หากใครเป็นแฟนตัวยง หรือติดตามแบรนด์นาฬิกาหรู Rolex มาตลอด จะรู้ว่าเอกลักษณ์และจุดเด่นหนึ่งของ Rolex คือ ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาคุณภาพของนาฬิกา พยายามรังสรรค์ตัวเรือนและเพิ่มกลไกที่แตกต่างไปจากเดิม เพื่อทำให้นาฬิกาแต่ละคอลเลกชันสามารถตอบโจทย์ผู้รักเรือนเวลาได้อย่างลงตัว พร้อมกับสร้างความประทับใจใหม่ๆ ให้กับคนรักนาฬิกาอยู่เสมอ เราจึงมักจะเห็นนาฬิกาแต่ละรุ่นมี Part II ออกมานั่นเอง อย่างคอลเลคชันสายปอร์ต เหมาะกับการผจญภัยเดินเรือ Rolex Yacht Master และ Rolex Yacht Master II ที่แม้จะนับว่าเป็นคอลชันเดียวกัน ใช้ชื่อเหมือนกัน แต่ Part II ที่ผลิตออกมาทีหลังนี้กลับถูกดีไซน์ให้แตกต่างจากเดิมไม่น้อยเลย
สำหรับใครที่สงสัยว่านาฬิกาทั้งสองรุ่นนี้แตกต่างกันอย่างไร และหากจะตัดสินใจซื้อนาฬิกาสายปอร์ตคอลเลคชันนี้ไปผจญภัยควรจะซื้อรุ่นไหนให้ตอบโจทย์มากที่สุด? ในบทความนี้มีคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว เพราะเราจะพาทุกคนไปค้นหาความแตกต่างของนาฬิกาสายสปอร์ต เดินเรือสุดหรู Rolex Yacht Master VS Rolex Yacht Master II ไปค้นหาคำตอบพร้อมกันเลย
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
Toggleระยะเวลาและวัตถุประสงค์ในการรังสรรค์ของ Rolex Yacht Master VS Rolex Yacht Master II
นาฬิการุ่น Rolex Yacht Master และ Rolex Yacht Master II เป็นนาฬิกาสายสปอร์ตที่ดีไซน์ขึ้นมาเพื่อการผจญภัย โดยเฉพาะการเดินเรือ โดย Rolex Yacht Master คอลเลกชันแรกที่เปิดตัวในปี 1992 เป็นการผสานการทำงานและฟังก์ชันของนาฬิกาให้เข้ากับการเดินเรือ เหมาะกับการเดินเรือทั่วๆ ไป ในขณะที่ Rolex Yacht Master II เปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 ห่างกันถึง 15 ปี ซึ่งพัฒนาและมีวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างจากรุ่นเดิม คือ มีระบบรีเก็ตตาโครโนกราฟ (Regatta Chronograph) นาฬิกาจับเวลาที่สร้างขึ้นมาสำหรับการแข่งขันเรือยอช์ตโดยเฉพาะ
ฟังก์ชันของ Rolex Yacht Master VS Rolex Yacht Master II
อย่างที่เราบอกไปว่า Rolex Yacht Master และ Rolex Yacht Master II เป็นนาฬิกาสายสปอร์ตที่ดีไซน์ขึ้นมาเพื่อการเดินเรือ ฟังก์ชันหรือกลไกหลักๆ จึงมีความเหมือนกัน คือ มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมการผจญภัยขณะอยู่ท่ามกลางท้องทะเล หน้าปัดกว้างอ่านค่าเวลาได้ง่าย แต่จุดแตกต่างคือฟังก์ชันที่เสริมเข้ามาใหม่ของ Rolex Yacht Master II เพื่อให้ตอบโจทย์การแข่งขันเรือยอช์ตโดยเฉพาะนั่นเอง โดยฟังก์ชันแต่ละส่วนของทั้ง 2 รุ่นที่เหมือนและแตกต่างกันจะมีตามนี้เลย
ฟังก์ชันของ Rolex Yacht Master และ Rolex Yacht Master II ที่เหมือนกัน
