The Palm (copy)

7 สัญญาณเตือนที่บอกว่าบ้านของคุณกำลังมีปัญหาโครงสร้าง ตรวจสอบด่วนก่อนสาย!

บ้านเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัว แต่หลายคนมักมองข้ามสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงปัญหาโครงสร้างที่อาจเกิดขึ้น การละเลยปัญหาเหล่านี้อาจนำไปสู่ความเสียหายที่รุนแรงและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงขึ้นในอนาคต บทความนี้จะแนะนำ 7 สัญญาณเตือนสำคัญที่บ่งบอกว่าบ้านของคุณอาจกำลังประสบปัญหาโครงสร้าง พร้อมคำแนะนำในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเบื้องต้น

รอยแตกบนผนังและเพดาน: สัญญาณเตือนที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด

รอยแตกบนผนังและเพดานเป็นสัญญาณเตือนที่พบได้บ่อยที่สุดและสังเกตเห็นได้ง่าย แต่หลายคนมักมองว่าเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับสีหรือปูนฉาบ ความจริงแล้ว รอยแตกเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาโครงสร้างที่ร้ายแรงกว่าที่คิด

รอยแตกในแนวทแยงมักเกิดจากการทรุดตัวของฐานรากบ้าน โดยเฉพาะเมื่อพบที่มุมของประตูหรือหน้าต่าง ลักษณะนี้บ่งบอกว่าโครงสร้างกำลังเคลื่อนตัวและรับน้ำหนักไม่สม่ำเสมอ ส่วนรอยแตกในแนวนอนอาจเกิดจากแรงกดทับจากด้านบนที่มากเกินไป หรือการเคลื่อนตัวของผนังจากความชื้นที่มากเกินไป

ควรสังเกตความกว้างของรอยแตกด้วย รอยแตกขนาดเล็กกว่า 1 มิลลิเมตรอาจเป็นเพียงการหดตัวของวัสดุก่อสร้างตามอายุการใช้งาน แต่รอยแตกที่กว้างกว่า 5 มิลลิเมตรขึ้นไปควรได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว นอกจากนี้ควรสังเกตการขยายตัวของรอยแตก โดยอาจใช้วิธีทำเครื่องหมายที่ปลายรอยแตกและติดตามดูว่ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นหรือไม่

การตรวจสอบเบื้องต้นสามารถทำได้โดยใช้ไม้บรรทัดวัดความกว้างของรอยแตก และถ่ายภาพเก็บไว้เพื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงในอนาคต หากพบว่ารอยแตกมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาวิศวกรโครงสร้างหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างโดยเร็วที่สุด

ประตูและหน้าต่างติดขัด: ปัญหาที่มากกว่าเรื่องบานพับ

เมื่อประตูหรือหน้าต่างในบ้านเริ่มปิด-เปิดได้ยาก หลายคนมักคิดว่าเป็นเพียงปัญหาบานพับหรือกลไกเปิด-ปิดเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว นี่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาโครงสร้างที่กำลังเกิดขึ้นกับบ้าน

การที่ประตูหรือหน้าต่างติดขัด ปิดไม่สนิท หรือเปิดเองโดยไม่ได้ล็อค มักเกิดจากกรอบประตูหรือหน้าต่างเสียรูปทรง ซึ่งเป็นผลจากการเคลื่อนตัวของโครงสร้างบ้าน สาเหตุหลักมาจากฐานรากที่ทรุดตัวไม่เท่ากัน หรือการบิดตัวของโครงสร้างไม้เนื่องจากความชื้นหรือปลวก

วิธีตรวจสอบอย่างง่ายคือการใช้ระดับน้ำวัดความสมดุลของกรอบประตูและหน้าต่าง หากพบว่ากรอบเอียงทั้งที่เคยตั้งตรง นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีการเคลื่อนตัวของโครงสร้าง โดยเฉพาะหากปัญหานี้เกิดขึ้นกับประตูหรือหน้าต่างหลายบานพร้อมกัน

นอกจากนี้ ควรสังเกตช่องว่างระหว่างประตูกับกรอบประตู หากมีช่องว่างที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น ด้านบนกว้างกว่าด้านล่าง หรือด้านหนึ่งกว้างกว่าอีกด้านหนึ่งมาก นั่นแสดงว่ากรอบประตูกำลังเสียรูปทรงเนื่องจากการเคลื่อนตัวของโครงสร้าง

ปัญหานี้มักแย่ลงตามฤดูกาล โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรุนแรง เนื่องจากวัสดุก่อสร้างจะขยายตัวและหดตัวตามสภาพอากาศ หากปัญหาเกิดขึ้นอย่างกะทันหันหรือแย่ลงอย่างรวดเร็ว ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว

พื้นบ้านไม่เรียบหรือเอียง: สัญญาณอันตรายจากฐานราก

พื้นบ้านที่ไม่เรียบหรือเอียงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนที่ชัดเจนของปัญหาโครงสร้าง แม้บ้านที่มีอายุการใช้งานนานอาจมีพื้นที่ไม่เรียบบ้างเล็กน้อยตามการเสื่อมสภาพธรรมชาติ แต่หากความไม่เรียบนั้นสังเกตเห็นได้ชัดเจนหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นสัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

พื้นที่เอียงหรือไม่เรียบมักเกิดจากการทรุดตัวของฐานรากบ้าน สาเหตุอาจมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพดินใต้บ้าน เช่น ดินเปียกเกินไปจากน้ำรั่วซึม ดินแห้งเกินไปในช่วงแล้ง หรือการกัดเซาะของน้ำใต้ดิน นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการก่อสร้างฐานรากที่ไม่แข็งแรงตั้งแต่แรก หรือการบิดตัวของโครงสร้างพื้นเนื่องจากความชื้นหรือปลวก

วิธีตรวจสอบปัญหานี้อย่างง่ายคือการใช้ลูกแก้วหรือลูกกลมวางบนพื้น หากลูกกลมกลิ้งไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งโดยไม่ต้องออกแรงผลัก แสดงว่าพื้นมีความเอียง นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ระดับน้ำวางตามจุดต่างๆ ของพื้นบ้านเพื่อตรวจสอบความเรียบ

ความรุนแรงของปัญหานี้สามารถประเมินได้จากระดับความเอียงของพื้น หากพื้นเอียงมากกว่า 1 นิ้วต่อระยะทาง 15 ฟุต (หรือประมาณ 2.5 เซนติเมตรต่อ 4.5 เมตร) ถือว่าอยู่ในขั้นที่ควรได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะหากความเอียงนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ปัญหาพื้นเอียงนี้มักสัมพันธ์กับปัญหาอื่นๆ เช่น รอยแตกบนผนัง ประตูหน้าต่างติดขัด หรือท่อระบายน้ำอุดตัน เนื่องจากทั้งหมดมีสาเหตุมาจากการเคลื่อนตัวของโครงสร้างบ้าน การแก้ไขปัญหาฐานรากจึงมักต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

น้ำขังบริเวณฐานรากบ้าน: ภัยเงียบที่ทำลายความมั่นคง

น้ำที่ขังบริเวณรอบฐานรากบ้านเป็นปัญหาที่มักถูกมองข้าม แต่กลับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาโครงสร้างบ้านในระยะยาว เมื่อน้ำขังบริเวณฐานราก จะเกิดแรงดันน้ำที่กระทำต่อผนังฐานราก และเมื่อดินรอบฐานรากชุ่มน้ำ จะทำให้ดินอ่อนตัวลงและรับน้ำหนักได้น้อยลง ส่งผลให้ฐานรากทรุดตัวไม่เท่ากัน

สาเหตุของการมีน้ำขังรอบฐานรากมีหลายประการ เช่น การระบายน้ำฝนจากหลังคาไม่ดี รางระบายน้ำฝนอุดตันหรือชำรุด ภูมิประเทศรอบบ้านที่ลาดเอียงเข้าหาตัวบ้าน หรือการก่อสร้างระบบระบายน้ำรอบบ้านที่ไม่เหมาะสม

การตรวจสอบปัญหานี้ ควรสังเกตบริเวณรอบบ้านหลังฝนตกหนัก ว่ามีน้ำขังบริเวณใดบ้าง สังเกตการระบายน้ำจากหลังคาว่าไหลลงสู่พื้นอย่างไร และตรวจสอบว่าดินรอบฐานรากมีความชื้นสูงผิดปกติหรือไม่ แม้ในช่วงที่ไม่มีฝนตก

ผลกระทบของน้ำขังไม่ได้จำกัดเพียงการทำให้ฐานรากทรุดตัวเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้เกิดปัญหาเชื้อราในบ้าน กลิ่นอับชื้น การผุกร่อนของวัสดุก่อสร้าง และการเสื่อมสภาพของฉนวนกันความร้อนใต้พื้นบ้านอีกด้วย

การแก้ไขปัญหาขั้นพื้นฐานสามารถทำได้โดยปรับภูมิประเทศรอบบ้านให้ลาดเอียงออกจากตัวบ้าน ติดตั้งหรือซ่อมแซมรางน้ำฝนและท่อระบายน้ำให้อยู่ในสภาพดี และอาจพิจารณาติดตั้งระบบระบายน้ำรอบฐานรากหรือเพิ่มชั้นกันซึมที่ผนังฐานราก หากพบปัญหาที่รุนแรง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแก้ไขอย่างถูกวิธี

