KAVE playground

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 คำนวณอย่างไร? พร้อมวิธีจ่ายให้ถูกต้องตามกฎหมาย

การเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นหน้าที่ของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ทุกคน ในปี 2568 มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางประการและขยายเวลาการชำระภาษี ผู้เป็นเจ้าของบ้าน คอนโด ที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างต่างๆ จำเป็นต้องเข้าใจรายละเอียดการคำนวณภาษี อัตราการจัดเก็บ และวิธีชำระภาษีอย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงเบี้ยปรับและดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคืออะไร และเริ่มใช้เมื่อไหร่?

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า “ภาษีที่ดิน” เป็นภาษีที่จัดเก็บเป็นรายปีตามมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 และเริ่มจัดเก็บภาษีครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นผู้จัดเก็บภาษี

ภาษีนี้เข้ามาแทนที่ภาษีโรงเรือนและที่ดิน รวมถึงภาษีบำรุงท้องถิ่นแบบเดิม เพื่อให้การจัดเก็บภาษีมีความเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการคำนวณภาษีจะใช้มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นฐานในการคิดคำนวณ แบ่งเป็น 3 รายการคือ

  1. ที่ดิน – ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน
  2. สิ่งปลูกสร้าง – ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์สิ่งปลูกสร้าง
  3. สิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุด – ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด

โดยองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นจะประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์และอัตราภาษีที่เรียกเก็บในแต่ละปี ซึ่งราคาประเมินทุนทรัพย์นี้จะเป็นราคาเดียวกันกับราคาประเมินทุนทรัพย์ของกรมที่ดิน

ประเภทของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำแนกอย่างไร?

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบ่งออกเป็น 4 ประเภทตามลักษณะการใช้ประโยชน์ ได้แก่:

1. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย

ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย เช่น บ้าน คอนโด ทาวน์เฮาส์ โดยแบ่งเป็น 3 กรณี:

  1. บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว (มีชื่อในทะเบียนบ้าน)
  2. บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว เช่น คอนโด (มีชื่อในทะเบียนบ้าน)
  3. บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง 2 หลังขึ้นไป

2. ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม

ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการสร้างรายได้ เช่น สำนักงาน ออฟฟิศ ร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรือพื้นที่ที่ใช้ประกอบธุรกิจต่างๆ

3. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ในการเกษตร เช่น ทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ ประมง เพาะเลี้ยงพืชหรือสัตว์ต่างๆ รวมถึงการทำสวนป่า นาเกลือ และการเพาะเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ แบ่งตามเจ้าของเป็น:

  1. บุคคลธรรมดา
  2. นิติบุคคล

4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า

ที่ดินที่ไม่ได้ทำประโยชน์หรือถูกทิ้งร้าง ซึ่งจะถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าประเภทอื่นๆ และมีบทลงโทษเพิ่มเติมหากปล่อยทิ้งร้างเป็นเวลานาน

อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 เสียเท่าไหร่?

อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2568 จะจัดเก็บตามประเภทการใช้ประโยชน์ ดังนี้:

1. อัตราภาษีที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย

บุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว (มีชื่อในทะเบียนบ้าน)

  • มูลค่า 0-50 ล้านบาท: ได้รับการยกเว้นภาษี
  • มูลค่า 50-75 ล้านบาท: อัตรา 0.03%
  • มูลค่า 75-100 ล้านบาท: อัตรา 0.05%
  • มูลค่าเกิน 100 ล้านบาท: อัตรา 0.1%

บุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว (มีชื่อในทะเบียนบ้าน)

  • มูลค่า 0-10 ล้านบาท: ได้รับการยกเว้นภาษี
  • มูลค่า 10-50 ล้านบาท: อัตรา 0.02%
  • มูลค่า 50-75 ล้านบาท: อัตรา 0.03%
  • มูลค่า 75-100 ล้านบาท: อัตรา 0.05%
  • มูลค่าเกิน 100 ล้านบาท: อัตรา 0.1%

บุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง 2 หลังขึ้นไป

  • มูลค่า 0-50 ล้านบาท: อัตรา 0.02%
  • มูลค่า 50-75 ล้านบาท: อัตรา 0.03%
  • มูลค่า 75-100 ล้านบาท: อัตรา 0.05%
  • มูลค่าเกิน 100 ล้านบาท: อัตรา 0.1%

2. อัตราภาษีที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม

  • มูลค่า 0-50 ล้านบาท: อัตรา 0.3%
  • มูลค่า 50-200 ล้านบาท: อัตรา 0.4%
  • มูลค่า 200-1,000 ล้านบาท: อัตรา 0.5%
  • มูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท: อัตรา 0.6%
  • มูลค่าเกิน 5,000 ล้านบาท: อัตรา 0.7%

3. อัตราภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

บุคคลธรรมดา

  • มูลค่า 0-50 ล้านบาท: ได้รับการยกเว้นภาษี
  • มูลค่า 50-125 ล้านบาท: อัตรา 0.01%
  • มูลค่า 125-150 ล้านบาท: อัตรา 0.03%
  • มูลค่า 150-550 ล้านบาท: อัตรา 0.05%
  • มูลค่า 550-1,050 ล้านบาท: อัตรา 0.07%
  • มูลค่าเกิน 1,050 ล้านบาท: อัตรา 0.1%

นิติบุคคล

  • มูลค่า 0-75 ล้านบาท: อัตรา 0.01%
  • มูลค่า 75-100 ล้านบาท: อัตรา 0.03%
  • มูลค่า 100-500 ล้านบาท: อัตรา 0.05%
  • มูลค่า 500-1,000 ล้านบาท: อัตรา 0.07%
  • มูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท: อัตรา 0.1%

4. อัตราภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่า

  • มูลค่า 0-50 ล้านบาท: อัตรา 0.3%
  • มูลค่า 50-200 ล้านบาท: อัตรา 0.4%
  • มูลค่า 200-1,000 ล้านบาท: อัตรา 0.5%
  • มูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท: อัตรา 0.6%
  • มูลค่าเกิน 5,000 ล้านบาท: อัตรา 0.7%

หมายเหตุ: หากปล่อยที่ดินรกร้างว่างเปล่าต่อเนื่องเกิน 3 ปี อัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นอีก 0.3% ทุกๆ 3 ปี แต่รวมแล้วไม่เกิน 3%

วิธีคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พร้อมตัวอย่างการคำนวณ

การคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสามารถทำได้ตามสูตรและตัวอย่างต่อไปนี้:

1. สูตรคำนวณภาษีที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง

ภาษีที่ต้องจ่าย = มูลค่าที่ดิน × อัตราภาษี

ตัวอย่าง: เจ้าของบริษัทสีข้าว จดทะเบียนในนามนิติบุคคล มีที่ดินเพื่อการเกษตรสำหรับปลูกข้าวมูลค่า 90 ล้านบาท

  • อัตราภาษีที่ดินของนิติบุคคลเพื่อการเกษตรมูลค่า 75-100 ล้านบาท อยู่ที่ 0.03%
  • ภาษีที่ต้องจ่าย = 90,000,000 × 0.03% = 27,000 บาท

2. สูตรคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ภาษีที่ต้องจ่าย = (มูลค่าที่ดิน + มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง) × อัตราภาษี

ตัวอย่าง: เจ้าของที่ดินมูลค่า 60 ล้านบาท และมีบ้านเดี่ยวมูลค่า 20 ล้านบาท

  • รวมมูลค่า = 60 + 20 = 80 ล้านบาท
  • อัตราภาษีบุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหลังเดียวมูลค่า 75-100 ล้านบาท อยู่ที่ 0.05%
  • ภาษีที่ต้องจ่าย = 80,000,000 × 0.05% = 40,000 บาท

3. สูตรคำนวณภาษีสำหรับห้องชุด

ภาษีที่ต้องจ่าย = มูลค่าห้องชุด × อัตราภาษี

ตัวอย่าง: เจ้าของคอนโดมูลค่า 30 ล้านบาท

  • อัตราภาษีบุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้างหลังเดียวมูลค่า 10-50 ล้านบาท อยู่ที่ 0.02%
  • ภาษีที่ต้องจ่าย = 30,000,000 × 0.02% = 6,000 บาท

ใครบ้างที่ได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง?

รัฐบาลมีมาตรการลดหย่อนและยกเว้นภาษีสำหรับทรัพย์สินบางประเภท ดังนี้:

1. ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับลดหย่อนภาษี 50%

  • ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับมาจากการรับมรดกก่อนวันที่ 13 มีนาคม 2562
  • ที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงผลิตไฟฟ้าและพื้นที่เกี่ยวเนื่อง
  • ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นเขื่อนเพื่อการผลิตไฟฟ้า
  • ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นโรงงานผลิตน้ำประปาและพื้นที่เกี่ยวข้อง

2. ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับลดหย่อนภาษี 90%

  • อสังหาริมทรัพย์รอการขายของสถาบันการเงิน (ไม่เกิน 5 ปี)
  • ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นโครงการจัดสรร (ไม่เกิน 3 ปี)
  • ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นอาคารชุด (ไม่เกิน 3 ปี)
  • ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ในกิจการของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
  • ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ในกิจการของโรงเรียนเอกชน
  • ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นสถานที่ให้บริการสาธารณะ เช่น สวนสัตว์ สวนสนุก ที่จอดรถไฟฟ้า

ต้องชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเมื่อไหร่ และชำระที่ไหน?

ผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ได้แก่:

  • ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง
  • ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทรัพย์สินของรัฐ

ในแต่ละปี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นผู้ประเมินและส่งแบบประเมินภาษีให้กับผู้มีหน้าที่เสียภาษีภายในเดือนกุมภาพันธ์

สำหรับปี 2568 มีการขยายระยะเวลาชำระภาษีออกไปอีก 2 เดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม:

  • งวดที่ 1: ชำระภายในเดือนมิถุนายน 2568 (เดิมเมษายน 2568)
  • งวดที่ 2: ชำระภายในเดือนกรกฎาคม 2568 (เดิมพฤษภาคม 2568)
  • งวดที่ 3: ชำระภายในเดือนสิงหาคม 2568 (เดิมมิถุนายน 2568)

ในกรณีที่ต้องการขอผ่อนชำระภาษี สามารถขอผ่อนได้ 3 งวด ในระยะเวลา 3 เดือน โดยค่าภาษีต้องมีขั้นต่ำ 3,000 บาทขึ้นไป

สถานที่ชำระภาษี

  • กรุงเทพมหานคร: ชำระที่สำนักงานเขต
  • เมืองพัทยา: ชำระที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
  • เทศบาล: ชำระที่สำนักงานเทศบาล
  • องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.): ชำระที่ที่ทำการ อบต.

ผลกระทบหากไม่ชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามกำหนด

การละเลยหรือหลีกเลี่ยงการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีบทลงโทษที่ชัดเจน แบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้:

1. เบี้ยปรับ

  • เบี้ยปรับ 10% ของค่าภาษีค้างชำระ – กรณีไม่ชำระภายในกำหนด แต่ชำระก่อนได้รับหนังสือเตือน
  • เบี้ยปรับ 20% ของค่าภาษีค้างชำระ – กรณีไม่ชำระภายในกำหนด แต่ชำระภายในระยะเวลาที่กำหนดในหนังสือเตือน
  • เบี้ยปรับ 40% ของค่าภาษีค้างชำระ – กรณีไม่ชำระภายในระยะเวลาที่กำหนดในหนังสือเตือน

2. เงินเพิ่ม (ดอกเบี้ย)

คิดเป็นอัตราดอกเบี้ย 1% ต่อเดือนของเงินภาษีที่ค้างชำระ โดยไม่คิดทบต้น เริ่มนับจากวันที่พ้นกำหนดชำระภาษี

3. โทษทางอาญา

กรณีหลีกเลี่ยงภาษีหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษี มีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับนิติบุคคล กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานอาจต้องรับโทษทางอาญาเช่นเดียวกัน

วิธีการวางแผนเพื่อบริหารจัดการภาษีที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ

เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสามารถวางแผนเพื่อบริหารจัดการภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนี้:

1. เลือกจดทะเบียนบ้านหลังหลักให้เหมาะสม

พิจารณาว่าบ้านหลังใดที่มีมูลค่าสูงที่สุด และจดทะเบียนเป็นบ้านหลังหลัก (มีชื่อในทะเบียนบ้าน) เพื่อได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท

2. ใช้ประโยชน์ที่ดินให้เหมาะสมกับประเภทภาษี

ที่ดินว่างเปล่าจะถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูง พิจารณาใช้ประโยชน์ที่ดินในด้านเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัยเพื่อลดอัตราภาษี

3. ตรวจสอบสิทธิในการได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษี

ศึกษาข้อมูลว่าทรัพย์สินของคุณมีสิทธิได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีหรือไม่ และดำเนินการยื่นเอกสารให้ถูกต้อง

4. วางแผนการชำระภาษีให้ตรงเวลา

ชำระภาษีตามกำหนดเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม หากมีภาระภาษีสูง สามารถขอผ่อนชำระเป็นงวดได้

5. ขอคืนภาษีในกรณีชำระเกิน

ในกรณีที่ชำระภาษีเกินกว่ายอดที่ควรจ่าย สามารถยื่นคำร้องต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อขอเงินคืนได้ภายใน 3 ปีนับจากวันที่ชำระภาษีเกิน

