นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม. กล่าวถึงความสำเร็จของโครงการ “นักเรียนสร้างพื้นที่ปลอดภัย โอบรับความหลากหลายทางเพศ” โดยร่วมดำเนินการกับมูลนิธิ Save the Children Thailand เพื่อช่วยลดแรงกดดันทางสังคมต่อกลุ่ม LGBTQI+ และทำให้กล้าแสดงตัวตนออกในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ส่งเสริมความเท่าเทียมและความมั่นใจในตนเอง โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนสังกัด กทม. 4 โรงเรียนนำร่องเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ โรงเรียนชุมชนหมู่บ้านพัฒนา สำนักงานเขตคลองเตย โรงเรียนวัดพระยาสุเรนทร์ (บุญมีอนุกูล) สำนักงานเขตคลองสามวา โรงเรียนวัดลาดพร้าว สำนักงานเขตลาดพร้าว และโรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ สำนักงานเขตประเวศ นำเสนอผลงานกิจกรรมรณรงค์สร้างความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศท ทั้งในพื้นที่โรงเรียนและชุมชนของตนเอง ทั้งนี้ ได้วางแผนขยายผลการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศให้แก่โรงเรียนอื่น ๆ ในสังกัด กทม. ต่อไป ซึ่งจากการทดลองดำเนินโครงการที่ผ่านมานักเรียนกลุ่ม LGBTQ+ ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างปกติสุข และได้รับคัดเลือกเป็นนักเรียนแกนนำกลุ่มกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ทั้งระดับกรุงเทพมหานคร ระดับชาติ และนานาชาติ ได้รับรางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่นที่บำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมส่วนรวม ทั้งรางวัลประเภทบุคคลและกลุ่มเยาวชน รวมทั้งได้รับคัดเลือกให้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ทั้งระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในสายวิชาชีพ และระดับอุดมศึกษา ด้วยแฟ้มสะสมผลงาน Portfolio จิตอาสาเพื่อสังคม ในสาขาวิชาต่าง ๆ มากมาย พร้อมได้รับทุนการศึกษาต่ออีกด้วย
นอกจากนี้ กทม. ได้ประกาศเจตนารมณ์เป็นองค์กรที่ปลอดการคุกคามทางเพศ และต่อต้านการเหยียดบุคคลอันเนื่องมาจากความแตกต่างทางเพศ โดยโอบรับความหลากหลายทางเพศ สนับสนุนและส่งเสริมให้บุคลากรสามารถอยู่ร่วมกันได้ในสังคมพหุวิถี พร้อมทั้งยอมรับและเข้าใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ส่งเสริมให้ทุกคนเห็นในคุณค่าของตนเอง รวมทั้งเป็นหนึ่งในภาคีสำคัญร่วมแถลงข่าวเปิดโครงการพัฒนาแนวทางบูรณาการเรื่องการส่งเสริมสุขภาวะของเยาวชนหลากหลายทางเพศของโรงเรียนในสังกัด กทม. หรือ “โครงการลูกแก้ว” ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน ที่จัดโดยมูลนิธิ M PLUS มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาวะอย่างรอบด้านโดยเฉพาะบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศและเยาวชน โดยมีแนวทางการพัฒนากลไกแบบบูรณาการกับโรงเรียน หรือโครงการ TO BE NUMBER ONE ของโรงเรียน เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับโรงเรียนที่ร่วมโครงการได้นำเสนอรูปแบบการส่งเสริมสุขภาวะของเยาวชนหลากหลายทางเพศ อีกทั้งยังได้จัดนิทรรศการการศึกษาและผลงานนักเรียน “ลูกแก้วหลากสี บนวิถีความเข้าใจ” ภายใต้แนวคิดการโอบรับและเคารพความหลากหลาย โดยไม่เหยียดหยามและตีตรา อันเนื่องมาจากความแตกต่างทางเพศ โดยมีโรงเรียนวัดลาดพร้าว สำนักงานเขตลาดพร้าว เป็นแกนนำการจัดกิจกรรมเผยแพร่ผลงานในโครงการเด็กดี ศรี กทม. เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
นางสาวอรัญญา พรไชยะ หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (สกก.) กล่าวว่า กทม. มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและลดการเลือกปฏิบัติในสถานที่ทำงาน ผ่านมาตรการเชิงรุกหลายด้าน เพื่อสร้างสังคมการทำงานที่เป็นธรรมและปลอดภัยสำหรับทุกคน โดยออกประกาศและนโยบาย สนับสนุนความเสมอภาคทางเพศและป้องกันการเลือกปฏิบัติ เช่น นโยบายการไม่เลือกปฏิบัติทางเพศ การป้องกันการล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศในที่ทำงาน สร้างความตระหนักรู้โดยจัดอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ทุกระดับ รวมถึงสื่อสารภายในหน่วยงาน และดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ จัดสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนความเท่าเทียม โดยอนุญาตให้แต่งกายตามอัตลักษณ์ป้องกันการคุกคามทางเพศ และเปิดช่องทางร้องทุกข์ผ่านแอปพลิเคชัน Traffy Fondue รวมทั้งเปิดให้บริการคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย (BKK Pride Clinic) พร้อมทั้งทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เช่น การเข้าร่วมโครงการ Gender Equality Seal for Public Institution กับ UNDP และลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว มาตรการเหล่านี้ช่วยสร้างสถานที่ทำงานที่ปลอดภัย ลดการเลือกปฏิบัติทางเพศ และส่งเสริมสิทธิของทุกคนให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