กลิ่นอับชื้นและเชื้อรา: สัญญาณของความชื้นที่ส่งผลต่อโครงสร้าง

กลิ่นอับชื้นและการปรากฏของเชื้อราในบ้านไม่ใช่เพียงปัญหาเรื่องความสะอาดหรือสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงปัญหาความชื้นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างบ้านในระยะยาว โดยเฉพาะในบ้านที่ใช้โครงสร้างไม้เป็นส่วนประกอบหลัก

ความชื้นสูงในบ้านมีสาเหตุได้หลายประการ เช่น น้ำรั่วซึมจากหลังคาหรือท่อน้ำ การระบายอากาศที่ไม่ดี การควบแน่นของไอน้ำบนผนังที่เย็นกว่า หรือน้ำใต้ดินที่ซึมผ่านฐานรากขึ้นมา ความชื้นเหล่านี้เมื่อสะสมเป็นเวลานานจะทำให้วัสดุก่อสร้างเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะไม้ซึ่งจะบวม ผุ และสูญเสียความแข็งแรง ส่งผลให้โครงสร้างบ้านอ่อนแอลง

เชื้อราที่พบในบ้านมักมีลักษณะเป็นคราบดำ เขียว หรือน้ำตาลตามผนัง เพดาน หรือบริเวณที่มีความชื้นสูง บางครั้งอาจไม่เห็นเชื้อราโดยตรง แต่จะสังเกตได้จากกลิ่นอับชื้นที่เด่นชัด โดยเฉพาะในห้องปิดที่มีการระบายอากาศไม่ดี เช่น ห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน หรือตู้เสื้อผ้า

เชื้อราบางชนิด เช่น เชื้อราผุดำ (Serpula lacrymans) สามารถทำลายโครงสร้างไม้ได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยเชื้อราชนิดนี้จะแพร่กระจายในโครงสร้างไม้และทำให้ไม้สูญเสียความแข็งแรงอย่างมาก แม้ภายนอกไม้อาจดูปกติ แต่ภายในอาจผุกร่อนไปมากแล้ว

การตรวจสอบปัญหานี้ควรเริ่มจากการสังเกตกลิ่นและคราบเชื้อราตามจุดต่างๆ ในบ้าน โดยเฉพาะบริเวณที่อับชื้น ตรวจสอบความชื้นของไม้โครงสร้างด้วยเครื่องวัดความชื้นไม้ หากเป็นไปได้ และสังเกตการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างไม้ เช่น การบิดตัว การยุบตัว หรือการผุกร่อน

การแก้ไขปัญหาต้องเริ่มจากการกำจัดแหล่งความชื้น ซ่อมแซมจุดรั่วซึม ปรับปรุงการระบายอากาศ และลดความชื้นในบ้านด้วยเครื่องลดความชื้น หากพบว่าโครงสร้างไม้เสียหายจากเชื้อราแล้ว อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายและป้องกันการกลับมาของเชื้อราด้วยสารกำจัดเชื้อราที่เหมาะสม

เสียงผิดปกติจากโครงสร้างบ้าน: สัญญาณเตือนที่ได้ยิน

เสียงผิดปกติที่เกิดจากโครงสร้างบ้านเป็นสัญญาณเตือนที่หลายคนมักมองข้าม เสียงเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงปัญหาโครงสร้างที่กำลังเกิดขึ้น แม้จะยังไม่มีร่องรอยที่มองเห็นได้ชัดเจน การรับฟังเสียงผิดปกติจึงเป็นวิธีหนึ่งในการตรวจจับปัญหาตั้งแต่เริ่มต้น

เสียงลั่นหรือเสียงแตกที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนหรือเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง อาจเป็นสัญญาณของการเคลื่อนตัวของโครงสร้างบ้าน เสียงลั่นเกิดขึ้นเมื่อไม้หรือวัสดุอื่นๆ เกิดการขยายตัวหรือหดตัวเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือความชื้น แต่หากเสียงนั้นดังผิดปกติหรือเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อาจบ่งบอกถึงการเคลื่อนตัวของโครงสร้างที่มากเกินไป

