหล็ก (steel frame) ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถดูดซับพลังงานจากแรงสั่นสะเทือนได้ดี และโครงสร้างไม้ที่มีน้ำหนักเบาและความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับบ้านพักอาศัยขนาดเล็กถึงกลาง

เทคโนโลยีการก่อสร้างต้านแผ่นดินไหวที่สำคัญ เช่น ระบบฐานรากแยกจากพื้นดิน (base isolation) ซึ่งใช้อุปกรณ์พิเศษที่ติดตั้งระหว่างฐานรากและตัวอาคาร ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนที่ส่งผ่านจากพื้นดินสู่อาคาร ระบบหน่วงการสั่นสะเทือน (damping system) ที่ช่วยดูดซับพลังงานจากแรงสั่นสะเทือนและลดการแกว่งของอาคาร และระบบกำแพงรับแรงเฉือน (shear wall) ที่ช่วยต้านทานแรงด้านข้างจากแผ่นดินไหว

สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนสร้างบ้านใหม่หรือปรับปรุงบ้านเดิม ควรปรึกษาวิศวกรโครงสร้างหรือสถาปนิกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบต้านแผ่นดินไหว เพื่อเลือกวัสดุและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และงบประมาณ การลงทุนในระบบต้านแผ่นดินไหวตั้งแต่เริ่มต้นจะประหยัดกว่าการซ่อมแซมความเสียหายหรือการเสริมความแข็งแรงในภายหลัง

9. การเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพและจิตใจ

การเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพและจิตใจเป็นอีกด้านที่สำคัญในการรับมือกับภัยพิบัติแผ่นดินไหว ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การมีร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจที่เข้มแข็งจะช่วยให้สามารถรับมือกับความเครียดและความท้าทายได้ดีขึ้น

ด้านสุขภาพร่างกาย ควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือต้องรับประทานยาเป็นประจำ ควรเตรียมยาสำรองไว้อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ในถุงยังชีพ พร้อมเอกสารทางการแพทย์สำคัญ เช่น บัตรผู้ป่วย ประวัติการรักษา หรือใบสั่งยา นอกจากนี้ ควรเรียนรู้ทักษะปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อสามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นในกรณีที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ทันที

ด้านจิตใจ การเตรียมพร้อมรับมือกับความเครียดและความวิตกกังวลที่อาจเกิดขึ้นจากภัยพิบัติเป็นสิ่งสำคัญ ควรเรียนรู้เทคนิคการจัดการความเครียด เช่น การหายใจลึกๆ การทำสมาธิ หรือการพูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้ การเรียนรู้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับแผ่นดินไหวและการเตรียมพร้อมรับมือจะช่วยลดความกลัวที่เกิดจากความไม่รู้ และเพิ่มความมั่นใจในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

สำหรับครอบครัวที่มีเด็ก ควรพูดคุยกับเด็กเกี่ยวกับแผ่นดินไหวในลักษณะที่เหมาะสมกับวัย สอนให้เด็กรู้จักวิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดภัยพิบัติ และให้เด็กมีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อม เช่น การช่วยจัดเตรียมถุงยังชีพหรือการฝึกซ้อมแผนอพยพ การให้เด็กมีส่วนร่วมจะช่วยลดความกลัวและเพิ่มความรู้สึกว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

10. การฟื้นฟูและปรับตัวหลังภัยพิบัติ

การฟื้นฟูและปรับตัวหลังภัยพิบัติแผ่นดินไหวเป็นกระบวนการที่อาจใช้เวลานาน การวางแผนล่วงหน้าและรู้จักแหล่งทรัพยากรที่จะช่วยในการฟื้นฟูจะทำให้กระบวนการนี้ราบรื่นขึ้น

ด้านที่อยู่อาศัย หลังเกิดแผ่นดินไหว ควรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความปลอดภัยของโครงสร้างบ้านก่อนกลับเข้าไปอยู่อาศัย หากบ้านได้รับความเสียหายจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ควรติดต่อบริษัทประกันภัย (ถ้ามี) เพื่อเริ่มกระบวนการเคลม และติดต่อหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือด้านที่พักอาศัยชั่วคราวหรือเงินชดเชย การถ่ายภาพความเสียหายและเก็บใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ในการขอเงินชดเชยหรือเคลมประกัน

