ใครว่าย้ายบ้านเป็นเรื่องง่ายๆ จัดการด้วยตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยได้ภายใน 2-3 วัน ไม่จำเป็นต้องพึ่งหน่วยบริการรับย้ายบ้านให้สิ้นเปลืองเงินเพิ่มแต่อย่างใด รับประกันได้ว่าคนๆ นั้นไม่เคยย้ายบ้านมาก่อน เพราะความจริงแล้วเราไม่ได้ทำงานแค่ในส่วนการขนย้ายข้าวของ แต่มันยังมีบางอย่างที่ต้องรื้อถอนหรือถอดชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ ไหนจะต้องดูแลเรื่องเอกสารในทางกฎหมายอีกด้วย แค่นี้ก็คงพอเห็นภาพแล้วว่าความยุ่งยากในการย้ายบ้านนั้นหนักหนาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
เราลองมาดูกันก่อนว่าถ้าคิดจะย้ายบ้านด้วยตัวเอง และไม่ใช้บริการรับย้ายบ้านเลยตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เราจะต้องจัดการกับเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งต่อไปนี้ก็จะเป็นขั้นตอนแบบคร่าวๆ ที่จะทำให้การย้ายบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด
- วางแผนพร้อมกำหนดวันก่อนการย้ายบ้าน
อย่างแรกต้องรู้ว่าเรามีเวลาเท่าไรในการทำงานทั้งหมด ยิ่งมีเวลาน้อย ภาระงานที่ต้องทำในแต่ละวันก็ยิ่งมีมาก ถ้าเป็นบ้านที่อยู่มานาน ข้าวของเครื่องใช้มีจำนวนมาก ก็จะต้องคิดเผื่อเอาไว้ด้วยว่าน่าจะใช้เวลาในการแพ็คเพื่อเตรียมขนย้ายประมาณเท่าไร จำเป็นจะต้องหาใครมาช่วยหรือไม่ - ดำเนินงานทางด้านกฎหมาย
ยังไม่ต้องไปกังวลกับการขนย้าย แต่ให้จัดการติดต่อหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนเสียก่อน ไล่ไปตั้งแต่การแจ้งเปลี่ยนที่อยู่อาศัย หากมีชื่อในทะเบียนบ้านก็พิจารณาดูว่าต้องการจะย้ายหรือไม่ มิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟ ตลอดจนหนี้สินคงค้างต่างๆ ก็สะสางให้เรียบร้อย เหตุผลที่ต้องทำเรื่องนี้ก่อนก็เพราะว่าเราอาจจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำตามระบบระเบียบของเขาอีกระยะหนึ่ง หรือถ้ามีการแก้ไขอะไรก็จะทำได้สะดวกกว่าตอนที่เราย้ายบ้านเรียบร้อยแล้ว - เก็บของทั้งหมดเพื่อรอการขนย้าย
หากเราไม่ใช้บริการรับย้ายบ้านก็ต้องหาช่างมาช่วยรื้อเฟอร์นิเจอร์และงานติดตั้งตู้หรือชั้นต่างๆ พร้อมเก็บแพ็คให้เรียบร้อย ส่วนข้าวของชิ้นอื่นๆ เราก็แยกหมวดหมู่แล้วใส่ลงกล่องเดียวกัน แนะนำว่าให้เลือกใช้กล่องแพ็คของที่มีขนาดเท่าๆ กันทั้งหมดสำหรับของจิปาถะมันจะช่วยให้ขนย้ายง่ายกว่า ที่เหลือก็แค่รอเวลาให้ถึงวันขนย้ายเท่านั้น
ถ้าสังเกตให้ดีก็จะเห็นว่าคนส่วนใหญ่นิยมเรียกใช้ผู้ให้บริการรับย้ายบ้านด้วยกันทั้งนั้น นั่นก็เพราะมันสะดวก รวดเร็วและมีความปลอดภัยในทรัพย์สินมากกว่า ส่วนเราก็เอาเวลาไปจัดการกับเอกสารและข้อกำหนดเรื่องกรรมสิทธิ์ต่างๆ แทน เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาและไม่อยากวุ่นวายกับการดูแลทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง ซึ่งเดี๋ยวนี้เราสามารถเลือกได้ด้วยว่าอยากได้รับบริการในส่วนไหนบ้าง ดังนี้
- ขนย้ายเพียงอย่างเดียว ก็จะเหมือนกับการจ้างรถมาขนของไปนั่นเอง โดยทางเราจะต้องแจ้งไปก่อนว่ามีอะไรบ้างที่ต้องการขนย้าย เพื่อให้เจ้าหน้าที่เสนอประเภทของรถที่เหมาะกับการใช้งานของเรามาให้ หากตกลงก็แค่จัดการแพ็คของแล้วรอให้ถึงกำหนดวันนัดหมายเท่านั้น
