ยุงเป็นแมลงตัวร้ายที่มาพร้อมกับอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย นอกจากจะน่ารำคาญแล้ว ยังเป็นพาหะนำโรคร้ายแรงหลายชนิด เช่น ไข้เลือดออก ไข้มาลาเรีย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา หลายคนจึงหันมาใช้สเปรย์หรือยากันยุงที่มีสารเคมี แต่การใช้สารเคมีเป็นประจำอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าคือการใช้สมุนไพรไล่ยุง ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันยุงได้ดีไม่แพ้สารเคมี แถมยังปลอดภัยต่อผู้ใช้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย มาดูกันว่ามีสมุนไพรชนิดใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ไล่ยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมควรเลือกใช้สมุนไพรไล่ยุงแทนสารเคมี?
การใช้สมุนไพรไล่ยุงมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี แม้ว่าระยะเวลาในการป้องกันยุงของสมุนไพรอาจจะสั้นกว่า โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่ข้อดีคือคุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ สมุนไพรหลายชนิดยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น ช่วยให้ผ่อนคลาย หายใจสะดวก ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น และบรรเทาอาการปวดและอักเสบจากการถูกยุงและแมลงกัดต่อย
สมุนไพรที่ใช้ไล่ยุงส่วนใหญ่มีน้ำมันหอมระเหยเป็นสารสำคัญ ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ยุงไม่ชอบ ทำให้สามารถไล่ยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีอันตราย ที่สำคัญ สมุนไพรเหล่านี้หาได้ง่ายตามครัวเรือนทั่วไป ราคาไม่แพง และสามารถนำมาปลูกไว้รอบๆ บ้านเพื่อช่วยไล่ยุงได้อีกด้วย

ตะไคร้หอม: สมุนไพรไล่ยุงอันดับหนึ่งที่ทั่วโลกยอมรับ
ตะไคร้หอมเป็นสมุนไพรไล่ยุงที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุดชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นพืชตระกูลหญ้าที่มีกลิ่นเฉพาะตัว เหง้าอยู่ใต้ดิน ลำต้นแตกเป็นกอ ใบยาว สาก หนา และคม ในตะไคร้หอมมีน้ำมันหอมระเหยที่มีสารสำคัญหลายชนิด ได้แก่ Citronella, Citronellol และ Geraniol ซึ่งเป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการไล่ยุงลายได้เป็นอย่างดี
วิธีการใช้ตะไคร้หอมไล่ยุงทำได้หลายวิธี วิธีแรกคือการปลูกไว้รอบๆ บ้าน โดยใช้แกลบ หิน หรือใบไม้แห้งรองก้นกระถาง แล้วตามด้วยดินผสมปุ๋ยคอก เมื่อต้นตะไคร้หอมเติบโต กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยจะช่วยไล่ยุงให้ออกไปจากบริเวณบ้าน หรือจะใช้วิธีนำตะไคร้หอมประมาณ 4-5 ต้นมาทุบให้มีกลิ่น แล้ววางไว้ในห้องที่มีความชื้นและมืด กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยก็จะช่วยกำจัดยุงได้
นอกจากนี้ ตะไคร้หอมยังสามารถนำไปสกัดทำเป็นครีมทาตัวหรือสเปรย์ฉีดไล่ยุงได้อีกด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและพกพาง่าย เหมาะสำหรับการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน

มะกรูด: ไม่เพียงแค่ไล่ยุง แต่ยังป้องกันการวางไข่
มะกรูดเป็นพืชยืนต้นที่มีหนามและมีน้ำมันหอมระเหยที่มีประสิทธิภาพในการไล่ยุงหลายชนิด ทั้งยุงลาย ยุงเสือ ยุงก้นปล่อง และยุงรำคาญ การใช้มะกรูดไล่ยุงสามารถทำได้หลายวิธี วิธีแรกคือการปลูกต้นมะกรูดไว้รอบๆ บ้าน โดยเริ่มจากการเพาะเมล็ดลงในดินที่มีปุ๋ยคอกผสมอยู่ เมื่อต้นมะกรูดเติบโตขึ้น กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยจะช่วยไล่ยุงได้
อีกวิธีหนึ่งคือการนำใบหรือผิวมะกรูดมาบีบให้น้ำมันหอมระเหยออกมา แล้ววางไว้ในบริเวณที่มียุงชุกชุม นอกจากนี้ ยังสามารถนำมะกรูดไปสกัดร่วมกับตะไคร้หอมเพื่อทำเป็นสเปรย์ฉีดไล่ยุงได้อีกด้วย
ที่น่าสนใจคือ มะกรูดไม่เพียงแต่ช่วยไล่ยุงเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้ยุงมาวางไข่ได้ด้วย โดยการนำลูกมะกรูดใส่ไว้ในตุ่มน้ำหรือแขวนไว้ใกล้ปากตุ่ม จะช่วยป้องกันลูกน้ำยุงลายและป้องกันไม่ให้ยุงมาวางไข่ในแหล่งน้ำนิ่งได้

โหระพาและสะระแหน่: สมุนไพรในครัวที่มีฤทธิ์ไล่ยุงได้ดีเยี่ยม
โหระพาและสะระแหน่เป็นสมุนไพรที่หาได้ง่ายในครัวไทย และมีสรรพคุณในการไล่ยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โหระพามีกลิ่นฉุนเฉพาะตัวที่ยุงไม่ชอบ สามารถปลูกไว้รอบๆ บ้านเพื่อช่วยไล่ยุงได้ โดยวิธีที่นิยมคือการปักชำ เพียงแค่เตรียมดินให้ลึกประมาณ 20-25 เซนติเมตร นำก้านโหระพาปักลงไป คลุมด้วยฟางและรดน้ำเล็กน้อย ก็จะได้ต้นโหระพาที่มีกลิ่นฉุนช่วยไล่ยุงได้
สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกปลูก สามารถนำใบโหระพามาขยี้ให้มีกลิ่นฟุ้ง แล้วนำไปวางในบริเวณที่มียุงชุมหรือวางไว้หน้าพัดลม กลิ่นที่กระจายออกไปจะช่วยไล่ยุงได้ นอกจากนี้ ยังสามารถนำใบโหระพามาต้มในน้ำเปล่าประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วเติมแอลกอฮอล์ลงไป ก็จะได้สเปรย์ไล่ยุงไว้ใช้เวลาออกไปข้างนอก
ส่วนสะระแหน่ก็เป็นสมุนไพรไล่ยุงยอดนิยมอีกชนิดหนึ่ง มีน้ำมันหอมระเหยหลายชนิด เช่น P-Cymene, B-Pinene, Ocimene และ Limonene เป็นส่วนประกอบ ทำให้มีประสิทธิภาพในการไล่ยุงได้ดี วิธีการใช้ก็คล้ายกับโหระพา คือสามารถปลูกไว้รอบๆ บ้าน หรือนำใบสะระแหน่มาขยี้ให้มีกลิ่น แล้วนำไปวางในบริเวณที่มียุงชุม หรือทาลงบนผิวโดยตรงสำหรับผู้ที่ไม่แพ้