ด้านการเงิน ภัยพิบัติอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงิน ทั้งจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย การสูญเสียรายได้ หรือค่ารักษาพยาบาล ควรติดต่อเจ้าหนี้ เช่น ธนาคารที่ให้สินเชื่อบ้าน หรือบริษัทบัตรเครดิต เพื่อแจ้งสถานการณ์และขอผ่อนผันการชำระเงิน บางสถาบันการเงินอาจมีโครงการช่วยเหลือพิเศษสำหรับผู้ประสบภัยพิบัติ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบโครงการความช่วยเหลือจากภาครัฐและองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีให้แก่ผู้ประสบภัย

ด้านจิตใจและสังคม การฟื้นฟูจิตใจหลังประสบภัยพิบัติมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการฟื้นฟูทางกายภาพ อาการเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้าเป็นปฏิกิริยาปกติหลังประสบเหตุการณ์รุนแรง หากรู้สึกว่าไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกได้ด้วยตนเอง ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต การเข้าร่วมกลุ่มช่วยเหลือผู้ประสบภัยหรือกิจกรรมฟื้นฟูชุมชนจะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

การนำบทเรียนจากภัยพิบัติที่ผ่านมาใช้ในการปรับปรุงการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตเป็นสิ่งสำคัญ หลังจากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ควรประเมินแผนรับมือภัยพิบัติที่มีอยู่และปรับปรุงให้ดีขึ้น การแบ่งปันประสบการณ์และบทเรียนกับชุมชนจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและความพร้อมของทั้งสังคมในการรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต

สรุป

ภัยพิบัติแผ่นดินไหวเป็นเหตุการณ์ธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ แต่เราสามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบด้วยการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การเสริมความแข็งแรงให้ที่อยู่อาศัย การเรียนรู้วิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง การเตรียมแผนฉุกเฉินและถุงยังชีพ ไปจนถึงการทำประกันภัยและการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน

การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวไม่ใช่เพียงหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐ แต่เป็นความรับผิดชอบของทุกคนในสังคม ด้วยความรู้ที่ถูกต้องและการวางแผนล่วงหน้า เราสามารถปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง ครอบครัว และชุมชนจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องของโชคหรือความบังเอิญ แต่เป็นผลจากการเตรียมการที่ดี จึงควรเริ่มเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ เพื่อความปลอดภัยในวันที่อาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน

#แผ่นดินไหว #ภัยพิบัติธรรมชาติ #ความปลอดภัยในที่อยู่อาศัย #การเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ #แผนอพยพฉุกเฉิน #ถุงยังชีพ #การประกันภัยแผ่นดินไหว #การก่อสร้างต้านแผ่นดินไหว #การฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ #ชุมชนเข้มแข็ง #สาระ

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
Central Pattana Residence โตต่อเนื่อง ประกาศโครงการใหม่มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท ชูบ้านลักชัวรี่ใหม่ “บ้านนิรดา แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์” ย้ำแบรนด์บ้านและคอนโดฯ เซ็นทรัลแข็งแกร่ง เชื่อมต่อการใช้ชีวิตในมิกซ์ยูสคุณภาพ
ข่าวสาร
เอสบี ดีไซน์สแควร์ จับมือบัตรเครดิตและสินเชื่อในกลุ่มกรุงศรีคอนซูมเมอร์ เปิดตัวโซลูชันแต่งห้องพร้อมอยู่ พร้อมลงทุน ในสไตล์ที่ลงตัว ใน 3 คอนโดฯ พร้อมอยู่จากแสนสิริ The Line Vibe, XT Phayathai และ NIA by Sansiri
ข่าวสาร
AWC กับ ททท. ร่วมฉลองเดือนแห่งความหลากหลายกับ กิจกรรม “AWC Let’s Pride” ในธีม “Freedom to Love” นำขบวนพาเหรดแห่งสีสันสายรุ้ง สู่ใจกลางเชียงใหม่ ส่งต่อสู่กรุงเทพฯ และกิจกรรมตลอดเดือน พร้อม Pride Stay สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากโรงแรมในเครือ
ข่าวสาร
”หมอริท-เรืองฤทธิ์“ คว้า “เจมส์จิ” ฉลองก้าวสู่ปีที่ 6 THE RITZ CLINIC อย่างยิ่งใหญ่!! พร้อมเปิดสาขาใหม่ Future Park รองรับบริการเต็มระบบ
ข่าวสาร
CheckGo by Occicare จับมือ แม็คโคร-โลตัส มอลล์ เปิด CheckGo lab สาขาใหม่ ในแม็คโคร รังสิต พร้อมแผนขยาย 50 สาขาทั่วประเทศภายในปี 2569
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..