เสียงเอี๊ยดหรือลั่นเมื่อเดินบนพื้นบ้านเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ควรให้ความสนใจ แม้บ้านเก่าอาจมีเสียงเอี๊ยดบ้างเป็นธรรมดา แต่หากเสียงนั้นเพิ่งเกิดขึ้นใหม่หรือดังมากขึ้นอย่างผิดสังเกต อาจเป็นสัญญาณของการเสื่อมสภาพของโครงสร้างพื้น ตงไม้ที่รองรับพื้นอาจกำลังแอ่นตัวหรือหลวมจากการยึดเกาะที่ไม่แน่นหนา

นอกจากนี้ เสียงน้ำไหลในผนังหรือเสียงหยดน้ำทั้งที่ไม่ได้เปิดก๊อกน้ำ อาจเป็นสัญญาณของท่อน้ำรั่ว ซึ่งหากปล่อยไว้นานจะทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างบ้านได้ โดยเฉพาะหากเป็นท่อน้ำที่ซ่อนอยู่ในผนังหรือใต้พื้น

การตรวจสอบเบื้องต้นสามารถทำได้โดยการฟังอย่างตั้งใจในช่วงเวลาที่บ้านเงียบสงบ จดบันทึกเวลาและตำแหน่งที่ได้ยินเสียงผิดปกติ และสังเกตว่าเสียงนั้นเกิดขึ้นในสภาวะใด เช่น ขณะที่อากาศร้อนจัด หนาวจัด หรือหลังฝนตกหนัก การเชื่อมโยงเสียงกับสภาพแวดล้อมจะช่วยให้ระบุสาเหตุได้ง่ายขึ้น

หากพบเสียงผิดปกติที่น่าสงสัย โดยเฉพาะเสียงแตกดังหรือเสียงที่บ่งบอกถึงการเคลื่อนตัวของโครงสร้างอย่างฉับพลัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบโดยละเอียด เนื่องจากเสียงเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนสุดท้ายก่อนที่จะเกิดความเสียหายรุนแรงต่อโครงสร้างบ้าน

ท่อระบายน้ำอุดตันและการระบายน้ำไม่ดี: ปัญหาที่ส่งผลต่อฐานราก

ท่อระบายน้ำที่อุดตันและระบบระบายน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาโครงสร้างบ้านในระยะยาว แม้จะดูเหมือนเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่น้ำที่ไม่สามารถระบายออกไปจากบริเวณบ้านได้อย่างเหมาะสมจะสร้างความเสียหายต่อฐานรากและโครงสร้างหลักของบ้านอย่างช้าๆ แต่ต่อเนื่อง

ท่อระบายน้ำและรางน้ำฝนที่อุดตันมักเกิดจากการสะสมของใบไม้ กิ่งไม้ เศษขยะ หรือตะกอนต่างๆ ทำให้น้ำฝนไม่สามารถไหลออกจากหลังคาและบริเวณรอบบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อน้ำล้นออกจากรางน้ำหรือไหลไม่ถูกทิศทาง จะทำให้น้ำขังบริเวณฐานรากบ้าน ซึ่งส่งผลเสียในระยะยาว

น้ำที่ขังบริเวณฐานรากบ้านจะทำให้ดินขยายตัวเมื่อชุ่มน้ำและหดตัวเมื่อแห้ง การเปลี่ยนแปลงปริมาตรของดินนี้จะสร้างแรงกดดันต่อฐานรากและทำให้เกิดการทรุดตัวไม่เท่ากัน นอกจากนี้ น้ำที่ซึมผ่านรอยแตกของฐานรากอาจทำให้เกิดการผุกร่อนของเหล็กเสริมในคอนกรีต ซึ่งจะลดความแข็งแรงของโครงสร้างลงอย่างมาก

สัญญาณที่บ่งบอกว่าระบบระบายน้ำมีปัญหา ได้แก่ น้ำล้นจากรางน้ำฝนขณะฝนตก น้ำขังบริเวณรอบบ้านเป็นเวลานานหลังฝนหยุด ร่องรอยคราบน้ำบนผนังภายนอกใต้รางน้ำฝน และการเจริญเติบโตของมอสหรือเชื้อราบริเวณฐานรากบ้าน

การตรวจสอบระบบระบายน้ำควรทำเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝน ตรวจสอบรางน้ำฝนและท่อระบายน้ำว่ามีสิ่งอุดตันหรือไม่ ตรวจดูการไหลของน้ำในขณะฝนตกว่าไหลออกจากบ้านอย่างเหมาะสมหรือไม่ และสังเกตการระบายน้ำของดินรอบบ้านว่ามีประสิทธิภาพดีเพียงใด

การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นสามารถทำได้โดยทำความสะอาดรางน้ำฝนและท่อระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบและซ่อมแซมรอยแตกหรือรอยรั่วของระบบระบายน้ำ และปรับปรุงการระบายน้ำรอบบ้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การเพิ่มท่อระบายน้ำใต้ดิน การปรับระดับดินให้ลาดเอียงออกจากตัวบ้าน หรือการติดตั้งบ่อดักน้ำในจุดที่น้ำมักขัง