มะนาวและส้ม: ผลไม้รสเปรี้ยวที่ยุงไม่ชอบ
มะนาวและส้มเป็นผลไม้ในตระกูลเดียวกันที่มีน้ำมันหอมระเหยช่วยไล่ยุงได้ มะนาวมีน้ำมันหอมระเหยที่สามารถไล่ยุงก้นปล่องได้เป็นอย่างดี เพียงแค่นำเปลือกมะนาวมาบีบให้น้ำมันหอมระเหยออกมา แล้ววางไว้ในบริเวณที่มียุงชุม กลิ่นที่กระจายออกไปจะช่วยไล่ยุงได้
ส่วนส้มก็มีน้ำมันหอมระเหยในเปลือกที่ช่วยไล่ยุงได้เช่นกัน โดยในเปลือกส้มมีสารสำคัญหลายชนิด เช่น P-Cymene, B-Pinene, Ocimene, Citral และ Limonene ซึ่งล้วนแต่มีคุณสมบัติในการไล่ยุง ดังนั้น หลังจากรับประทานส้มแล้ว อย่าเพิ่งทิ้งเปลือก ให้นำมาบีบหรือขยี้ให้น้ำมันหอมระเหยออกมา แล้ววางไว้ในบริเวณที่ต้องการไล่ยุง
ทั้งมะนาวและส้มเป็นผลไม้ที่หาได้ง่ายและมีประโยชน์หลายด้าน นอกจากจะช่วยไล่ยุงแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

ยูคาลิปตัสและข่า: พลังสมุนไพรที่ยุงเกลียด
ยูคาลิปตัสเป็นไม้ยืนต้นที่มีทรงพุ่มหนา ใบยาวรูปหอกสีเขียวหม่น ในใบยูคาลิปตัสมีน้ำมันหอมระเหยชนิดพิเศษที่มีสรรพคุณช่วยไล่ยุงและแมลงได้เป็นอย่างดี วิธีการใช้ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่นำใบสดประมาณ 1 กำมือมาขยี้ให้กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยกระจายออกมา แล้วนำไปวางไว้ตามมุมห้อง ก็จะช่วยกำจัดหรือฆ่ายุงและแมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนข่าก็เป็นสมุนไพรอีกชนิดที่มีคุณสมบัติในการไล่ยุงและแมลงได้ดี โดยการทุบเหง้าให้แหลกหรือจนกระทั่งน้ำมันในข่าซึมออกมา แล้วนำไปวางในบริเวณที่ต้องการไล่ยุง กลิ่นของข่าจะช่วยไล่ยุงและแมลงไม่ให้มารบกวน
นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติในการไล่ยุงได้ เช่น แมงลัก ยี่หร่า กานพลู และขึ้นฉ่าย ซึ่งล้วนแต่มีน้ำมันหอมระเหยที่ยุงไม่ชอบเช่นกัน

วิธีทำสเปรย์สมุนไพรไล่ยุงใช้เองง่ายๆ ที่บ้าน
นอกจากการใช้สมุนไพรสดแล้ว เรายังสามารถนำสมุนไพรมาสกัดทำเป็นสเปรย์ไล่ยุงใช้เองได้ที่บ้าน ซึ่งสะดวกต่อการใช้งานและพกพา โดยมีวิธีทำดังนี้
สเปรย์ตะไคร้หอมและมะกรูด
ส่วนผสม
- ตะไคร้หอมหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 200 กรัม
- ผิวมะกรูดหั่นเล็กๆ 50 กรัม
- แอลกอฮอล์ (เอทิลแอลกอฮอล์) 1 ลิตร
- การบูร 10 กรัม
- ผ้าขาวบาง
- ขวดโหลแก้ว
- ขวดสเปรย์
วิธีทำ
- นำตะไคร้หอมและผิวมะกรูดที่หั่นแล้วห่อด้วยผ้าขาวบาง ผูกให้แน่น แล้วใส่ลงในโหลแก้ว
- เทแอลกอฮอล์ลงในโหลแก้ว ปิดฝาให้แน่น
- หมักไว้ 7 วัน โดยเขย่าโหลทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
- เมื่อครบ 7 วัน นำห่อสมุนไพรออก แล้วเติมการบูรลงไป
- นำสารละลายที่ได้บรรจุลงในขวดสเปรย์
วิธีใช้คือฉีดพ่นบริเวณที่ต้องการไล่ยุง ทั้งบนผิวกายและเสื้อผ้า แต่ควรระวังไม่ให้สัมผัสกับเยื่อบุอ่อนที่บอบบาง เช่น ตา ปาก เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ฉีดไล่แมลงอื่นๆ เช่น มด แมลงสาบ แมลงวัน รวมถึงใช้ฉีดดับกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นอับได้อีกด้วย
สเปรย์น้ำมันหอมระเหย 4 ชนิด
ส่วนผสม
- น้ำ 1-1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันละหุ่ง 1 ช้อนชา
- น้ำมันกลิ่นโรสแมรี 8 หยด
- น้ำมันกลิ่นตะไคร้หอม 8 หยด
- น้ำมันกลิ่นเจอราเนียม 4 หยด
วิธีทำ
- นำส่วนผสมทั้งหมดเทใส่ในขวดสเปรย์ขนาด 2 ออนซ์
- เขย่าให้เข้ากันก่อนนำไปใช้
ส่วนผสมนี้เหมาะสำหรับขวดสเปรย์ขนาด 2 ออนซ์ หากต้องการใช้ขวดขนาดใหญ่กว่านี้ ให้เพิ่มปริมาณส่วนผสมแต่ละชนิดตามสัดส่วน

