เป็นเรื่องธรรมดาของทุกคนที่อยากให้บ้านของตัวเองดูสวยงามตามสไตล์ที่ชอบ แต่หากเราขาดการวางแผนในการสร้างบ้านไว้ตั้งแต่เริ่มต้น ก็อาจจะส่งผลทำให้จัดการตกแต่งเพิ่มเติมในภายหลังได้ยาก ในบทความนี้เราจึงได้รวบรวม 7 ข้อห้ามที่ควรรู้ และวิธีการแก้ปัญหาหลังจากที่สร้างบ้านเสร็จเรียบร้อย แล้วอยากที่ทำการตกแต่งเพิ่มเติมภายหลัง จะมีวิธีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่า
1. ไม่มีสวน
บ้านที่ไม่มีสวนนั้นเป็นปัญหาตั้งแต่การออกแบบการจัดการบริเวณบ้าน และที่ดิน ถึงแม้ว่าบ้านจะใหญ่โตสวยงาม แต่ถ้าตั้งอยู่บนพื้นดินที่ดูแห้งแล้ว บ้านจะถูกลดความสวยงามไปมากทีเดียว แต่ในทางกลับกัน บ้านเล็กๆ ที่มีการจัดการบริเวณสวนที่สวยงามนั้น ก็จะทำให้ดูเป็นบ้านที่สวยงามน่าอยู่ขึ้นมาได้ แต่ในเรื่องนี้ยังพอมีวิธีการปรับแก้ โดยการจัดการพื้นดินหน้าบ้าน และรอบๆ บ้านให้มีพื้นที่สีเขียว เช่น ปลูกหญ้าให้ดูเขียวชอุ่ม นำกระถางต้นไม้มาวางเพิ่มเติม เป็นต้น นอกจากจะทำให้บริเวณบ้านมีความสวยงาม ร่มรื่นแล้ว ยังสามารถลดอุณหภูมิของตัวบ้านได้อีกด้วย
2. ไม่จบตามการออกแบบ
การแต่งบ้านเป็นเรื่องที่สนุก และท้าทาย ในหลายๆ ครั้ง เราเลือกที่จะตกแต่งบ้านไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงความสวยงามตามแบบเดิมที่ผู้ออกแบบได้คิดเอาไว้ โดยสิ่งที่ควรจบตามการออกแบบนั้นมีหลายส่วน เช่น พื้นที่ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ ติดตั้งแอร์ ติดตั้งปลั๊กไฟ เดินสายไฟ พื้นที่เคาน์เตอร์ห้องครัว พื้นที่ตากผ้า ตำแหน่งจอดรถ หรือโรงจอดรถ เป็นต้น ลองคิดดูว่าถ้าเราไม่ได้เตรียมการ หรือวางแผนสิ่งเหล่านี้ไว้ก่อน ก็อาจเกิดปัญหา ทำให้ความสวยงามของบ้านลดลง และเป็นการเพิ่มงบประมาณในการสร้างบ้านอีกด้วย
3. เชื่อฮวงจุ้ย
ในปัจจุบันหลายคนนิยมใช้หลักฮวงจุ้ยในการออกแบบ และจัดบ้านมาก จนทำให้ไม่คำนึงถึงความสวยงามของตัวบ้าน และบริเวณบ้าน บางครั้งถึงขนาดที่ว่าต้องรื้อแบบบ้านเพื่อปรับตามฮวงจุ้ย ซึ่งนั่นอาจมีผลกระทบต่อความสวยงาม และประโยชน์ใช้สอยในบ้านได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ เราควรจะคิดวางแผน ทำให้บ้านของเรามี พื้นที่การใช้สอย ความสะดวกสบาย ความสวยงาม และรวมไปถึงศาสตร์ความเชื่อ ให้เป็นไปในทางที่สอดคล้องกัน และสามารถนำมาประยุกต์ตามความเหมาะสมต่างๆ ได้นั่นเอง
4. ออกแบบไว้เพื่อโชว์
