KAVE playground

วิธีดูแลสุขภาพช่องปากสัตว์เลี้ยงทำอย่างไร?

การดูแลสุขภาพช่องปากของสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของมักจะมองข้าม แต่ความจริงแล้วสุขภาพช่องปากมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับสุขภาพโดยรวมของสัตว์เลี้ยง ปัญหาในช่องปากไม่เพียงแต่ทำให้สัตว์เลี้ยงไม่สบาย แต่ยังสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ บทความนี้จะแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากสัตว์เลี้ยงอย่างละเอียด เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพช่องปากที่ดีและมีความสุขไปตลอดชีวิต

ทำไมสุขภาพช่องปากจึงสำคัญสำหรับสัตว์เลี้ยง

สุขภาพช่องปากไม่ได้เกี่ยวข้องแค่เรื่องลมหายใจที่สดชื่นหรือฟันขาวสวยเท่านั้น แต่มีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของสัตว์เลี้ยงอย่างมาก หากปล่อยให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น โรคเหงือกอักเสบหรือการติดเชื้อในช่องปาก แบคทีเรียสามารถเข้าสู่กระแสเลือดและแพร่กระจายไปยังอวัยวะสำคัญอื่นๆ เช่น หัวใจ ตับ และไต ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

การศึกษาทางสัตวแพทย์พบว่า สัตว์เลี้ยงอายุมากกว่า 3 ปีเกือบ 80% มีปัญหาสุขภาพช่องปากในระดับหนึ่ง โดยโรคปริทันต์ (Periodontal disease) เป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุด โรคนี้เริ่มต้นจากการสะสมของคราบพลัคในช่องปาก ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลจะกลายเป็นหินปูน นำไปสู่การอักเสบของเหงือกและเนื้อเยื่อรอบฟัน และสุดท้ายอาจทำให้ฟันหลุดได้

นอกจากนี้ ปัญหาช่องปากยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง การเจ็บปวดในช่องปากจะทำให้สัตว์เลี้ยงไม่อยากกินอาหาร ส่งผลให้น้ำหนักลดลงและอาจเกิดปัญหาโภชนาการตามมา สัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาช่องปากมักจะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น กลายเป็นเซื่องซึม ระมัดระวังเมื่อมีการสัมผัสบริเวณใบหน้า หรือแสดงอาการไม่สบายเมื่อกินอาหารหรือเล่น

สัญญาณบ่งชี้ปัญหาสุขภาพช่องปากในสัตว์เลี้ยง

การสังเกตสัญญาณเตือนตั้งแต่เริ่มแรกจะช่วยให้สามารถจัดการกับปัญหาสุขภาพช่องปากได้ก่อนที่จะลุกลาม สัญญาณที่บ่งชี้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจมีปัญหาสุขภาพช่องปาก มีดังนี้:

  1. กลิ่นปากแรง: กลิ่นปากเหม็นผิดปกติเป็นสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดของโรคปริทันต์หรือการติดเชื้อในช่องปาก ลมหายใจของสัตว์เลี้ยงไม่ควรมีกลิ่นเหม็นรุนแรง
  2. เหงือกแดงหรือมีเลือดออก: เหงือกที่มีสุขภาพดีควรมีสีชมพูอ่อน หากพบว่าเหงือกมีสีแดงเข้ม บวม หรือมีเลือดออกเมื่อแปรงฟัน อาจเป็นสัญญาณของโรคเหงือกอักเสบ
  3. หินปูนสะสมบนฟัน: คราบสีเหลืองหรือสีน้ำตาลที่สะสมบนฟัน โดยเฉพาะบริเวณใกล้เหงือก เป็นหินปูนที่เกิดจากคราบพลัคที่แข็งตัว
  4. น้ำลายมากผิดปกติ: การที่สัตว์เลี้ยงมีน้ำลายไหลมากกว่าปกติอาจเป็นสัญญาณของปัญหาในช่องปาก
  5. ความยากลำบากในการกินอาหาร: สัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาช่องปากอาจแสดงอาการเจ็บเมื่อกินอาหาร ทำอาหารหล่นจากปาก หรือเคี้ยวเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งของปาก
  6. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม: สัตว์เลี้ยงอาจไม่ให้สัมผัสบริเวณศีรษะหรือปาก ไม่เล่นของเล่นที่ต้องใช้ปากคาบหรือกัด หรือกลายเป็นเซื่องซึม
  7. ฟันหลวมหรือหลุด: ในกรณีที่รุนแรง โรคปริทันต์อาจทำให้ฟันหลวมหรือหลุดได้
  8. การสูญเสียน้ำหนัก: เมื่อสัตว์เลี้ยงมีอาการเจ็บปวดในช่องปาก พวกมันอาจกินอาหารน้อยลงและน้ำหนักลดลง

หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด การรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามและช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาในระยะยาว

วิธีดูแลสุขภาพช่องปากสัตว์เลี้ยงที่บ้าน

การดูแลสุขภาพช่องปากสัตว์เลี้ยงที่บ้านเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันปัญหาสุขภาพช่องปาก วิธีการดูแลทำได้หลายวิธี ดังนี้:

1. การแปรงฟันสัตว์เลี้ยง

การแปรงฟันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันการสะสมของคราบพลัคและหินปูน ควรแปรงฟันสัตว์เลี้ยงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และในกรณีที่เป็นไปได้ ควรแปรงทุกวัน โดยมีขั้นตอนดังนี้:

  • เลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสม: ใช้แปรงสีฟันที่ออกแบบเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือใช้แปรงสีฟันสำหรับเด็กที่มีขนแปรงนุ่ม
  • ใช้ยาสีฟันสำหรับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น: ยาสีฟันสำหรับมนุษย์มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง เช่น ไซลิทอล จึงต้องใช้ยาสีฟันที่ออกแบบเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น
  • ฝึกสัตว์เลี้ยงให้คุ้นเคย: เริ่มต้นด้วยการให้สัตว์เลี้ยงได้ลิ้มรสยาสีฟัน จากนั้นค่อยๆ ฝึกให้คุ้นเคยกับการสัมผัสที่ริมฝีปาก เหงือก และฟัน
  • เทคนิคการแปรง: ยกริมฝีปากขึ้นเบาๆ และแปรงฟันด้วยการเคลื่อนแปรงเป็นวงกลมเล็กๆ หรือจากเหงือกลงมาที่ฟัน มุ่งเน้นที่บริเวณรอยต่อระหว่างฟันและเหงือก
  • ใช้เวลาสั้นๆ แต่สม่ำเสมอ: เริ่มด้วยการแปรงเพียงไม่กี่วินาที แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาเมื่อสัตว์เลี้ยงคุ้นเคยมากขึ้น
  • ให้รางวัล: ให้รางวัลเมื่อสัตว์เลี้ยงให้ความร่วมมือในการแปรงฟัน เพื่อสร้างประสบการณ์เชิงบวก

2. การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากเสริม

นอกจากการแปรงฟันแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ช่วยในการดูแลสุขภาพช่องปากสัตว์เลี้ยง ได้แก่:

  • น้ำยาบ้วนปาก: เติมในน้ำดื่มของสัตว์เลี้ยงเพื่อช่วยลดการสะสมของคราบพลัค
  • สเปรย์ดูแลช่องปาก: ช่วยลดแบคทีเรียในช่องปากและทำให้ลมหายใจสดชื่น
  • เจลทำความสะอาดช่องปาก: ทาบนเหงือกและฟันเพื่อช่วยลดการสะสมของคราบพลัค
  • แผ่นเช็ดทำความสะอาดช่องปาก: สะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ไม่ยอมให้แปรงฟัน

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่สามารถทดแทนการแปรงฟันได้อย่างสมบูรณ์ แต่สามารถใช้เสริมเพื่อการดูแลช่องปากที่ดียิ่งขึ้น

3. ของเล่นและขนมขบเคี้ยวสำหรับดูแลช่องปาก

ของเล่นและขนมขบเคี้ยวที่ออกแบบเฉพาะสำหรับดูแลช่องปากช่วยในการกำจัดคราบพลัคได้ทางกล โดยการเสียดสีกับผิวฟัน ตัวเลือกรวมถึง:

