นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ผู้นำธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทพรีโมฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,637 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการวางรากฐานด้านการขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ ที่ช่วยส่งเสริมให้บริษัทฯ สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว

รายได้และผลกำไรดังกล่าวมาจากการวางรากฐานด้านการขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ รวมถึง การขยาย New Business อย่างต่อเนื่องส่งผลให้มีบริษัทในเครือเพิ่มเป็น 18 บริษัท พร้อมบริการที่หลากหลายมากขึ้น ครอบคลุมบริการในทุกมิติ และครบทุกช่วงเวลาในการใช้ชีวิตของลูกค้า พร้อมยกระดับงานบริการให้กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯครบวงจร ด้วยแนวคิด Elevate Your Living Experience ที่จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วนสมบูรณ์ สร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันและสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ด้วยการดูแลลูกค้าทุกกลุ่มทั้ง B2G, B2B, B2C อาทิเช่น บริษัท Prim Insurance ที่ให้บริการด้านนายหน้าประกันภัย ธุรกิจ Doormart ที่ให้บริการการจัดส่งสินค้าถึงห้องลูกค้าเพื่อตอบสนองกระแสความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน การเริ่มทดลองนำหุ่นยนต์แม่บ้าน หุ่นยนต์ส่งของมาให้บริการแก่ลูกบ้านที่บริษัทดูแล
“วันนี้รากฐานที่เราสร้างไว้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น รวมกับสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ได้ส่งผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถ รักษาฐานลูกค้าเดิม และหาลูกค้าในกลุ่มใหม่ พร้อมทั้งหาโอกาสใหม่ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมาได้อย่างดี ทำให้ผลดำเนินงานของบริษัทเติบโตและมั่นใจแนวโน้มธุรกิจยังสามารถขยายฐานเพื่อรองรับการเติบโตได้ไม่หยุด” นายสุรินทร์ กล่าว
บริษัทพรีโมฯ ได้วางกลยุทธ์ขยายงานบริการและสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ ให้หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านการอยู่อาศัยในทุกจังหวะของการใช้ชีวิต ผ่านกลุ่มธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มของ PRI ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ – บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) กลุ่มธุรกิจกลางน้ำ – บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) และ
กลุ่มธุรกิจปลายน้ำ – บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) มีการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2567 ซึ่งช่วยผลักดันการสร้างรายได้ที่ต่อเนื่อง (Recurring Income) อย่างยั่งยืนในอนาคต โดยเห็นได้จากจำนวนโครงการของภาครัฐ และรัฐวิสาหิกจที่บริษัทได้เข้าไปให้บริการในปีที่ผ่านมา โดยรวมแล้วปัจจุบันมีโครงการมากกว่า 100 โครงการ ภายใต้การดูแลให้บริการของกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายของบริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนหนึ่งเป็น
ผลมาจากการวางนโยบายเชิงรุกของธุรกิจในเครือ อาทิ บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จํากัด (UPM) บริหารและควบคุมงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการออกแบบ ,บริษัท พีเอ็มเอ็ม พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (PMM)
ที่ให้บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด หมู่บ้านจัดสรร ศูนย์สรรพสินค้า และอาคารสำนักงาน, บริษัท คราวน์ เรสซิเดนซ์ จำกัด (CRD) บริหารงานอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีในอาคารชุด ศูนย์สรรพสินค้า และอาคารสำนักงาน ,บริษัทอูโน่ เซอร์วิส จำกัด (UNO) ที่ให้บริการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางอาคารชุด อาคารสำนักงาน หมู่บ้านจัดสรร และภายในพื้นที่พักอาศัย รวมถึงบริการอื่นๆ ผลประกอบการที่ดีของบริษัทต่างๆที่กล่าวมานี้ส่งผลให้ PRI มีฐานการสร้าง Recurring Income
ที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น