“SENA จะทำบ้านพลังงานเป็นศูนย์ (ZEH-Zero Energy Housing) เป็นคนแรก และมากที่สุดในประเทศ”
จากวันที่ไม่รู้ความหมายของ Sustainable เมื่อหลายปีก่อน เป็นจุดเริ่มต้น ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ออกเดินทางค้นหาความรู้จนได้หนังสือกว่า 20 เล่มที่มีหัวข้อเกี่ยวข้องมาค่อย ๆ พลิกอ่าน
จนสะดุดกับคำว่า….ในโลกใบนี้ สิ่งที่เป็น Carbon Emission หรือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการทำกิจกรรม กลับไม่ใช่เซคเตอร์ธุรกิจ เช่น โรงแรม และธุรกิจต่าง ๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นเซ็คเตอร์บ้านพักอาศัยที่เป็นแหล่งผลิตคาร์บอนมากถึง 60%
ลดคาร์บอนเริ่มต้นที่ ‘บ้าน’
ข้อมูลที่ได้จากหนังสือทำให้กลับมาคิดว่า “ถ้าเราเปลี่ยนอะไรในบ้านได้จริงก็มีผลต่อการลดคาร์บอนด้วยก็เริ่มจับจุดจากตรงนั้นแล้วศึกษาเพิ่มขึ้น จนได้ทำความรู้จักกับ Zero Energy Housing”
ปี 2559 เริ่มตัดสินใจเปิดตัว SENA Solar House โครงการหมู่บ้านโซลาร์รายแรกของประเทศไทยที่ เสนาพาร์ควิลล์ รามอินทรา – วงแหวน และเสนาวิลล์ บรมราช ชนนี – สาย 5 ทุกหลังติดตั้ง Solar Roof เปลี่ยนพลังงาน แสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ช่วยลดค่าไฟฟ้าภายในบ้าน ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม ติดตั้งแผงโซลาร์บริเวณดาดฟ้าอาคาร เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าไปใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง
‘เรื่องยาก’ ของคนที่ออกตัวก่อน
“ตอนนั้น มันยากจริง ๆ ติดโซลาร์ให้บ้านดูยังไงก็เพิ่มคอร์ส ผู้บริโภคใช่ว่าทุกคนอยากได้ เซลส์ก็ไม่อยากขาย คนถามเยอะก็ตอบไม่ได้อีก มองไปในตลาด ซ้ายขวา ก็ไม่มีคนทำ รู้สึกโดดเดี่ยวอยู่เหมือนกัน เคยคิดว่าจะทำดีมั้ย เพราะไม่มีใครคิดเหมือนเราเลย”
ที่ยากกว่านั้นอีกก็คือ SENA ซื้อโซล่าคนอื่น แล้วก็จ้างบริษัทมาติดตั้งที่ต้องการปริมาณ เพราะติดเป็นหลัง ๆ ไปจะทำให้มีต้นทุนและค่าใช้จ่าย ทำให้ตัดสินใจทำบริษัทโซลาร์เอง ในรูปแบบโซลาร์ ฟาร์ม มาทำงานส่วนนี้ และรับงานนอกด้วย
“คิดแค่ว่าทำอย่างไรให้เซลขายได้ มีทั้งยุ้ยอนิเมะไปยืนขาย และสื่อต่าง ๆ ที่ช่วยให้การขายเกิด จนตลาดเปิดรับ แล้วบริษัทโซลาร์ที่เราเทคมาก็รับงานนอกด้วย กลายเป็นอีกธุรกิจใหม่ที่สร้างขึ้น เรื่องดีก็คือ เทรนด์นี้มาไม่ได้ช้ามาก ทำให้การทำบ้านซีโร่ไม่ได้ยากเท่า”
ใส่ Active Design และ Passive Design ให้บ้าน
ปี 2566 SENA เริ่มสร้างบ้านด้วยแนวคิด “บ้านพลังงานเป็นศูนย์” (ZEH-Zero Energy Housing) ร่วมกับ Hankyu Hanshin Properties (HHP) แนวคิดของการทำให้บ้านมีการใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันที่น้อยลงจน “ใกล้” หรือ “เท่ากับศูนย์” ที่มีส่วนผสมของ 3 องค์ประกอบสำคัญ ทั้ง Active Design, Passive Design และพลังงานสะอาด