ปัจจุบันครัวในบ้านมักถูกออกแบบเป็นครัวฝรั่งขนาดเล็ก ซึ่งมีความสวยงาม หรูหราแก่สายตาแขก ผู้มาเยือน แต่สุดท้ายแล้วห้องครัวแบบนี้อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานจริงๆ ของครอบครัว หรือผู้อยู่อาศัยหลีกเลี่ยงที่จะใช้งานเพราะกลัวเลอะเทอะ เก่า และไม่สวยงาม ส่วนครัวที่ใช้จริงเป็นครัวไทยที่ใช้พื้นที่หลังบ้าน แบบนี้จะทำให้ไม่สามารถใช้สอยพื้นที่ในบ้านได้เต็มที่ ดังนั้นเราควรคำนึงถึงการใช้งานของครอบครัวเป็นหลัก
5. การออกแบบที่ไม่กลมกลืน
ยกตัวอย่างบ้านที่ต่างประเทศ การออกแบบจะมีการคำนึงถึงความกลมกลืน ทั้งสีสัน รูปแบบของบ้าน ที่กลมกลืนเข้ากับบ้านหลังอื่นๆ และสภาพแวดล้อมบริเวณบ้านในละแวกใกล้เคียง แต่สำหรับบ้านในประเทศไทยยังมีการออกแบบตามใจ หรือตามฮวงจุ้ย ซึ่งทำให้ดูไม่สวยงามได้ เพราะฉะนั้นควรคำนึงถึงเรื่องการออกแบบภายใน กับภายนอกของบ้านให้กลมกลืนกัน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้บ้านของเราดูดีมีสไตล์แล้วค่ะ
6. บ้านที่สร้างอย่างผิดกฏหมาย
การออกแบบบ้านที่ขัดกับหลักกฎหมายนั้นจริงๆ แล้วไม่คววรเกิดขึ้นเลยตั้งแต่แรก เพราะผู้ออกแบบต้องรู้ข้อกำหนดกฏหมายการควบคุมอาคารจัดทำขึ้นมา เพื่อให้ผู้อาศัยสามารถวางใจว่าจะไม่เกิดอันตราย และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในบริเวณใกล้เคียงได้ ปัญหาที่พบได้บ่อยๆ คือ การต่อเติมบริเวณบ้าน หรือห้องครัวไปชิดกำแพงของเพื่อนบ้าน โดยที่เพื่อนบ้านไม่ทราบ ไม่อนุญาต รวมไปถึงการทำรั้วสูงเกิน 3 เมตร หรือสร้างทางเข้าที่จอดรถยื่นออกมานอกถนน ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากสร้างปัญหาให้เพื่อนบ้านแล้ว ยังทำให้บ้านดูไม่สวยงาม และอึดอัดตาอีกด้วยค่ะ
7. ปล่อยให้บ้านรก
เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ของหลายๆ บ้าน และแก้ไขได้ยาก ยิ่งมีจำนวนสมาชิกคนในบ้านมาก ก็จะยิ่งควบคุมดูแลได้ยากตามไปอีก วิธีการแก้ปัญหานี้ คือ ควรออกแบบห้องเอาไว้สำหรับเก็บของ แต่ถ้าปัญหานี้เกิดหลังจากย้ายเข้าอยู่อาศัยแล้ว แนะนำให้ทำการโละของที่ไม่ได้ใช้ หรือไม่จำเป็นออกเป็นระยะๆ ก็จะทำให้บ้านของเราดูไม่รกจนเกินไป
ทั้ง 7 ข้อเหล่านี้เป็นข้อที่ต้องคำนึงถึงในการออกแบบ การดูแลรักษาบ้านให้มีความสวยงาม ปลอดภัย และความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัย เพราะฉะนั้นผู้อ่านทุกท่านสามารถเลือกนำไปใช้ได้ตามความเหมาะสม และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