● ขอบหน้าปัด Cerachrom เพื่อความทนทานต่อสภาพแวดล้อม
Rolex Yacht Master และ Rolex Yacht Master II จะมีขอบหน้าปัดแสดงเวลา 60 นาทีแบบหมุนได้สองทิศทาง และติดตั้งด้วยขอบหน้าปัด Cerachrom จากเซรามิกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง สามารถป้องกันรอยขีดข่วนและไม่เปลี่ยนสภาพได้ง่ายๆ แม้เจอกับสภาพอากาศที่แปรปรวนระหว่างการเดินเรือ เช่น รังสีอัลตราไวโอเลต น้ำทะเล หรือแม้แต่สารเคมีต่างๆ อย่างคลอรีนก็ตาม
● หน้าปัดบอกเวลา
Rolex Yacht Master และ Rolex Yacht Master II มีหน้าปัดโครมาไลท์ที่ช่วยให้อ่านเวลาได้ง่ายในทุกๆ สภาพแวดล้อม โดยเฉพาะในที่มืด เข็มนาฬิกาจะมีขนาดกว้างและเครื่องหมายบอกชั่วโมง และมีสัญลักษณ์รูปทรงต่างๆ ได้แก่ รูปสามเหลี่ยมที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และรูปสี่เหลี่ยมที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา โดยจะได้รับการตกแต่งด้วยสารเรืองแสงที่ปล่อยแสงสีฟ้าสว่างติดต่อกัน แม้ว่าจะเดินเรือในตอนกลางคืนหรือในขณะที่ฝนฟ้าคะนอง เหล่านักผจญภัยเดินเรือก็สามารถมองเห็นเวลาได้ชัดเจน
ฟังก์ชันของ Rolex Yacht Master และ Rolex Yacht Master II ที่ต่างกัน
● ระบบ Ring Command สำหรับการแข่งขันเดินเรือ
โดยทั่วไปแล้วส่วนของขอบหน้าปัด Rolex จะทำงานเป็นอิสระจากกลไกภายใน แต่ฟังก์ชันนี้เป็นฟังก์ชันที่โดดเด่นของ Rolex Yacht Master II ที่ทำให้แตกต่างจาก Rolex Yacht Master โดยมี Ring Command ซึ่งเป็นระบบการทำงานร่วมกับรีเก็ตตาโครโนกราฟ (Regatta Chronograph) ซึ่งมีหน้าที่ในการจับเวลาถอยหลัง ช่วยปรับการตั้งค่า พร้อมส่งสัญญาณเตือนในขณะที่เริ่มต้นแข่งขันเรือ ยอช์ตได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถจับเวลาได้ถึง 10 นาที ตัวขอบหน้าปัดที่ถูกตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียมและมีระบบ Ring Command จึงถือเป็นความงดงามที่สามารถนำไปใช้ได้จริง
● คาลิเบอร์ 4161 กลไกการทำงานที่เหนือชั้น
และอีกหนึ่งฟังก์ชันที่แตกต่างกัน คือ Rolex Yacht Master II ประกอบด้วยกลไกการทำงานคาลิเบอร์ 4161 หรือโครโนกราฟกลไกไขลานที่มีระบบขึ้นลานอัตโนมัติ นวัตกรรมใหม่ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ Rolex ที่เดียว ทั้งระบบนับเวลาถอยหลังที่มาพร้อมกับระบบคำนวณการทำงานของจักรรวม และชิ้นส่วนอีก 360 ชิ้นส่วนสำคัญขนาดเล็ก ที่ผลิตจาก UV-LiGA ผู้ชำนาญทาง Rolex โดยเฉพาะ ทำให้นาฬิการุ่นนี้มีความเที่ยงตรงและแม่นยำเหมาะกับใช้ในการแข่งขันเรือยอช์ตเป็นพิเศษนั่นเอง
ขนาดหน้าปัดของ Rolex Yacht Master VS Rolex Yacht Master II
การใส่นาฬิกาสักเรือนเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งาน และเข้ากับลุคในแต่ละวัน ไม่ว่าจะลุคไปทำงาน หรือลุคออกไปผจญภัย ทำ Aativity ต่างๆ ขนาดหน้าปัด ไซซ์ต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อหรือสวมใส่ บางคนชอบขนาดเล็กๆ ดูมินิมอลเรียบหรู บางคนชอบขนาดใหญ่ๆ เพื่อให้มองเห็นเวลาได้ชัดเจน เสริมความโดดเด่นให้กับลุค ซึ่ง Rolex Yacht Master และ Rolex Yacht Master II ก็ถูกดีไซน์ให้มีขนาดหน้าปัดที่แตกต่างกัน โดย Rolex Yacht Master มีหน้าปัดให้เลือกหลายขนาดได้แก่ 37 40 ไปจนถึง 42 มม. และมีวัสดุที่ใช้ประกอบตัวเรือนให้เลือกหลากหลาย เช่นทองคำ ทองคำขาว Oystersteel และเอเวอร์โรสโกลด์ ในขณะที่ Rolex Yacht Master II มีหน้าปัดเพียงขนาดเดียว คือ 44 มม. ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่มาก เพราะผลิตขึ้นมาตอบโจทย์การใช้งานอย่างการแข่งขันเรือยอช์ตโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะใช้ในการจับเวลา หรือเช็กเวลาขณะแข่งขันได้อย่างแม่นยำนั่นเอง ในส่วนของวัสดุที่ใช้ประกอบตัวเรือนมีให้เลือกหลากหลายเช่นเดียวกันกับ Rolex Yacht Master รุ่นแรก
เป็นอย่างไรกันบ้างกับความเหมือนและความแตกต่างของ Rolex Yacht Master และ Rolex Yacht Master II ที่เรานำมาฝากทุกคน จะเห็นได้ว่าคอลเลกชันที่ผลิตขึ้นมาเพื่อนักผจญภัยเดินเรือทั้งสองรุ่นนี้มีฟังก์ชันที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมการเดินเรือ ทำให้สามารถดูเวลาได้ชัดเจนไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบใดก็ตาม แต่จุดแตกต่างกันคือ Rolex Yacht Master II ที่ผลิตออกมาทีหลัง จะเน้นไปที่การตอบโจทย์ใช้งานเพื่อการแข่งขันเรือยอช์ตโดยเฉพาะ จึงมีฟังก์ชันเสริมเพิ่มเติมขึ้นมาคือ ระบบ Ring Command และคาลิเบอร์ 4161 ที่เป็นนาฬิกาจับเวลาเมื่อเริ่มการแข่งขันนั่นเอง นอกจากนี้ขนาดหน้าปัดทั้งสองรุ่นยังมีความต่างกัน คือ Rolex Yacht Master มีขนาดหน้าปัดให้เลือกสามขนาด และเล็กกว่า Rolex Yacht Master II ที่มีเพียงขนาดเดียวแต่ขนาดใหญ่ถึง 44 มม. ซึ่งสายผจญภัยเดินเรือก็สามารถเลือกได้ตามความชื่นชอบและวัตถุประสงค์การใช้งานได้เลย
ส่วนใครที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมและอยากได้นาฬิกาสายปอร์ตสุดหรู ไว้เป็นผู้ช่วยท่องไปในท้องทะเลล่ะก็ ที่ ไทม์ ไมดาส (Time Midas) ตัวแทนจำหน่ายโรเล็กซ์อย่างเป็นทางการในประเทศไทยมี Rolex Yacht Master และ Rolex Yacht Master II คอลเลกชันยอดฮิตให้คุณได้จับจอง โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ Time Midas หรือจะเลือกซื้อผ่านโรเล็กซ์ บูติก ไทม์ ไมดาสได้เลยทุกสาขา เราพร้อมให้คำปรึกษาและบริการในทุกขั้นตอนการเลือกซื้อ รับประกันคุณภาพและความประทับใจแน่นอน