ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ กับการตั้งใจดีในการพัฒนาศักยภาพบุคลากร รุกนโยบายต่อยอดทักษะรอบด้านแก่พนักงานทุกระดับ เพื่อก่อประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า องค์กร และบุคลากร โดยเชื่อมั่นว่าหากองค์กรมีบุคลากรที่เต็มเปี่ยมด้านศักยภาพจะทำให้สามารถผ่านพ้นความท้าทายทางเศรษฐกิจไปได้อย่างดี
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เดินหน้านโยบายและแผนพัฒนาศักยภาพบุคลากรในส่วนงานต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักการดำเนินงานใน 3 ด้าน ประกอบด้วย การประเมินความต้องการในการพัฒนา, การกำหนดกลยุทธ์และเป้าหมายในการพัฒนา และการออกแบบและวางแผนโปรแกรมการพัฒนาอย่างเหมาะสมและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมุ่งเน้นพัฒนาทั้งทักษะด้าน hard skills และ soft skills ควบคู่กันไปอย่างเต็มที่
“ในมุมมองของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ บุคลากรที่มีศักยภาพถือเป็นขุมพลังอันทรงคุณค่าและจะนำพาองค์กรให้พร้อมในการแข่งขันเสมอซึ่งสำคัญมากในสภาวการณ์ปัจจุบัน” นายชูรัชฏ์กล่าวถึงความสำคัญของบุคลากร “แนวทางที่เราใช้พัฒนาบุคลากร จะครอบคลุม 7 ด้าน ประกอบด้วย การปรับตัวและความยืดหยุ่น (Adaptability and Flexibility) บุคลากรต้องพร้อมที่จะปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีความยืดหยุ่นในหน้าที่การงาน และสามารถทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) บุคลากรที่มีความคิดสร้างสรรค์จะสามารถคิดค้นแนวทางใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหา และนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน การเรียนรู้ตลอดเวลา (Continuous Learning) บุคลากรควรมีความกระหายในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ใหม่ๆ ที่จำเป็นต่อการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทักษะการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน (Communication and Collaboration Skills) การสื่อสารและการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า ความเป็นผู้นำและการตัดสินใจ (Leadership and Decision-Making) บุคลากรที่สามารถนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จ มีทักษะการตัดสินใจที่ดี และสามารถรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของการตัดสินใจของตนเอง ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (Technological Competence) การเข้าใจและใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และรักษาความสามารถในการแข่งขันขององค์กร และการรับผิดชอบต่อสังคมและจริยธรรม (Social Responsibility and Ethics) บุคลากรควรมีจิตสำนึกในเรื่องของความรับผิดชอบต่อสังคม และปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตคุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้บุคลากรมีความพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่เข้มข้น และขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โดยล่าสุด ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้จัดโปรแกรมการพัฒนาบุคลากรภายใต้ชื่อ “Training Branch Program” เพื่อเสริมศักยภาพในส่วนงานพัฒนาโครงการ เป็นการฝึกอบรมเฉพาะด้านที่มุ่งเน้นการฝึกอบรมที่ครอบคลุมกระบวนการการพัฒนาโครงการ เพื่อให้พนักงานได้มีโอกาสฝึกฝนและพัฒนาตนเอง รวมถึงได้มีการจัดฝึกอบรมในพื้นที่โครงการเพื่อให้พนักงานได้พัฒนาวิสัยทัศน์ ทักษะ และองค์ความรู้จากประสบการณ์จริงของตนเอง ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวจะช่วยพัฒนาทักษะ และความรู้ของพนักงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้เตรียมความพร้อมสู่ความก้าวหน้าในสายงานพัฒนาโครงการ และเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น “Training Branch Program เป็นแบบแผนการพัฒนาที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งองค์กร บุคลากร และลูกค้า ประโยชน์ต่อองค์กรนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงาน สามารถสร้างทีมงานที่มีคุณภาพและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้ ด้านประโยชน์ต่อบุคลากรนั้น จะช่วยเพิ่มทักษะและความรู้ที่จำเป็นในการทำงาน ทั้งยังเพิ่มความมั่นใจและความพึงพอใจในงานที่ทำ รวมทั้งช่วยลดความเครียดจากการขาดความรู้หรือทักษะที่จำเป็นทำให้บุคลากรเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ เพราะการพัฒนาศักยภาพบุคลากรนั้น จะทำให้องค์กรส่งมอบงานบริการที่มีคุณภาพในแบบมืออาชีพ เพิ่มความพึงพอใจและความไว้วางใจในองค์กร และช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีในการรับบริการ ซึ่งการพัฒนาโปรแกรมฝึกอบรมที่มีคุณภาพจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะไม่เพียงแต่พนักงานจะได้รับประโยชน์โดยตรง องค์กรและลูกค้าก็จะได้รับผลดีจากการมีพนักงานที่มีทักษะสูงและพร้อมตอบสนองความต้องการต่างๆ อย่างมืออาชีพด้วยเช่นกัน” นายชูรัชฏ์ กล่าวเสริม
“ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ตั้งเป้าการต่อยอดกลยุทธ์สำหรับพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เข้มข้นขึ้นในทุกๆ ปี ทั้งในด้านการพัฒนาทักษะทางดิจิทัลและเทคโนโลยี ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันเพราะส่งผลต่อทั้งการพัฒนาทักษะส่วนตนและนำมาต่อยอดในกระบวนการการทำงานได้กว้างและรวดเร็วยิ่งขึ้น หากนำมาใช้ในส่วนงานบริการก็จะยิ่งทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น การสร้างโปรแกรมฝึกอบรมเฉพาะทางเพื่อให้เกิดทักษะองค์ความรู้เฉพาะด้านเพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดสู่มือผู้บริโภค การจัดทำโปรแกรมพัฒนาผู้นำ เพื่อเพิ่มคุณค่า หลักการบริหารงาน การทำงานเป็นทีม สามารถถ่ายทอด LALIN DNA จากรุ่นสู่รุ่นเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน และการใช้เทคโนโลยีในการประเมินผลการทำงาน ซึ่งการประเมินผลถือเป็นสิ่งที่สำคัญสูงสุด เพื่อนำกลับมาพัฒนา ปรับปรุง และต่อยอดให้กระบวนการทำงานเกิดประสิทธิผลสูงสุดอยู่เสมอ ทั้งหมดนี้คือนโยบายหลักที่เรามุ่งเน้นและเห็นความสำคัญอย่างมาก” นายชูรัชฏ์ กล่าวสรุป