  • ของเล่นยาง: ของเล่นที่มีพื้นผิวขรุขระช่วยขัดฟันขณะที่สัตว์เลี้ยงเล่น
  • กระดูกขัดฟัน: กระดูกเทียมที่ออกแบบให้ช่วยขัดฟันและลดคราบพลัค
  • ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพฟัน: ขนมที่มีส่วนผสมพิเศษช่วยลดการสะสมของคราบพลัคและหินปูน

ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงและคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการกลืนชิ้นส่วนที่หักหรือฉีกขาด

4. การจัดการอาหาร

อาหารมีผลต่อสุขภาพช่องปากของสัตว์เลี้ยงอย่างมาก:

  • อาหารเม็ดแห้ง vs อาหารเปียก: อาหารเม็ดแห้งมีคุณสมบัติในการขัดฟันทางกลมากกว่าอาหารเปียก
  • อาหารสูตรดูแลช่องปาก: มีอาหารที่ออกแบบเฉพาะเพื่อสุขภาพช่องปาก มีขนาดและรูปร่างที่ช่วยขัดฟันขณะเคี้ยว
  • การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง: น้ำตาลส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก

อย่างไรก็ตาม ไม่ควรเปลี่ยนแปลงอาหารสัตว์เลี้ยงโดยไม่ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อน โดยเฉพาะหากสัตว์เลี้ยงมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ

การรักษาสุขภาพช่องปากโดยสัตวแพทย์

แม้ว่าการดูแลที่บ้านจะมีความสำคัญ แต่การตรวจสุขภาพช่องปากโดยสัตวแพทย์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากที่สมบูรณ์

1. การตรวจสุขภาพช่องปากประจำปี

สัตว์เลี้ยงควรได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากอย่างน้อยปีละครั้ง โดยสัตวแพทย์จะทำการตรวจประเมิน:

  • สภาพของฟันและเหงือก
  • การสะสมของคราบพลัคและหินปูน
  • ความผิดปกติในช่องปาก เช่น ฟันหัก ฟันผุ หรือเนื้องอก
  • ตำแหน่งของฟันและการสบฟัน

สัตว์เลี้ยงที่มีอายุมากขึ้นหรือมีประวัติปัญหาช่องปากอาจต้องได้รับการตรวจบ่อยขึ้น

2. การทำความสะอาดฟันอย่างมืออาชีพ

การทำความสะอาดฟันอย่างมืออาชีพโดยสัตวแพทย์ (Dental Scaling and Polishing) เป็นกระบวนการที่ทำภายใต้การวางยาสลบทั่วไป เนื่องจากสัตว์เลี้ยงไม่สามารถนั่งนิ่งและอ้าปากตามคำสั่งได้เหมือนมนุษย์ ขั้นตอนประกอบด้วย:

  • การตรวจอย่างละเอียดทั้งเหนือและใต้เหงือก
  • การขูดหินปูนด้วยเครื่องอัลตราโซนิค
  • การขัดฟันเพื่อทำให้ผิวฟันเรียบ ลดการสะสมของคราบพลัคในอนาคต
  • การเอกซเรย์ช่องปากเพื่อตรวจหาปัญหาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น ปัญหาใต้เหงือกหรือที่รากฟัน
  • การถอนฟันที่มีปัญหา (หากจำเป็น)

ความถี่ในการทำความสะอาดฟันอย่างมืออาชีพขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ พันธุ์ และสภาพสุขภาพช่องปากของสัตว์เลี้ยง โดยทั่วไปสัตว์เลี้ยงอาจต้องได้รับการทำความสะอาดฟันทุก 1-2 ปี

3. การรักษาโรคช่องปาก

นอกจากการทำความสะอาดฟันแล้ว สัตวแพทย์ยังสามารถให้การรักษาโรคช่องปากต่างๆ เช่น:

  • การรักษาโรคปริทันต์: รวมถึงการขูดหินปูนใต้เหงือก การเปิดแผ่นเหงือก และการใช้ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่
  • การรักษารากฟัน: สำหรับฟันที่มีการติดเชื้อที่รากฟันแต่ยังสามารถรักษาไว้ได้
  • การถอนฟัน: สำหรับฟันที่เสียหายมากเกินกว่าจะรักษาได้

การรักษาเนื้องอกในช่องปาก: การผ่าตัดเพื่อเอาเนื้องอกออก ตามด้วยการตรวจชิ้นเนื้อ

การดูแลสุขภาพช่องปากตามช่วงอายุของสัตว์เลี้ยง

ความต้องการในการดูแลสุขภาพช่องปากจะเปลี่ยนไปตามช่วงอายุของสัตว์เลี้ยง ดังนี้:

1. ลูกสัตว์และสัตว์อายุน้อย

  • การขึ้นของฟันน้ำนม: ลูกสุนัขและลูกแมวมีฟันน้ำนม 28 ซี่ ซึ่งจะเริ่มขึ้นเมื่ออายุประมาณ 3-4 สัปดาห์
  • การเปลี่ยนฟัน: ฟันน้ำนมจะถูกแทนที่ด้วยฟันแท้เมื่ออายุประมาณ 3-7 เดือน
  • การฝึกแปรงฟัน: ควรเริ่มฝึกให้ลูกสัตว์คุ้นเคยกับการแปรงฟันตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อให้พวกมันยอมรับการดูแลช่องปากได้ง่ายเมื่อโตขึ้น
  • ปัญหาที่พบบ่อย: ฟันซ้อน ฟันน้ำนมตกค้าง การสบฟันผิดปกติ

2. สัตว์เลี้ยงวัยกลางคน

  • การสะสมของคราบพลัคและหินปูน: เริ่มพบการสะสมของคราบพลัคและหินปูนมากขึ้น
  • การเริ่มเกิดโรคปริทันต์: อาการเริ่มต้นของโรคเหงือกอักเสบอาจเริ่มปรากฏ
  • ความถี่ในการดูแล: ต้องการการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอและอาจต้องได้รับการทำความสะอาดฟันโดยสัตวแพทย์ทุก 1-2 ปี

3. สัตว์เลี้ยงสูงอายุ

  • โรคปริทันต์ขั้นรุนแรง: มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคปริทันต์ขั้นรุนแรง
  • การสึกหรอของฟัน: ฟันอาจสึกหรอจากการใช้งานเป็นเวลานาน
  • ฟันหักหรือแตก: พบปัญหาฟันหักหรือแตกได้บ่อยขึ้น
  • เนื้องอกในช่องปาก: มีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเกิดเนื้องอกในช่องปาก
  • ความถี่ในการดูแล: ต้องการการตรวจสุขภาพช่องปากที่บ่อยขึ้น อาจเป็นทุก 6 เดือน

ความแตกต่างในการดูแลสุขภาพช่องปากระหว่างสุนัขและแมว

แม้ว่าหลักการพื้นฐานในการดูแลสุขภาพช่องปากของสุนัขและแมวจะคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญที่ควรทราบ:

สุนัข

  • ปัญหาที่พบบ่อย: โรคปริทันต์ หินปูน ฟันหัก การสึกหรอของฟัน
  • พันธุ์ที่มีความเสี่ยง: สุนัขพันธุ์เล็ก (เช่น ยอร์กเชียร์ เทอร์เรีย, ชิวาวา, พูเดิล) มักมีปัญหาฟันซ้อนและสะสมคราบพลัคได้ง่ายกว่า
  • พฤติกรรมเฉพาะ: ชอบเคี้ยวของแข็ง ซึ่งอาจทำให้ฟันสึกหรอหรือแตกได้

แมว

  • ปัญหาที่พบบ่อย: โรคปริทันต์, โรคฟันกัดกร่อน (FORL – Feline Odontoclastic Resorptive Lesions) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายของแมวดูดซึมรากฟันของตัวเอง
  • ความท้าทายในการแปรงฟัน: แมวมักไม่ค่อยยอมให้แปรงฟันได้ง่ายเท่าสุนัข จึงอาจต้องใช้เทคนิคเฉพาะหรือหาทางเลือกอื่น