สรุป

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นภาษีที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ทุกคนต้องให้ความสำคัญ การเข้าใจวิธีการคำนวณ อัตราภาษี และกำหนดเวลาชำระภาษีอย่างถูกต้อง จะช่วยให้เจ้าของทรัพย์สินสามารถวางแผนและบริหารจัดการภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงในการถูกปรับหรือถูกดำเนินคดี

สำหรับปี 2568 มีการขยายระยะเวลาชำระภาษีออกไปอีก 2 เดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ดังนั้น ควรติดตามข่าวสารและประกาศจากหน่วยงานราชการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง


#สาระ #การเงิน #ภาษีที่ดิน #ภาษีสิ่งปลูกสร้าง #ภาษี2568 #การคำนวณภาษี #ภาษีอสังหาริมทรัพย์ #ยกเว้นภาษี #ลดหย่อนภาษี #บทลงโทษภาษี #ชำระภาษี

อ่านเพิ่ม

หมายเหตุ ข้อจำกัดความรับผิดชอบ : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลทั่วไปสำหรับเว็บไซต์ Homeday โดย บริษัท โฮมเดย์ กรุ๊ป จำกัด เท่านั้น บริษัทไม่สามารถให้คำมั่นหรือคำรับประกันเกี่ยวกับเนื้อหา รวมถึงไม่สามารถรับรองความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์เฉพาะใดๆ ตามขอบเขตของกฎหมาย เราจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลที่ปรากฏในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วนสมบูรณ์ ณ เวลาที่จัดทำ ข้อมูลดังกล่าวไม่ควรนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินใจด้านการเงิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือประเด็นกฎหมายโดยทันที ผู้อ่านไม่ควรอาศัยข้อมูลในบทความนี้แทนคำแนะนำจากผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกฝนซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและสภาวะเฉพาะของท่านได้ ทั้งนี้ ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ หากท่านเลือกที่จะนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจของท่าน

The Palm (copy)
Sidebar
บทความล่าสุด
CEO BAM – 2 กูรูอสังหาฯ’ ฟันธง! ลงทุนทรัพย์มือสองกับ BAM รับผลตอบแทนสูงสุด 29% แถมเสี่ยงต่ำ ชี้! ยุคนี้ เป็นโอกาสทองของ NPA
ข่าวสาร
เซ็นทรัลพัฒนา ย้ำผู้นำอสังหาฯ ไทยยั่งยืน ตั้งบริษัท “เซ็นทรัลพัฒนากรีนโกรท” มุ่งสู่ Decarbonization อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมผนึกพันธมิตรสายกรีนต่อยอด Better Futures Project ปี 4 “RE” Lifestyle Roadshow ทั่วทุกภูมิภาค
ข่าวสาร
เอพี ไทยแลนด์ ผู้นำทาวน์โฮมและบ้านแฝด เดินเกม ZONING EXPANSION บุกทำเลใหม่ ‘เมืองเอก วิภาวดี-รังสิต’
ข่าวสาร
สัมผัสบรรยากาศหรูในสไตล์ Mountain Resort “โครงการบ้านสีตวัน ปากช่อง-เขาใหญ่”
ข่าวสาร
บ้านแข็งแรง…เริ่มต้นจากรากฐานที่ดี “พรีคาสท์” เทคโนโลยีสร้างบ้านแกร่ง รากฐานแห่งความมั่นคงของที่อยู่อาศัยยุคใหม่
ข่าวสาร
รีวิวโครงการ
รีวิว เดอะ ซิกเนเจอร์ สุขุมวิท 77 (The Signature Sukhumvit 77) บ้านหรูระดับ Super Luxury บททำเลอ่อนนุช-ลาดกระบัง
Review
รีวิว เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา (Kave Playground Ladprao-Bodindecha) คอนโดใหม่ Fully Furnished ติดบดินทรเดชาฯ ส่วนกลางจัดเต็ม 60 รายการ และโซน Pet-Friendly แยกตึก
Review
รีวิว ศุภาลัย เลค วิลล์ จันทบุรี (Supalai Lake Ville Chanthaburi) บ้านหรูสไตล์ Tropical Modern ใจกลางธรรมชาติริมทะเลสาบกว่า 10 ไร่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน รองรับชีวิตระดับพรีเมียมในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของจันทบุรี
Review
รีวิว ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง (Supalai River Ville Rayong) บ้านเดี่ยวหรู สไตล์ Modern Tropical Series ฟีลดีติดริมแม่น้ำ ทำเลคุณภาพใจกลางเมืองระยอง
Review
รีวิว ศุภาลัย เบลล่า พระราม 2-วงแหวน ครบครันทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ดีไซน์ใหม่ ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองยุคใหม่ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร
Review
Loading..