เคล็ดลับการป้องกันยุงแบบองค์รวมในช่วงฤดูฝน
นอกจากการใช้สมุนไพรไล่ยุงแล้ว ยังมีวิธีป้องกันยุงแบบองค์รวมที่ควรทำควบคู่กันไป โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีความชื้นสูงและเป็นช่วงที่ยุงชุกชุม ดังนี้
- จัดบริเวณบ้านให้ปลอดโปร่ง ไม่มีมุมอับหรือที่มืดชื้นซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของยุง
- ปิดฝาภาชนะใส่น้ำให้มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายมาวางไข่
- ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น ที่รองตู้กับข้าว ถาดรองกระถางต้นไม้ ฯลฯ
- ใส่ทรายกำจัดลูกน้ำ ในภาชนะที่ปิดฝาไม่ได้
- กางมุ้ง หรือทาโลชั่นกันยุงก่อนนอน
- สวมเสื้อผ้าสีอ่อน และปกปิดร่างกายให้มิดชิด เพราะยุงมักจะถูกดึงดูดด้วยสีเข้ม
- ปลูกสมุนไพรไล่ยุง รอบๆ บ้าน เช่น ตะไคร้หอม โหระพา สะระแหน่ มะกรูด ฯลฯ
การป้องกันยุงที่ดีที่สุดคือการป้องกันแบบผสมผสาน โดยใช้ทั้งการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง การป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงกัด และการใช้สมุนไพรไล่ยุงควบคู่กันไป จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคที่มากับยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
สมุนไพรไล่ยุงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันยุงและโรคที่มากับยุง ไม่ว่าจะเป็นตะไคร้หอม มะกรูด โหระพา สะระแหน่ มะนาว ส้ม ยูคาลิปตัส ข่า หรือสมุนไพรอื่นๆ ล้วนมีน้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นเฉพาะตัวซึ่งยุงไม่ชอบ สามารถนำมาใช้ในรูปแบบต่างๆ ได้ ทั้งการปลูกไว้รอบบ้าน การนำมาขยี้หรือทุบให้มีกลิ่น และการสกัดทำเป็นสเปรย์ไล่ยุง
การใช้สมุนไพรไล่ยุงนอกจากจะช่วยป้องกันยุงและโรคที่มากับยุงแล้ว ยังเป็นการลดการใช้สารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายและหาได้ง่ายในครัวเรือนทั่วไป จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับทุกคนในครอบครัว
#สาระ #สมุนไพรไล่ยุง #ตะไคร้หอม #มะกรูด #โหระพา #สะระแหน่ #ยูคาลิปตัส #สเปรย์กันยุง #น้ำมันหอมระเหย #ธรรมชาติบำบัด #ปลอดสารเคมี