ความไวต่อผลิตภัณฑ์: แมวมีความไวต่อสารเคมีบางชนิดมากกว่าสุนัข จึงต้องระมัดระวังในการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก

ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสัตว์เลี้ยงที่แนะนำ

เมื่อเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสำหรับสัตว์เลี้ยง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสภาทันตกรรมสัตว์แพทย์ (Veterinary Oral Health Council หรือ VOHC) ซึ่งรับรองว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านการทดสอบและพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการลดคราบพลัคหรือหินปูน

1. ยาสีฟันสำหรับสัตว์เลี้ยง

ควรเลือกยาสีฟันที่มีส่วนผสมปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง มีรสชาติที่สัตว์เลี้ยงชอบ (เช่น รสไก่ รสปลา) และควรหลีกเลี่ยงยาสีฟันที่มีส่วนผสมของไซลิทอล ฟลูออไรด์ในปริมาณสูง หรือสารลดแรงตึงผิวที่ทำให้เกิดฟอง

2. แปรงสีฟันสำหรับสัตว์เลี้ยง

มีหลายรูปแบบ ทั้งแบบสวมนิ้ว แบบมีด้ามจับ หรือแบบหัวแปรงสองด้าน ควรเลือกแบบที่มีขนแปรงนุ่มและขนาดเหมาะสมกับขนาดปากของสัตว์เลี้ยง

3. น้ำยาบ้วนปากและสารเติมน้ำดื่ม

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมีส่วนผสมของคลอร์เฮกซิดีน ซิงค์กลูโคเนต หรือสารลดการเกิดคราบพลัคอื่นๆ ใช้เติมในน้ำดื่มหรือสเปรย์ในช่องปากสัตว์เลี้ยง

4. ขนมขบเคี้ยวดูแลสุขภาพฟัน

มีหลากหลายรูปแบบและขนาด ควรเลือกให้เหมาะสมกับขนาดและอายุของสัตว์เลี้ยง หลีกเลี่ยงขนมที่แข็งเกินไปซึ่งอาจทำให้ฟันแตกได้ โดยเฉพาะในสัตว์เลี้ยงที่มีอายุมาก

5. ของเล่นทำความสะอาดฟัน

เลือกของเล่นที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการดูแลสุขภาพช่องปาก มีพื้นผิวที่ช่วยขัดฟันได้ดี แต่ไม่แข็งจนเกินไป

สรุป

การดูแลสุขภาพช่องปากของสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพโดยรวม ปัญหาช่องปากที่ไม่ได้รับการรักษาไม่เพียงทำให้สัตว์เลี้ยงไม่สบาย แต่ยังอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงในอวัยวะอื่นๆ ได้

การดูแลสุขภาพช่องปากที่มีประสิทธิภาพประกอบด้วยหลายองค์ประกอบ ได้แก่:

  • การแปรงฟันสม่ำเสมอ
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่เหมาะสม
  • การเลือกอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพช่องปาก
  • การตรวจสุขภาพช่องปากโดยสัตวแพทย์เป็นประจำ
  • การทำความสะอาดฟันอย่างมืออาชีพเมื่อจำเป็น

การเริ่มดูแลสุขภาพช่องปากตั้งแต่สัตว์เลี้ยงยังอายุน้อยและดูแลอย่างสม่ำเสมอตลอดชีวิตจะช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพช่องปากที่ดี ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม การลงทุนเวลาในการดูแลสุขภาพช่องปากของสัตว์เลี้ยงไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ยังช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่ดีและมีความสุขไปตลอดชีวิต

ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพโดยรวมของสัตว์เลี้ยง ควรพาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ ให้อาหารที่มีคุณภาพ ให้ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ และเอาใจใส่ความเป็นอยู่โดยรวมของสัตว์เลี้ยง เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุข

#สัตว์เลี้ยง #สาระ #สุขภาพช่องปากสัตว์เลี้ยง #การแปรงฟันสัตว์เลี้ยง #โรคปริทันต์ในสัตว์เลี้ยง #การดูแลสุนัข #การดูแลแมว #สุขภาพสัตว์เลี้ยง #ทันตกรรมสัตว์เลี้ยง #ฟันสุนัข #ฟันแมว #สุขภาพฟันสัตว์เลี้ยง

อ่านเพิ่ม
Sidebar
House Condo Fair
The Palm (copy)
บทความล่าสุด
“วุ้นเส้นต้นสน” ร่วมกับสโมรสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา ทีมดังระดับประเทศ สนับสนุนรายการใหญ่ “มาดามหลุยส์ วอลเลย์บอลฯ” สร้างแบรนด์คนรุ่นใหม่ รอบรอง รอบชิงฯ ณ เดอะมอลล์ บางแค (copy)
แกรนด์ แอสเสทฯ ตั้งเป้ารายได้ 5,000 ล้าน จากธุรกิจโรงแรมและอสังหาฯ เร่งกระจายการถือหุ้นของ ROH โดยมีผู้สนใจร่วมลงทุน 6 ราย
ข่าวสาร
“วุ้นเส้นต้นสน” ร่วมกับสโมรสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา ทีมดังระดับประเทศ สนับสนุนรายการใหญ่ “มาดามหลุยส์ วอลเลย์บอลฯ” สร้างแบรนด์คนรุ่นใหม่ รอบรอง รอบชิงฯ ณ เดอะมอลล์ บางแค
“วุ้นเส้นต้นสน” ร่วมกับสโมรสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา ทีมดังระดับประเทศ สนับสนุนรายการใหญ่ “มาดามหลุยส์ วอลเลย์บอลฯ” สร้างแบรนด์คนรุ่นใหม่ รอบรอง-รอบชิงฯ ณ เดอะมอลล์ บางแค
ข่าวสาร
กรมวิทย์ฯ บริการ หารือ กรมวิชาการเกษตร เดินหน้าผลักดันระบบบริหารงานวิจัย สู่การจัดการที่มีประสิทธิภาพ
กรมวิทย์ฯ บริการ หารือ กรมวิชาการเกษตร เดินหน้าผลักดันระบบบริหารงานวิจัย สู่การจัดการที่มีประสิทธิภาพ
ข่าวสาร
เฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี เชิญชวนชาวจีนในไทยชม “นาจา 2” ร่วมกันทำลายสถิติภาพยนตร์จีนที่สร้างยอดขายสูงสุดของโลก
เฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี เชิญชวนชาวจีนในไทยชม “นาจา 2” ร่วมกันทำลายสถิติภาพยนตร์จีนที่สร้างยอดขายสูงสุดของโลก
ข่าวสาร
MediaTek เปิดตัว Dimensity 7400 และ Dimensity 6400 ยกระดับประสิทธิภาพเกม การเชื่อมต่อ และ AI ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
MediaTek เปิดตัว Dimensity 7400 และ Dimensity 6400 ยกระดับประสิทธิภาพเกม การเชื่อมต่อ และ AI ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Sponsor
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Sponsor
รีวิว ศุภาลัย วิลล์ ปิ่นเกล้า-ศาลายา บ้าน Design ใหม่ พื้นที่ใหญ่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ทุก Lifestyle เป็นส่วนตัวเพียง 66 แปลง ส่วนกลางครบครัน บนทำเลที่โดดเด่น โซนปิ่นเกล้า-ศาลายา
Sponsor
รีวิว บ้านกรีนเฮ้าส์ รังสิต สเตชั่น-ซ.เวิร์คพอยท์ คอนโดแนวคิดใหม่ สไตล์ทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 นอน 2 น้ำ บนทำเลรังสิต-ปทุมฯ ใกล้ทางด่วนฯ, โทลล์เวย์ และรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต
Sponsor
รีวิว นิรติ ดอนเมือง (NIRATI DONMUEANG) บ้านและทาวน์โฮม NEW SERIES 2.5 ชั้น พร้อมส่วนกลางกว่า 4 ไร่* ที่สุดของทำเลศักยภาพ เพียง 5 นาที* ถึงสนามบินดอนเมือง
Sponsor
Loading..