- Active Design การใส่ของเชิงวิศวกรรมให้กับบ้าน เช่น ติดตั้งกล้องที่มีเซนเซอร์ที่ทำงานกับระบบปรับอากาศ เซนเซอร์ตรวจจับจะทำให้รู้ว่าในขณะนั้นมีสมาชิก 5 คน ระดับความเย็นก็จะปรับให้เหมาะสม เช่นเดียวกันถ้าสมาชิกในห้องเหลือแค่คนเดียวอุณหภูมิก็จะปรับตามไปด้วย
- Passive Design ส่วนที่เป็นงานสถาปัตยกรรม เช่น การใส่ฉนวน หรือ หมวกให้บ้าน ช่วยระบายความร้อนสะสมใต้หลังคา
เมื่อสองอันนี้บวกกันแล้ว ใช้โซลาร์เซล พลังงานสะอาดเข้าไปด้วย ค่าไฟก็ถูกลง
“การทำบ้านซีโร่ เอนเนอจี้ ไม่ได้ยากเท่าตอนทำบ้านโซลาร์ เพราะเรามีฮันคิวเป็นพี่เลี้ยง ประสบการณ์การทำบ้านประหยัดพลังงานที่ญี่ปุ่น ทำได้จริง มีรัฐบาลกำหนด ใครไม่ทำมีค่าปรับ ใครทำได้เงินช่วยเหลือ สิ่งที่เราทำ ทุกหลังเป็น Zero energy เพียงแต่ยอมรับว่าทำไม่ได้มากเท่าญี่ปุ่น เพราะไม่มีใครช่วยเรา รัฐไม่ได้สนับสนุน”
ปัจจุบัน บ้าน SENA ลดการใช้พลังงานได้ไม่มากถึง 50% สำหรับบ้านหลังใหญ่ และ 20% ในบ้านหลังเล็ก แม้จะเป็นตัวเลขที่ยังไม่พอใจเท่าไหร่ เพราะ 20% ค่าไฟที่ลดลงแม้จะยังดูไม่มาก แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่เห็นความแตกต่าง
EV Charging เพิ่มความเก่งให้บ้าน
“ยังไงก็ต้องทำ ถ้าไม่เริ่มวิ่ง ก็อยู่กับที่ เราต้องเดินไปทางนี้ แค่วันนี้เดินได้เท่าไหร่ก็เดินไป โดยบ้านพลังงานเป็นศูนย์ เรียกว่าเป็น Next Generation ของบ้านโซลาร์ก็ว่าได้ และจากนี้จะมีที่ต้องทำอีกมากตามมา เช่น EV Charging Model”
ตัวอย่างที่ทำให้เห็นภาพการสร้างบ้าน SENA ในมุมที่ชัดมากขึ้น “การทำบ้านจัดสรรเหมือนตัดเสื้อ ที่ผ่านมาเราไม่ได้เผื่อว่าจะเอาเสื้อไปทำอะไรบ้าง แต่กลับมาคิดใหม่ ถ้าเราเอาเสื้อตัวนี้ไปผลิตไฟให้รถด้วย ผลิตไฟจากโซล่าเสียบชาร์ตเข้ารถ สายไฟในบ้านก็ต้องเปลี่ยนใหม่ วันนี้เริ่มทำไปแล้วกับบ้าน SENA และสิ่งที่ได้คือประหยัดมากขึ้น”
เริ่มต้นที่บ้าน วันนี้เรากำลังทำอะไรที่กว้างขี้นกว่านั้น คือการทำ Condo Low Carbon ให้สภาพแวดล้อมโครงการอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาทำได้เทียบเท่า 3,000-4,000 ต้นต่อปี
“ในมุมของความยั่งยืนวันนี้ในมุมของลูกค้าเราทำได้ดีกว่า ลูกค้าเข้าถึงและสัมผัสได้ ขณะที่ในมุมขององค์กรจะทำให้มากขึ้นในปีนี้ แต่ต้องไม่ทำให้รู้สึกว่าเค้าจะทำงานเพิ่มขึ้น ก็เป็นการเรียนรู้ขององค์กรที่ต้องทำไปไม่หยุด”
Sustainable Business ทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน
กว่า 40 บนเส้นทางธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ SENA ยึดแนวทางการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) โดยการรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ต่อจากนี้อีกความตั้งใจคือ ทำอย่างไรให้การเข้าถึงที่อยู่อาศัย และเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยให้มากขึ้น เพื่อขับเคลื่อน Vision สู่การเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือไว้วางใจสูงสุดในทุกช่วงชีวิตของลูกค้าเรา และ Mission มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้คนในสังคม โดยใช้ความเชี่ยวชาญ