- แพ็คของพร้อมขนย้าย บริการแบบนี้มีข้อดีตรงนี้ทีมงานจะมีอุปกรณ์การแพ็คมาให้ ซึ่งมันสามารถป้องกันความเสียหายได้ดีกว่าเราแพ็คเองอย่างแน่นอน และด้วยประสบการณ์ทำงานผู้ให้บริการรับย้ายบ้านจึงจัดระเบียบของได้ดีกว่าด้วย
- ดูแลแบบครบวงจร คือมีทีมงานถอดชิ้นส่วนของเฟอร์นิเจอร์ ทำการแพ็คให้เรียบร้อยพร้อมกับขนย้ายให้ด้วย เราก็แค่แจ้งความประสงค์ว่าต้องการทำอะไรบ้าง แล้วก็คอยดูอยู่ห่างๆ ก็พอแล้ว
แม้ว่าในภาพรวมการใช้บริการรับย้ายบ้านจะดูสะดวกสบายและเหมือนมีข้อได้เปรียบการย้ายเองอยู่หลายอย่าง แต่ไม่มีทางที่ทางเลือกไหนจะมีแต่ข้อดีเพียงอย่างเดียว ลองดูการเปรียบเทีียบในประเด็นต่างๆ ต่อไปนี้
- ความสะดวกรวดเร็ว จุดนี้ต้องยกให้กับทีมงานที่ให้บริการย้ายบ้าน ด้วยความเชี่ยวชาญพวกเขาจะรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง เฟอร์นิเจอร์และข้าวของเครื่องใช้แต่ละประเภทจะต้องจัดการอย่างไร แถมอุปกรณ์สำหรับทำงานก็พร้อมกว่าเรา ที่ทั้งชีวิตย้ายบ้านเพียงแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น
- ค่าใช้จ่าย แน่นอนว่าย้ายบ้านด้วยตัวเองต้องประหยัดกว่าอยู่แล้ว แถมยังประหยัดกว่าค่อนข้างมากด้วย ในขณะที่การใช้บริการทีมงานรับย้ายบ้านจะมีราคาตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง แล้วแต่คุณภาพและรูปแบบบริการที่เราเลือก
- ความปลอดภัยของทรัพย์สินที่ขนย้าย ข้อนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หากขนย้ายเองแต่ไม่ทำการแพ็คให้เรียบร้อยก็มีโอกาสที่ของจะเสียหายได้ ส่วนการจ้างทีมขนย้าย ถ้าเป็นทีมที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพก็สุ่มเสี่ยงที่จะดูแลของให้เราไม่ดี อาจสูญหายหรือแตกหักได้เหมือนกัน
เมื่อถึงคราวต้องย้ายบ้าน อย่าฟังเพียงแค่คำแนะนำจากคนอื่นว่าย้ายเองหรือใช้บริการรับย้ายบ้านแบบไหนดีกว่ากัน เพราะคนที่จะตอบได้ว่าอะไรเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดคือเราเอง ให้ค่อยๆ พิจารณาเลือกจากปัจจัยเหล่านี้
- ปริมาณของที่ต้องขนย้าย ถ้ามีข้าวของเครื่องใช้มาก การปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทีมงานขนย้ายจะง่ายมากกว่า หรือถ้าอยากจะทำเองก็ต้องแน่ใจว่ามีเวลามากพอที่จะจัดระเบียบสิ่งของทั้งหมดได้
- ขนาดของที่ต้องขนย้าย ถ้าในบ้านมีของไม่กี่ช้ินแต่ดันมีขนาดใหญ่ทั้งหมด แบบนี้ยังไงก็ต้องมีคนมาช่วย ทั้งงานถอดประกอบ ทั้งงานแพ็คและการเคลื่อนย้าย เรียกใช้บริการขนย้ายบ้านทีเดียวจบไปเลย
- ระยะทางในการขนย้าย สิ่งหนึ่งที่หลายคนมักจะทำพลาดก็คือ เสียดายเงินที่ต้องจ่ายเพื่อจ้างคนมาขนย้ายให้ แต่ตัวเองก็ไม่ได้มีรถใหญ่ ทำให้ต้องขนกันหลายเที่ยว เบ็ดเสร็จแล้วค่าน้ำมันกับค่าเสื่อมสภาพของรถอาจจะแพงกว่าราคาที่ต้องจ่ายให้ทีมขนย้ายเสียอีก ดังนั้นถ้าระยะทางไกลมากหรือต้องขนหลายเที่ยวจนเกินไป อย่างน้อยก็จ้างรถมาขนดีกว่า
- ระยะเวลา ในที่นี้หมายถึงตั้งแต่วันที่เริ่มวางแผนไปจนถึงวันที่ต้องขนทุกอย่างให้เสร็จ มันมีเวลามากน้อยแค่ไหน ถ้ามีมากจะย้ายเองก็ย่อมได้ แต่ถ้าเวลาจำกัดก็หาคนมาช่วยให้เร็วขึ้น
หลังคิดจากปัจจัยทั้งหมดแล้ว เราก็จะได้ข้อสรุปเองว่าบ้านของเราควรจะใช้วิธีย้ายแบบไหนดี มันไม่มีรูปแบบตายตัวเลย อาจจะเป็นการผสมผสานระหว่างย้ายเองกับจ้างทีมขนย้ายก็ยังได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรมันจะตอบโจทย์ความต้องการของเราอย่างแน่นอน