การเลือกซื้อบ้านเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต โดยหนึ่งในปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาคือเรื่องพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่ทั้งหมดของบ้าน หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมตัวเลขพื้นที่ที่เห็นในโฆษณาหรือแบบบ้านถึงมีความแตกต่างกัน บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างพื้นที่ทั้งสองประเภทนี้
ความหมายและความแตกต่างของพื้นที่แต่ละประเภท
พื้นที่ใช้สอย (Usable Area) หมายถึงพื้นที่ภายในบ้านที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ รวมถึงพื้นที่ระเบียงที่มีหลังคาคลุม ส่วนพื้นที่ทั้งหมด (Gross Area) คือพื้นที่รวมทั้งหมดของบ้าน รวมถึงพื้นที่ผนัง พื้นที่เสา และพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ
การคำนวณพื้นที่ใช้สอยจะวัดจากระยะภายในห้องจริง โดยไม่นับรวมความหนาของผนัง ในขณะที่พื้นที่ทั้งหมดจะวัดจากขอบนอกสุดของตัวบ้าน ทำให้ตัวเลขพื้นที่ทั้งหมดมักมีค่ามากกว่าพื้นที่ใช้สอยประมาณ 10-15%

ความสำคัญของการเข้าใจพื้นที่แต่ละประเภท
การเข้าใจความแตกต่างระหว่างพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่ทั้งหมดมีความสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อบ้าน เพราะจะช่วยให้ประเมินความคุ้มค่าและการใช้งานจริงได้แม่นยำมากขึ้น บ้านสองหลังที่มีพื้นที่ทั้งหมดเท่ากัน อาจมีพื้นที่ใช้สอยที่แตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับการออกแบบและการจัดวางพื้นที่
นอกจากนี้ การเข้าใจเรื่องพื้นที่ยังช่วยในการวางแผนการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งภายใน รวมถึงการคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าวัสดุปูพื้น ค่าทาสี หรือค่าติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
การคำนวณและการวัดพื้นที่
การวัดพื้นที่ใช้สอยมีหลักการดังนี้:
- วัดระยะภายในห้องจากผนังถึงผนัง
- คำนวณพื้นที่แต่ละห้องแยกกัน
- รวมพื้นที่ทุกห้องเข้าด้วยกัน
- เพิ่มพื้นที่ระเบียงที่มีหลังคาคลุม (คิด 50% ของพื้นที่จริง)
ส่วนการวัดพื้นที่ทั้งหมด:
- วัดระยะภายนอกจากขอบนอกสุดของผนัง
- คำนวณพื้นที่รวมทั้งหมด
- รวมพื้นที่ชั้นต่างๆ (กรณีบ้านหลายชั้น)
- รวมพื้นที่ส่วนต่อเติมที่มีหลังคาคลุม

ข้อควรระวังในการพิจารณาพื้นที่
การดูแบบบ้านและตัวเลขพื้นที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด ควรสังเกตว่าตัวเลขที่แสดงเป็นพื้นที่ประเภทใด และมีพื้นที่ส่วนใดบ้างที่รวมอยู่ในการคำนวณ บางโครงการอาจรวมพื้นที่จอดรถหรือสวนเข้าไปในพื้นที่ทั้งหมด ทำให้ตัวเลขดูมากกว่าความเป็นจริง
ควรพิจารณาการจัดวางพื้นที่และการเชื่อมต่อระหว่างห้องต่างๆ บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเท่ากันแต่มีการจัดวางที่แตกต่างกัน อาจให้ความรู้สึกและประโยชน์ใช้สอยที่ต่างกันมาก

การประยุกต์ใช้ความรู้เรื่องพื้นที่ในการเลือกซื้อบ้าน
เมื่อเข้าใจเรื่องพื้นที่แล้ว สามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในการเลือกซื้อบ้านได้อย่างชาญฉลาด โดยควรพิจารณา:
- ความต้องการพื้นที่ใช้สอยจริงของครอบครัว
- สัดส่วนราคาต่อพื้นที่ใช้สอย
- ประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ของแบบบ้าน
- ความเหมาะสมของการจัดวางพื้นที่กับไลฟ์สไตล์
เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่
การออกแบบและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่ดีสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ได้ เช่น:
- การใช้เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์
- การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง
- การสร้างพื้นที่เก็บของที่มีประสิทธิภาพ
- การใช้สีและแสงเพื่อสร้างความรู้สึกโปร่งโล่ง
สรุป
การเข้าใจความแตกต่างระหว่างพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่ทั้งหมดเป็นพื้นฐานสำคัญในการเลือกซื้อบ้าน ช่วยให้สามารถประเมินความคุ้มค่าและความเหมาะสมกับการใช้งานจริงได้ดียิ่งขึ้น ควรพิจารณาทั้งตัวเลขพื้นที่และการจัดวางพื้นที่ควบคู่กันไป เพื่อให้ได้บ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างแท้จริง
#Mehome #มีบ้านต้องมีโฮม #RealEstate #HomeDesign #HomeBuying #พื้นที่ใช้สอย #เลือกซื้อบ้าน #บ้านและคอนโด #ความรู้เรื่องบ้าน