สรุป: การตรวจสอบและแก้ไขปัญหาโครงสร้างบ้านอย่างทันท่วงที

การตระหนักถึงสัญญาณเตือนของปัญหาโครงสร้างบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถแก้ไขปัญหาได้ก่อนที่จะลุกลามจนเกิดความเสียหายรุนแรงและมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูง สัญญาณเตือนทั้ง 7 ประการที่กล่าวมา ได้แก่ รอยแตกบนผนังและเพดาน ประตูและหน้าต่างติดขัด พื้นบ้านไม่เรียบหรือเอียง น้ำขังบริเวณฐานรากบ้าน กลิ่นอับชื้นและเชื้อรา เสียงผิดปกติจากโครงสร้างบ้าน และท่อระบายน้ำอุดตันและการระบายน้ำไม่ดี ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านควรให้ความสนใจและตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลบ้านอย่างเหมาะสมเริ่มจากการตรวจสอบด้วยตนเองเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง และโดยเฉพาะหลังเหตุการณ์สำคัญ เช่น พายุรุนแรง น้ำท่วม หรือแผ่นดินไหว นอกจากนี้ การตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญทุก 3-5 ปี จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าบ้านยังคงมีความแข็งแรงและปลอดภัย

เมื่อพบสัญญาณเตือนใดๆ ไม่ควรละเลยหรือรอให้ปัญหารุนแรงขึ้น ควรดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขทันที ปัญหาเล็กน้อยที่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าปัญหาใหญ่ที่เกิดจากการละเลยเป็นเวลานาน

การลงทุนในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมบ้านอย่างเหมาะสมไม่เพียงแต่จะช่วยรักษามูลค่าของบ้านไว้ แต่ยังช่วยให้บ้านเป็นที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและน่าอยู่สำหรับทุกคนในครอบครัว การเรียนรู้ที่จะสังเกตสัญญาณเตือนและตอบสนองอย่างเหมาะสมจึงเป็นทักษะสำคัญสำหรับเจ้าของบ้านทุกคน

#ปัญหาโครงสร้างบ้าน #รอยแตกผนัง #พื้นบ้านเอียง #น้ำขังรอบบ้าน #เชื้อราในบ้าน #เสียงผิดปกติในบ้าน #ท่อระบายน้ำอุดตัน #ฐานรากทรุด #สาระ

Here goes your text … Select any part of your text to access the formatting toolbar.

อ่านเพิ่ม
The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
Casio ฉลองครบรอบ 50 ปี เปิดตัว Ring Watch รุ่น CRW-001G-9DR ตัวเรือนสีทอง ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นสีเงินสุดฮิต
ข่าวสาร
สิงห์ เอสเตท รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรก ปี 2568 โตต่อเนื่อง ยืนยันศักยภาพความมั่นคงจากฐานรายได้ประจำ หนุนกำไรเติบโตตามคาด
ข่าวสาร
เอพี ไทยแลนด์ ย้ำบริษัทอสังหาอันดับ 1 ประกาศรายได้รวม 9 เดือน 33,368 ล้าน กำไรสุทธิสูงถึง 3,025 ล้าน
ข่าวสาร
เซ็นทรัลพัฒนา หนึ่งในผู้สนับสนุนหลัก “SEA GAMES 2025” และ “ASEAN PARA GAMES 2026” ร่วมรับส่งต่อคบเพลิงในพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์ทั่วประเทศ
ข่าวสาร
SCOPE ยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยพรีเมียมแบบที่แตกต่างอย่างแท้จริง ด้วย 4 ซิกเนเจอร์บริการอยู่อาศัยโดย ACQUA ที่ไม่มีที่ใดเคยมีมาก่อน พร้อมเปิดตัว MTCH พาร์ตเนอร์มัทฉะคุณภาพระดับสูงสำหรับลูกบ้านสโคป
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ กรุงเทพกรีฑา (The Signature Krungthepkreetha) เปิดตัวบ้านรุ่นใหม่ New Kaiteki Series เพดานสูง 3.2 เมตร ทำเลบ้านหรูใกล้โรงเรียนนานาชาติ Brighton College และ Wellington College
Review
รีวิว ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว (Life Phahon-Ladprao) คอนโดใหม่ แต่งครบ พร้อมอยู่ ยูนิตน้อย ทำเล North CBD ห้าแยกลาดพร้าว ตรงข้าม The Central พหลโยธิน
Review
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
Loading..